หลังจากมีกระแสว่าต้องการย้ายทีม เพื่อไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่นหน้า
ไม่รู้ว่าที่ โรนัลโด้ หายหน้าไป เป็นเพราะเหตุผลทาฃด้านครอบครัวจริงๆหรือเปล่า เพราะถ้าเป็นแบบนั้น มันก็ยังพอมีโอกาสที่เขาจะอยู่ต่อ แต่ต่อให้อยากย้ายทีม หรือ งอแงแค่ไหน มันก็มีเคสที่สโมสรดื้อดึงให้อยู่กับทีมต่อไป และ นักเตะที่จะพูดถึงต่อไปนี้ พวกเขาก็เคยอยากย้ายทีม แต่ไม่ได้ย้ายทีมเลย ณ ตอนนั้น จะมีใครอยู่ในลิสต์บ้าง ไปดูกันครับ
5. หลุยส์ ซัวเรซ
ตำนาน 40 ล้าน + 1 ปอนด์ นึกถึงใครไม่ได้เลยครับ นอกจาก หลุยส์ ซัวเรซ อดีตกองหน้าของ ลิเวอร์พูล เพราะเขาเคยเกือบจะย้ายไปอยู่กับ อาร์เซน่อล อยู่ร่อมร่อ แต่ด้วยข้อเสนอราคานี้ ทำให้ทุกอย่างกลับตาลปัตรไปเลยครับ
ย้อนกลับไปที่ หลุยส์ ซัวเรซ มีคดีกัดทะลุโลก ไปใช้ฟันกัด บรานิสลาฟ อิวาโนวิช จนโดนแบนไป 10 นัด แต่กระนั้น ลิเวอร์พูล ก็ยังอุ้มชู ให้เขาอยู่กับทีมต่อไป ทว่าเป็นเขาเองเริ่มมีท่าทีที่อยากไปอยู่กับทีมอื่น เมื่อมี อาร์เซน่อล ยื่นข้อเสนอเข้ามา
ณ ตอนนั้น เอเย่นต์ของ ซัวเรซ ไปบอก อาร์เซน่อล ว่า นักเตะมีค่าฉีกสัญญาอยู่ที่ 40 ล้านปอนด์ จึงเกิดตำนาน 40 ล้านปอนด์ + 1 ปอนด์ เพื่อหวังให้ ลิเวอร์พูล ยอมคาย ซัวเรซ ออกมา แต่นั่นสร้างความโกรธแค้นให้ หงส์แดง มากเหลือเกิน จากที่กำลังมีการเจรจากลายเป็นล้มดีลทันที
ส่วนตัว หลุยส์ ซัวเรซ ที่เคยมีความคิดอยากย้ายออกจาก ลิเวอร์พูล มึช่วงงอแงอยู่พักนึง ก็ตัดสินใจอยู่ต่อ หลังจาก สตีเว่น เจอร์ราร์ด บุกไปคุยถึงบ้านพักว่า ให้อยู่กับ หงส์แดง ต่ออีก 1 ซีซั่น เพราะเชื่อว่าหลังจากนั้นจะมีสโมสรยักษ์ใหญ่ติดต่อเข้ามา ซึ่งเขาก็ทำสถิติกดไป 31 ประตู เป็นสถิติเทียบเท่าของลีก ณ ตอนนั้น แต่ก็ไม่ดีพอคว้าแชมป์ลีก ก่อนที่ซีซั่นต่อมา เขาจะย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า
4. ลูก้า โมดริช
ก่อนที่ ลูก้า โมดริช จะไปโด่งดังเป็นระดับตำนานกับ เรอัล มาดริด โชว์ผลงานกึกก้องโลก คว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้วถึง 5 สมัย แต่เชื่อไหมครับว่าช่วง 6 เดือนแรกกับ ราชันชุดขาว เขาเคยถูกโหวตว่า เป็นการเซ็นสัญญาที่ห่วยแตกที่สุดของ ลา ลีกา สเปน
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เขาจะย้ายมาอยู่ มาดริด จริงๆแล้ว โมดริช เกือบจะได้เก็บข้าวของย้ายไปเล่นให้กับ เชลซี อยู่แล้ว เมื่อปี 2011 ก่อนไป มาดริด เสียอีก เพราะตอนนั้น โรมัน อบราโมวิช อดีตเจ้าของทีม เชลซี ถึงขั้นส่งคนพาให้ไปนั่งเรือยอร์ชหรู ก่อนจะบรรยายสรรพคุณถึงโปรเจ็คท์ สิงห์บลูส์ ที่ต้องการสร้างความยิ่งใหญ่
ณ ตอนนั้น หัวใจของ โมดริช อ่อนระทวย และ ต้องการย้ายไปร่วมทีม เชลซี แบบจริงๆจังๆ แต่ แดเนี่ยล เลวี่ ประธานสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไม่ต้องการยื่นหอกให้กับศัตรู ท่ามกลางกระแสที่ โมดริช ทะเลาะกับบอร์ดบริหาร ไก่เดือยทอง อย่างหนัก ถึงขั้นแตกหักเลยทีเดียว เพราะเขามองว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องย้ายไปเติบโตในเส้นทางค้าแข้ง
โมดริช พยายามขอขึ้นบัญชีย้ายทีม หลัง สเปอร์ส ปฏิเสธข้อเสนอจาก เชลซี ไปหลายรอบ แต่ สเปอร์ส ก็ไม่ใจอ่อน พร้อมขู่ว่าจะจับดองยาว เพราะมีสัญญาอยู่ สุดท้าย โมดริช ก็ไม่ได้ย้ายทีมจริงๆครับ เขาต้องอยู่กับ สเปอร์ส ต่อไป ทั้งๆที่ไม่อยากอยู่ และก็ได้ปฏิเสธลงเล่นเกมนัดเปิดสนามที่แพ้ต่อ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-3 จากนั้นเขาก็กลับมามีชื่อ อยู่กับทีมไปอีก 1 ซีซั่น ก่อนย้ายไปเล่นให้ เรอัล มาดริด ในซีซั่น 2012-13 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์
3. คาร์ลอส เตเวซ
ว่ากันตามตรง คาร์ลอส เตเวซ ถือว่าเป็นนักเตะที่มีวีรกรรมเยอะมากๆ สมัยอยู่ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่ใช่แค่ตอนย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็เ เพื่อมาอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้น แต่ตอนนี้เขาอยู่กับ เรือใบสีฟ้า ก็เคยงอแง จนโดนสั่งห้ามลงสนามมาแล้วเช่นกัน
วันที่ เตเวซ เริ่มมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เขาไม่ยอมถูกเปลี่ยนตัวลงสนามในเกมที่ "เรือใบสีฟ้า" เจอกับ บาเยิร์น มิวนิค ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อเดือนกันยายน ปี 2011 ทำให้ โรแบร์โต้ มันชินี่ กุนซือของทีม หัวเสียอย่างมาก ก่อนที่ เตเวซ จะถูกสโมสรสั่งลงโทษห้ามลงเล่นถึง 2 สัปดาห์ ส่วน เตเวซ ก็ประชดด้วยการเดินทางกลับอาร์เจนติน่า บ้านเกิดทันที
แน่นอนว่าการทำแบบนี้อนาคตกับทีมคงหมดเรียบร้อย และ น่าจะถูกขายออกจากทีมในช่วงตลาดหน้าหนาว แต่ทว่า เตเวซ ก็ได้กลับมาที่สโมสร และ ขอโทษเกี่ยวกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น พร้อมกับกลายเป็นส่วนสำคัญพา แมนฯ ซิตี้ คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้เป็นครั้งแรก ซึ่งหลังจากนั้นช่วงซัมเมอร์ปี 2013 เขาก็ย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส
2. ฟิลิปเป้ คูตินโญ่
ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ เปรียบเสมือนเป็นจอมทัพ ผู้จะที่พาให้ หงส์แดง กลับมาผงาดบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง เพราะเขาเป็นคนสำคัญของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในแนวรุก มีความอันตรายทั้งเรื่องแอสซิสต์ และ การจบสกอร์ที่เชื่อถือได้ ถ้าหากเข้าจังหวะลูกสูตรปั่นด้วยขวา เมื่ออยู่ทางกาบซ้าย
แต่กระนั้น ด้วยความที่ คูตินโญ่ มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 2013 ไม่มีโทรฟี่มาเชยชมสักถ้วยเดียว เต็มที่ก็ได้แค่เป็นพระรอง ทั้ง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ, ลีก คัพ และ ยูโรปา ลีก ทำให้เขาเริ่มคิดถึงอนาคต และ ทันทีที่มี บาร์เซโลน่า ติดต่อเข้ามา ด้วยข้อเสนอ 72 ล้านปอนด์ หัวใจของ คูตี้ ก็เปลี่ยนไปทันที
คูตินโญ่ ออกลูกงอแง ด้วยการไม่ยอมมาฝึกซ้อมกับสโมสรช่วงใกล้เปิดซีซั่น โดยอ้างว่ามีอาการบาดเจ็บแผ่นหลัง ก่อนจะหักดิบกับ ลิเวอร์พูล ด้วยการส่งอีเมล์ไปหาสโมสร เพื่อขอขึ้นบัญชีย้ายทีม แต่ตอนนั้นบอร์ดบริหาร หงส์แดง ปฏิเสธทุกช่องทาง ส่วนทาง คูตี้ ก็ยืนยันเรื่องย้ายทีม และ บอกว่าตัวเองเจ็บหลังมาตลอด เพื่อปฏิเสธลงสนาม แต่พอไปเล่นให้ทีมชาติบราซิล กลับวิ่งปร๋อ และ ทำประตูได้ด้วย พร้อมกับหลั่งน้ำตาด้วยความอึดอัดออกมา
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว ลิเวอร์พูล ไม่ได้ปล่อยตัว คูตินโญ่ ออกไปในตอนซัมเมอร์ปี 2017 และ ยื้อจน คูตินโญ่ กลับมาลงสนามได้เหมือนเดิม ถึงแม้ผลงานยังยอดเยี่ยม แต่เหมือนคนที่อยู่แค่ตัว ไม่ได้หัวใจกลับคืนมา สุดท้าย หงส์แดง ต้องยอมจำใจปล่อยตัวไปให้กับ บาร์ซ่า ช่วงตลาดหน้าหนาวถัดมา โดยมีเม็ดเงินรวมโบนัส 142 ล้านปอนด์
1. แฮร์รี่ เคน
อีกหนึ่งคนที่ต้องการย้ายทีมเพื่อประสบความสำเร็จ แฮร์รี่ เคน ดาวยิงทีมชาติอังกฤษ จากสโมสร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เพราะต่อให้เขาจะสร้างสถิติมากแค่ไหน ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำ จนกลายเป็นดาวซัลโวกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง แต่ชีวิตของเขาก็เป็นได้เพียงแค่พระรองเช่นกัน ทั้งบอลลีก, บอลถ้วย ขนาดทีมชาติอังกฤษ ยังเป็นได้แค่รองแชมป์ ยูโร 2020
เมื่อถึงอายุช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของการค้าแข้ง ทำให้เขาต้องการประสบความสำเร็จแบบระดับซูเปอร์สตาร์ที่ควรจะเป็นบ้าง ซึ่งแน่นอนทีมที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาก็คือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีพร้อมทุกอย่างให้ เคน ได้เชยชม โดยเฉพาะแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ที่ตามหา
เรือใบสีฟ้า แสดงความจริงจังอยากได้ตัว เคน มาร่วมทีมมากๆ เพราะทีมกำลังขาดแคลนกองหน้าตัวเป้า หลังจากปล่อยตัว เซร์คิโอ อเกวโร่ ออกจากทีมไป ดังนั้น เคน จะเป็นคนที่เติมเต็มตรงจุดนี้ และ จะทำให้ แมนฯ ซิตี้ ไร้เทียมทานมากขึ้นไปอีก แต่ฝั่ง สเปอร์ส ตัดสินใจไม่ยอมปล่อยตัว เนื่องจากถ้าปล่อยดาวยิงเบอร์ 1 ของทีมไป ทีมยิ่งมีโอกาสประสบความสำเร็จได้ลงแน่นอน การันตี 24 ประตู เป็นอย่างน้อย มา 8 ซีซั่นติดต่อกันแล้ว
เมื่อ สเปอร์ส ไม่ปล่อยตัว ทำให้ เคน ไม่พอใจอย่างมาก ตัดสินใจโดดซ้อม ไม่มารายงานฝึกซ้อมกับทีมในช่วงปรีซีซั่น เพื่อแสดงจุดยืนให้เห็นว่าต้องการย้ายทีม แต่ก็ไม่เป็นผล เขาจำใจกลับมาอยู่กับสโมสรด้วยอาการบึ้งตึง ถูกดรอปเป็นสำรอง ก่อนจะได้ลงเป็นตัวจริง หลังผ่านไป 2-3 เกม ซึ่งก็ไม่รู้ว่าเอฟเฟ็กต์เรื่องการไม่ได้ย้ายทีมจะส่งผลกับเขามากแค่ไหน เนื่องจากยิงได้แค่ 1 ลูกเท่านั้น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม จนไปถึง ธันวาคม 2021 อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น เคน คนเดิมก็กลับมายิงกระฉูด และ คงไม่คิดย้ายทีมไปไหนอีกแล้ว
