logo-heading

ราฟินญ่า ถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีกระแสข่าวย้ายทีม เปลี่ยนไปเปลี่ยนมามากที่สุดคนหนึ่งในตลาดซัมเมอร์นี้ มีทีมถูกสลับสับเปลี่ยนขึ้นมาเป็นตัวเต็งที่จะคว้าเขาไปร่วมทัพมากถึง 4 ครั้ง

แต่แล้วล่าสุดก็ดูเหมือนจะได้บทสรุปสักที แต่มันก็ค่อนข้างอลเวง จากข่าวบอกจ่อจะย้ายไปเชลซี จู่ ๆ มาจบด้วยการจ่อปิดดีลกับ บาร์ซ่า และว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเรา จะขอพาไปไล่ไทม์ไลน์ของราฟินญ่าสักหน่อย ว่านักเตะคนนี้เคยมีกระแสจะได้ไปอยู่กับทีมไหนมาบ้าง? และมันมีสาเหตุอะไรที่ทำให้สถานการณ์ของเขาเปลี่ยนแปลงแทบตลอดเวลา …

 

โดยต้องเริ่มจากการพูดว่า ราฟินญ่า คือหนึ่งในนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดในช่วงที่ผ่าน ๆ มา เขามีข่าวกับบิ๊กทีมมาแทบทุกสโมสรในยุโรป แต่สถานการณ์อนาคตของราฟินญ่า เริ่มมีทีมเต็งเป็นครั้งแรก ในช่วงครึ่งหลังฤดูกาล 2021/22 หรือราว ๆ ในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

นั่นก็คือ บาร์เซโลน่า จากการรายงานของหลายสื่อในสเปน ระบุว่า เจ้าบุญทุ่มต้องการตัวแนวรุกบราซิลเลี่ยนคนนี้ และตัวราฟินญ่าก็ต้องย้ายมาร่วมถิ่นคัมป์ นูด้วยเช่นกัน

จากนั้นไม่นาน มีความคืบหน้ามาอย่างรวดเร็ว เจ้าบุญทุ่มสามารถบรรลุข้อตกลงเรื่องสัญญาส่วนตัวกับนักเตะได้เป็นที่เรียบร้อย เหลือรอเจรจ่าเรื่องค่าตัวกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด

แต่หลังจากที่ทัพยูงทองอยู่รอดบนพรีเมียร์ลีก จากเงื่อนไขค่าสัญญาฉีกสัญญาเพียง 29 ล้านยูโรหากตกชั้น ก็ไม่มีอีกแล้ว และค่าฉีกของเขากลายเป็นสูงถึง 87 ล้านยูโร จึงทำให้บาร์ซ่าที่มีปัญหาเรื่องการเงิน ยังไม่มีการขยับเพิ่มเติม

 

จนหลังปิดฤดูกาลมาเดือนมิถุนายน ตลาดซื้อขายได้เปิดขึ้น ทีมเต็งที่จะคว้าราฟินญ่า ยังคงเป็นบาร์เซโลน่าทีมเดียว เพราะใจนักเตะไปอยู่ที่คัมป์ นูเรียบร้อย

แต่นักเตะฝีเท้าระดับนี้ เคยเนื้อหอมได้รับความสนใจมามากมาย มันคงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีทีมมาร่วมแข่งขันกับบาร์ซ่า

เริ่มจาก อาร์เซน่อล จากการรายงานของดิ แอธเลติก สื่อสุดแม่นแห่งเกาะอังกฤษ ระบุว่าทัพปืนใหญ่ เตรียมเดินหน้าไล่ล่าลายเซ็นราฟินญ่า และรายงานยังบอกว่าพวกเขาสนใจแข้งรายนี้มาตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว ก่อนจะตามมาด้วย เชลซี และ สเปอร์ส ที่เริ่มติดต่อกับเอเยนต์ราฟินญ่าอย่าง เดโก้ ด้วยเช่นกัน

แต่เป็นอาร์เซน่อลที่เดินเกมเร็วกว่าใครเพื่อน มีข่าวว่าพวกเขาเตรียมทุ่มเงินเพื่อสู่ขอราฟินญ่า และทำให้ในช่วงนั้นหรือราว ๆ กลางเดือนมิถุนายน เดอะ กันเนอร์ส ถูกบ่อนพนันถูกกฎหมายต่างประเทศ ยกให้เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าตัวราฟินญ่าแทนที่บาร์เซโลน่าแล้ว

 

แต่ข้อเสนอของไอ้ปืนใหญ่ก็ถูกปฏิเสธแบบไม่ทราบจำนวนแน่ชัด โดยลีดส์แจ้งชัดเจนว่าพวกเขาต้องการที่ตัวเลขราว ๆ 70-75 ล้านยูโร

ทำให้สถานการณ์ทีมที่สนใจราฟินญ่าในตอนนั้น ไล่จากปืนใหญ่โดนปัดข้อเสนอแรกทิ้งไป, ฝั่งสเปอร์สแจ้งว่าต้องการจะยื่นข้อเสนอด้วย แต่ก็ยังไม่ยื่นสักทีจวบจนปัจจุบัน, ส่วนบาร์ซ่าสามารถตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับนักเตะได้เป็นเดือนแล้ว แต่ลีดส์ยืนยันรับตัวเลขที่เจ้าบุญทุ่มพร้อมจ่ายแค่ราว ๆ 45 ล้านยูโรในตอนนั้น ส่วนเชลซีก็กำลังรอดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

จากนั้นในวันที่ 25 มิถุนายน ยังคงเป็นปืนใหญ่ที่ทำท่าจะออกเพิ่มอีกหมัด ดิ แอธเลติกรายงานว่าอาร์เซน่อล ได้นัดพูดคุยกับเอเยนต์อย่างเดโก้ เพื่อเร่งเครื่องอยากปิดดีลราฟินญ่า พร้อมเตรียมอัพข้อเสนอให้ไปใกล้กับตัวเลขที่ลีดส์ต้องการมากขึ้น ทำให้ ณ ตอนนั้น กันเนอร์สยิ่งดูเป็นตัวเต็งที่จะคว้าแข้งแซมบ้ารายนี้เพิ่มขึ้นไปอีก

 

และแล้วในคืนวันที่ 28 มิถุนายน ก็มีข่าวว่าลีดส์ได้บรรลุข้อตกลงค่าตัวสำหรับปล่อยราฟินญ่าได้เป็นครั้งแรกแล้ว แต่กลับไม่ใช่กับ 2 ทีมเต็ง อย่างอาร์เซน่อลหรือบาร์เซโลน่า แต่เป็น เชลซี ที่ล่อจะมาปาดหน้าเค้ก หลัง ท็อดด์ โบห์ลี่ เจ้าของอนุมัติเงินราว ๆ 65-70 ล้านยูโรในการยื่นซื้อราฟินญ่า

สถานการณ์ตอนนี้กลับตาลปัตรมาอยู่ที่ฝั่งสิงห์บลูส์ทั้งหมด เหลือแค่พวกเขาบรรลุข้อตกลงส่วนตัวกับนักเตะ และ เดโก้ เอเยนต์ผู้เป็นอดีตแข้งสิงห์บลูส์ เหลือแค่ด่านสุดท้าย หากได้ข้อสรุปก็ปิดดีลได้เลย เพราะทางอาร์เซน่อลก็ไม่อยากจะยื่นในตัวเลขระดับเดียวกับเชลซี ส่วนฝั่งบาร์ซ่านอกจากมีปัญหาเรื่องการเงินแล้ว เจ้าบุญทุ่มยังติดพันกับการไล่ล่าเป้าหมายอันดับ 1 อย่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อีกด้วย

ทำให้ตอนนั้นหลายสื่อต่างใช้คำว่า ราฟินญ่าจ่อได้ย้ายร่วมทัพเชลซี และเป็นครั้งแรกที่สถานการณ์ของแข้งแซมบ้าคนนี้ ได้ถึงคำว่า “จ่อ” สักที

 

แต่มันก็ยังไม่มีความชัดเจนสักที เมื่อตัวนักเตะและเอเยนต์ยังคงดึงเช็ง ไม่ยอมให้คำตอบกับสิงห์บลูส์ และแล้วก็มีรายงานหนาหู ว่าราฟินญ่ายังต้องการย้ายไปบาร์ซ่ามากกว่า และต้องไม่ลืมว่าเอเยนต์อย่าง เดโก้ ก็เป็นอดีตนักเตะ บาร์เซโลน่า ด้วยเช่นกัน แถมค้าแข้งกับทีมนี้นานกว่าเชลซีอีกด้วย และตัวเขาเองก็ต้องการให้นักเตะในสังกัด ย้ายเข้าถิ่นคัมป์ นูมากกว่า

จากนั้นในวันที่ 29 มิถุนายน ได้มีภาพหลุดที่ เดโก้ โผล่ไปคุยกับบอร์ดบาร์ซ่าถึงออฟฟิศสโมสร พร้อมกับข่าวที่รายงานเรื่องกำลังทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นของเจ้าบุญทุ่ม หลังเอาลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด 10 เปอร์เซ็นต์ ไปจำนองเป็นเวลา 25 ปี และได้เงินกลับมามากกว่า 200 ล้านยูโร

และ บาร์ซ่า ก็ได้ยื่นข้อเสนอใหม่เข้าไปให้ลีดส์ที่ราว ๆ 55 ล้านยูโร ซึ่งก็โดนปฏิเสธมาตามระเบียบ เพราะยังน้อยกว่าของเชลซีอย่างต่ำ 5-10 ล้าน แต่ด้วยการผลักดันของราฟินญ่าที่ต้องการย้ายไปอยู่กับทีมในฝันตั้งแต่เด็กของเขา ทำให้ เดโก้ พยายามไกล่เกลี่ยขอลีดส์ยอมรับข้อเสนอของบาร์ซ่า

ทำให้สถานการณ์ในขณะนั้นค่อนข้างซับซ้อนเล็กน้อย คือนักเตะต้องการย้ายไปบาร์ซ่า แต่เจ้าบุญทุ่มไม่พร้อมจ่ายในระดับเดียวกับเชลซี จึงเป็นที่น่าสนใจว่าสิงห์บลูส์จะพร้อมรอคำตอบได้นานถึงขนาดไหน และพวกเขาจะสามารถเปลี่ยนใจราฟินญ่าได้หรือไม่ แถมก็มีรายงานว่าหากบาร์ซ่าไม่สามารถตกลงกับลีดส์ได้ ตัวนักเตะเองก็โอเคที่ย้ายไปเชลซีแทน จึงทำให้โอกาสสามารถออกได้ทั้งสองหน้า

 

แต่แล้วคืนวันที่ 30 มิถุนายน ก็เริ่มมีสัญญาณเตือนมาที่ฝั่งเชลซีอีกครั้ง จากที่พวกเขาดูเป็นตัวเต็งมากกว่า จู่ ๆ กลายเป็น บาร์เซโลน่า ที่ถูกบ่อนพนันถูกกฎหมายต่างประเทศ ปรับราคามาให้เป็นเต็งหามราฟินญ่าแทน

และมันก็มีมูลตามนั้นจริง ๆ เพราะคืนวันที่ 1 กรกฎาคมที่เพิ่งผ่านมา หรือเมื่อวานนี้ เคราร์ด โรเมโร่ กูรูข่าวตัวแม่นสายสเปน ได้รายงานว่า บาร์ซ่า จ่อที่จะปิดดีลราฟินญ่าได้แล้ว หลังสามารถบรรลุข้อตกลงค่าตัวกับลีดส์ได้ด้วยเงิน 60 ล้านยูโร และเป็นการผ่อนจ่ายแบบ 3 งวด

และทั้ง ๆ ที่เชลซีสามารถจ่ายเงินก้อนนี้เข้ากระเป๋ายูงทองได้ทันที แต่พวกเขาก็ยอมรับข้อเสนอของบาร์ซ่า เพราะเห็นใจถึงความต้องการของราฟินญ่า จึงทำให้มหากาพย์ทุกอย่างของดีลนี้เตรียมหรืออาจจะพูดได้ว่าได้ข้อสรุปเป็นที่เรียบร้อย สักที!

 

เรื่องนี้สามารถไล่สรุปสั้น ๆ เริ่มจากการที่นักเตะสามารถตกลงเงื่อนไขส่วนตัวกับ บาร์ซ่า ได้ตั้งแต่ไก่โห่ แต่ทัพเจ้าบุญทุ่มกลับยังไม่พร้อมจ่ายค่าตัวให้ลีดส์ จนเป็น อาร์เซน่อล ที่เข้ามาเป็นทีมแรกที่ยื่นซื้อแข้งรายนี้อย่างจริงจัง จนปืนใหญ่กลายมาเป็นตัวเต็งแทน

แต่จู่ ๆ เชลซีก็จะมาปาดหน้าเค้ก บรรลุข้อตกลงค่าตัวกับลีดส์ได้เป็นทีมแรก แต่ไม่สามารถโน้มน้าวใจนักเตะได้สักที จนถูกบาร์เซโลน่ากลับมาปาดในปาด ปิดดีลคว้าตัวไปรวมทัพ ปิดมหากาพย์การแย่งคว้าตัวนักเตะที่กระแสเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาอย่าง ราฟินญ่า ได้สำเร็จจบปิดไฟนอน.

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline