จากดาวรุ่งสู่ตำนาน : สดุดี มาร์เซโล่ สุดยอดนักเตะของ เรอัล มาดริด

โดยในงานดังกล่าวถือว่าเป็นการรวมตัวกันของสุดยอดแข้งระดับตำนานของสโมสร เพื่อเป็นหนึ่งในสักขีพยานในวันที่ดาวเตะวัย 34 กำลังจะโบกมือลาต้นสังกัดที่เขาค้าแข้งมาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี

ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราเลยอยากจะสดุดีในความยอดเยี่ยมของชายผู้นี้ จากแข้งโนเนมที่ไม่มีใครรู้จัก ก่อนก้าวขึ้นมาเป็นตำนานพร้อมความยิ่งใหญ่ระดับต้นๆ ของวงการลูกหนัง

ย้ายมาในฐานะดาวรุ่ง

ย้อนกลับไปช่วงเดือนมกราคม 2007 เรอัล มาดริด ได้ทำการเปิดตัวนักเตะดาวรุ่งวัย 19 ปี ณ ขณะนั้นจากสโมสร ฟลูมิเนนเซ่ แน่นอนว่าชื่อเสียงของเขานั้นอาจไม่ค่อยคุ้นหูเหล่าแฟนบอลมากเท่าไหร่นัก เพราะด้วยอายุ บวกกับการโยกย้ายมาค้าแข้งในยุโรปครั้งแรกย่อมต้องพิสูจน์ตัวเองมากเหลือเกินว่าดีพอกับสโมสรระดับ "ราชันชุดขาว"

เกมแรกในสีเสื้อ เรอัล มาดริด คือในศึกลาลีกา สเปน เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2017 ซึ่งเจ้าตัวได้โอกาสลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมที่พบกับ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ได้ลงเล่นไปทั้งหมด 33 นาที พร้อมผลการแข่งขันที่ไม่น่าจดจำ เพราะทีมของเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไปด้วยสกอร์ 2-0 ก่อนที่หลังจากนั้นชื่อของเขาจะหายไปจากทีมถึง 4 เกมติดต่อกัน

รวมแล้วครึ่งซีซั่นแรกในการมาค้าแข้งในยุโรปถือว่าอาจจะไม่ค่อยสวยงามมากนัก เนื่องด้วยโอกาสลงสนามค่อนข้างจำกัดรวมแล้วลงเล่นไปเพียง 6 นัด ซึ่งในจำนวนดังกล่าวได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงเพียงเกมเดียวเท่านั้น

ก้าวขึ้นสู่ตัวหลักของทีม

แม้ช่วงแรกกับการโยกย้ายมาเล่นในยุโรปอาจไม่ค่อยได้รับโอกาสมากนัก แต่ทว่าพลันที่ม่านของฤดูกาล 2007-08 เปิดขึ้น เจ้าตัวใช้เวลาไม่นานในการก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของสโมสร ยึดบทบาทแบ็คซ้ายตัวจริงของทีมได้สำเร็จ ได้โอกาสลงเล่นเป็นตัวจริงอย่างต่อเนื่องทั้งในเกมลีก และฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่าง แชมเปี้ยนส์ลีก

ซึ่งในซีซั่นดังกล่าว มาร์เซโล่ ลงสนามให้กับทัพ "ราชันชุดขาว" ไปทั้งหมดในทุกรายการ 32 นัด ทำไปได้ 3 แอสซิสต์ ก่อนปิดท้ายด้วยการคว้าแชมป์ลาลีกา มาครองได้สำเร็จ

ถือว่าเป็นแชมป์ 2 สมัยติดต่อกันของเจ้าตัว ภายหลังครึ่งซีซั่นแรกที่ย้ายมานั้นก็เป็นส่วนหนึ่งในขุมกำลังของสโมสร ก่อนเป็นกำลังสำคัญสู่ความสำเร็จดังกล่าว

ฉะนั้นแล้วในช่วงซีซั่น 2007-08 ที่ผ่านมาเขาพิสูจน์แล้วว่าดีพอในการยืนเป็นตัวจริง และสามารถเป็นที่พึ่งพาของทีมได้ อีกทั้งยังโดดเด่นทั้งเกมรับ และเกมรุก เรียกได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ค่อนข้างครบเครื่อง และยังคงพัฒนาตัวเองไปให้ไกลกว่านี้ได้อีก

ยืนระยะยาวนาน

ว่ากันตามสถิติมันหายากมากจริงๆ ที่นักเตะสักหนึ่งคนจะสามารถยืนระยะของตัวเองกับสโมสรในระดับสูงแบบ เรอัล มาดริด ได้ยาวนานกว่า 15 ฤดูกาลติดต่อกัน แถมยังคงเป็นตัวหลักที่พร้อมลงช่วยทีมในทุกสถานการณ์เพื่อไล่ล่าความสำเร็จ

แน่นอนว่า มาร์เซโล่ สามารถทำได้ พร้อมการลงเล่นแบบสม่ำเสมอนับตั้งแต่ปี 2007 เป็นต้นมาเขาคือจิ๊กซอว์คนสำคัญของทีมมาตลอด ไม่ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือมาแล้วกี่คน ยังไงเสียชายผู้นี้ยังคงเป็นตัวเลือกแรกของทีมตลอด และยังคงเป็นแบบนั้นจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายกับสโมสรแห่งนี้

ลองไล่ดูสถิติรวมแล้วทั้งหมดเจ้าตัวลงเล่นให้กับ เรอัล มาดริด ไปมากถึง 545 เกม พร้อมทำไปได้ 38 ประตู พ่วงกับอีก 103 แอสซิสต์ 

ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่ต้องยอมรับคือเรื่องของร่างกายที่โคตรแข็งแกร่งของเขา อย่างที่เรารู้กันว่าในแต่ละซีซั่น เรอัล มาดริด ลงเล่นในทุกถ้วยรวมกันมากกว่า 50 เกมมาโดยตลอด และมี มาร์เซโล่ เป็นคนสำคัญทุกครั้ง ฉะนั้นแล้วควรต้องคารวะในเรื่องของการดูแลตัวเองของเขา ที่ทำให้สามารถยืนระยะกับฟุตบอลระดับสูงได้นานขนาดนี้ 

และคงไม่แปลกถ้าจะบอกว่า มาร์เซโล่ คือแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของ เรอัล มาดริด 

แชมป์กับ เรอัล มาดริด

16 ปี 25 แชมป์ นี่คือจำนวนความสำเร็จที่ไม่เคยมีนักเตะของ เรอัล มาดริด คนใดได้โอกาสสัมผัสมากเท่ากับชายผู้นี้อีกแล้ว จากความสำเร็จแรกที่เริ่มนับหนึ่ง คงไม่มีใครคาดคิดว่าที่เหลือต่อจากนั้นคือตำนานที่เขากำลังขีดเขียนไปพร้อมๆ กับทีม

แน่นอนว่าด้วยชื่อชั้นระดับ เรอัล มาดริด ย่อมเป็นสโมสรต้นๆ ที่ลุ้นประสบความสำเร็จในทุกฤดูกาล ซึ่งในห้วงเวลากว่า 16 ปี ก็มักจะมีชื่อชายผู้นี้ยืนเคียงข้างไปด้วยเสมอ จนกลายเป็นภาพคุ้นตาไปแล้วกับการชูโทรฟี่แชมป์ขึ้นเหนือหัวจากบทบาทนักเตะคนหนึ่ง ก้าวขึ้นสู่กัปตันที่เป็นคนนำลูกทีมขึ้นรับความสำเร็จ

โดยแชมป์ทั้งหมดที่ผ่านมือ มาร์เซโล่ นั้นสามารถแจกแจงได้ดังนี้ ... ลาลีกา สเปน 6 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, ซูปเปอร์โกปา 5 สมัย, แชมเปี้ยนส์ลีก 5 สมัย, ซูปเปอร์ คัพ 3 สมัย และ สโมสรโลก 4 สมัย

ปิดฉากตำนาน

"ทุกเช้าที่ชีวิตผมตื่นขึ้นมา ผมรู้สึกมีความสุข และสนุกกับมันมากๆ ในการเล่นให้กับสโมสรที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก วันนี้ผมขอย้ายออกจากทีมในฐานะนักเตะ แต่มันจะไม่ใช่การจากลาตลอดไป เพราะผมไม่รู้สึกเลยว่า ผมกำลังจะย้ายออกจาก เรอัล มาดริด"

คำกล่าวในวันอำลาพร้อมน้ำตาที่ไม่อาจกลั้นเอาไว้ได้อยู่ ในวันที่ต้องโบกมือลาสถานที่ และผู้คนที่ผูกพันมานานกว่า 16 ปี 

จากวันแรกที่เดินเข้ามาสู่ทีมในฐานะนักเตะดาวรุ่งคนหนึ่งจากบราซิลที่ต้องพิสูจน์ตัวเองต่อทั้งทุกคนในสโมสร และแสดงฝีเท้าให้เป็นที่ยอมรับของแฟนบอล วันเวลาช่วยให้เขากลายเป็นนักเตะที่ขึ้นหิ้งตำนานแบบที่เขาไม่ต้องร้องขอ เพราะทุกอย่างตลอดระยะเวลาได้พิสูจน์ในตัวมันให้เห็นแล้ว

ทุกงานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา แด่ตำนานตลอดไปของ เรอัล มาดริด ... มาร์เซโล่

- Paolinho -