logo-heading

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อจริงๆ สำหรับแชมป์โลก 4 สมัยอย่าง "เยอรมัน" ที่ต้องเจอกับความผิดหวังกับการถูกเขี่ยกระเด็นตกรอบแบ่งกลุ่มในศึก "ฟุตบอลโลก" เป็นครั้งที่ 2 ติดต่อกัน

ในเมื่อชาติตัวเต็งต้องกลับบ้านไวแบบนี้ ดังนั้นวันนี้สิ่งที่ "ขอบสนาม" อยากนำเสนอก็คือการพาทุกท่านไปวิเคราะห์เจาะลึกถึงเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้ทัพ "อินทรีเหล็ก" ต้องจอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่ม จะมีอะไรบ้างไปชมกันเลยครับ

รวมเหตุผล ! ทำ \"เยอรมัน\" อกหักจากบอลโลก กลับบ้านไว 2 ปีติด

เริ่มต้นได้ไม่ดี

อย่างที่เขาว่ากันว่า "เริ่มต้นดีมีชัยไปกว่าครึ่ง" อันนี้คือเรื่องจริงเลย เพราะไม่ว่าคุณจะทำอะไร ตั้งเป้าที่จะประสบความสำเร็จในสิ่งใด การเริ่มต้นที่ดีคือปัญจัยสำคัญ เช่นเดียวกับการแข่งขันในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ระดับ ฟุตบอลโลก หนนี้

แชมป์โลก 4 สมัยอย่าง เยอรมัน ได้รับการยกย่องให้เป็นตัวเต็งลุ้นแชมป์ทุกๆ ปีและทุกๆ ทัวร์นาเมนต์อยู่แล้ว และที่สำคัญเลยก็คือการลบล้างฝันร้ายและความเจ็บปวดจาก 4 ปีก่อนที่ รัสเซีย ที่ต้องจอดป้ายแค่รอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น ดังนั้นเรื่องของความผิดหวังจึงเป็นแรงผลักดันชั้นดี

เกมเปิดสนาม ฟุตบอลโลก 2022 ที่เจอกับ ญี่ปุ่น เมื่อดูจากรูปเกมและสถิติต่างๆ ค่อนข้างชัดเลยว่าโอกาสที่ เยอรมัน จะเก็บ 3 คะแนนได้นั้นมีสูงไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการครองบอลที่ 65 เปอร์เซนต์ มีโอกาสลุ้นทำประตูถึง 25 ครั้ง และยิงตรงกรอบอีก 9 ครั้ง และผลสกอร์ก็ได้เปรียบกว่า 70 นาที 

แต่สุดท้ายทีมที่เหนือกว่าอย่าง เยอรมัน เมื่อไม่สามารถรักษามาตรฐาน, ความคงเส้นคงวาและความได้เปรียบเอาไว้ได้ก็โดนพลิกสถานการณ์จากนำอยู่กลายเป็นฝ่ายตามหลังในช่วงเวลาแค่ 8 นาที และพบกับความพ่ายแพ้ในที่สุด

ขณะที่ทางฝั่ง สเปน นั้นเล่นยำใหญ่ คอสตาริก้า ไปแบบถล่มทลาย 7-0 นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ เยอรมัน ต้องตกที่นั่งลำบากและเจอกับความกดดันอย่างหนักกับการมี 0 แต้มและอีก 2 ทีมนำไปแล้ว 3 คะแนน

ใช้โอกาสเปลือง

เมื่อเจาะลึกลงไปในรายละเอียดต่างๆ สิ่งที่เป็นปัญหาที่ชัดมากๆ เรื่องนึงของ เยอรมัน ก็คือเรื่องการปิดสกอร์ซึ่งค่อนข้างจะใช้โอกาสที่เปลือง ยกตัวอย่างในเกมกับ ญี่ปุ่น ครึ่งแรก เยอรมัน กุมความได้เปรียบเอาไว้ได้หมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องการครองเกม เดินหน้าบุกใส่ สร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย และมีโอกาสลุ้นประตูอยู่เยอะจนแทบจะปิดเกมได้เลยตั้ง

ต่อให้ ญี่ปุ่น จะเปลี่ยนจากรับและมาฮึดขึ้นสู้บุกแลกในช่วงครึ่งหลัง แต่ถ้า เยอรมัน สามารถยิงได้สัก 2-3 ประตูตั้งแต่ครึ่งแรกบางทีปลายทางเมื่อสิ้นเสียงนกหวีดก็อาจจะมี 1 หรือไม่ก็ 3 คะแนน

เช่นเดียวกับเกมสุดท้ายนัดเจอ คอสตาริก้า ถึงแม้พลพรรค "อินทรีเหล็ก" จะกดไปถึง 4 ประตู แต่ถ้าเกิดดูจากโอกาสทั้งหมดที่มีมากมายก่ายกองถึง 32 ครั้งมันก็มีสิทธิ์ที่พวกเขาจะยำคู่แข่งได้แบบถล่มทลายเหมือนกับที่ สเปน จัดหนักใส่ คอสตาริก้า และอาจจะลุ้นเรื่องประตูได้เสียได้สนุกกว่านี้ แต่ผลปรากฏว่าเกมๆ นี้ เยอรมัน ยิงทิ้งยิงขว้างไปถึง 17 ครั้ง

นักเตะเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน

ขุนพลของ เยอรมัน ชุดนี้ต่างก็โลดแล่นค้าแข้งอยู่กับสโมสรระดับชั้นนำทั้งนั้น ถ้าผลงานไม่ดีก็คงไม่โดนเรียกตัวมาติดทีมหรอกจริงไหม ? แต่ตลอดช่วง 3 นัดที่ผ่านมามันสัมผัสได้เลยว่าผู้เล่นส่วนใหญ่ของ เยอรมัน นั้นเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐานโดยเฉพาะในแผงแนวรับที่ขาดความชัวร์และทำผิดพลาดกันมากจนถึงเกินไป เวลาต้องเจอกับทีมที่เล่นบอลเป็นระบบระเบียบอย่าง ญี่ปุ่น และ สเปน นี่คือจุดอ่อนที่ถูกเผยตัวออกมาชัดเจน

ส่วนในเกมกับ คอสตาริก้า มันเป็นเกมที่ เยอรมัน ไม่ควรเสียประตูเลยอย่างแท้จริง แต่สุดท้ายก็ดันโดนไป 2 ประตูซึ่งมาจากความผิดพลาดแบบเต็มๆ ของ มานูเอล นอยเออร์ โดยเฉพาะประตูที่ 2 นี่ถือว่าร้ายแรงมากๆ มันทำให้รู้สึกว่านี่ไม่ใช่ นอยเออร์ อย่างที่เราคุ้นชินกันเมื่อช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่รู้ว่าเรื่องปัญหาอาการบาดเจ็บจะเกี่ยวกันมากน้อยแค่ไหน แต่ที่รู้ๆ คือทัวร์นาเมนต์นี้เขาคือหนึ่งในคนที่ผลงานน่าผิดหวังมากที่สุด

ส่วนนักเตะที่ดูเหมือนจะท็อปฟอร์มที่สุดหลักๆ จะมีชัดๆ เลยก็คือ อิลคาย กุนโดกัน ทั้งการตัดเกม เก็บบอล ขับเคลื่อนพาบอลไปข้างหน้า รวมถึงการมีส่วนร่วมกับทีม สังเกตได้เลยว่าพอ กุนโดกัน โดนเปลี่ยนตัวออกไปด้วยสภาพแรงและแรงที่มีไม่พอ พวกตัวที่ลงมาแทนอย่าง เลออน โกเร็ตซ์ก้า ก็กลับทำให้เกมตรงกลางดูดร็อปลงไปแบบเห็นได้ชัด

อีกคนก็คือไอ้หนู จามาล มูเซียล่า วัย 19 ปีถึงอายุจะน้อยแต่ก็ถือว่าโดดเด่นและผลงานคงเส้นคงวามากๆ สร้างสรรค์โอกาสได้มากมาย ผิดกับ โธมัส มุลเลอร์ ที่ถึงจะเป็นจอมเก๋า เป็นนักฟุตบอลชุดปัจจุบันที่ยิงประตูมากที่สุดในบอลโลก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรให้ดูเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง

กรุ๊ป ออฟ เดธ

การเก็บได้ 4 คะแนนจาก 3 นัดจริงๆ ก็ถือว่าไม่ได้เลวร้ายอะไรสำหรับ เยอรมัน แต่พวกเขาอาจจะมีโอกาสเข้ารอบหรือได้ไปต่อมากกว่านี้ก็เป็นได้ถ้าอยู่กับกลุ่มอื่น แต่ชะตากรรมของพวกเขากลับถูกจับฉลากมาอยู่ในกลุ่มเดียวกับ สเปน, ญี่ปุ่น และ คอสตาริก้า ซึ่งถูกมองว่าเป็น กรุ๊ป ออฟ เดธ

ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่า "นี่คือกลุ่มที่งานหินที่สุด" ไม่ว่างานจะหนักจะเบาแค่ไหนถึงมันอาจจะวัดไม่ได้ถ้าเปรียบเทียบกลุ่มอื่นๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณต้องเล่นให้ดีและทำผิดพลาดให้น้อยที่สุด แต่สำหรับ "อินทรีเหล็ก" พวกเขากลับบกพร่องตรงจุดนี้มากเกินไปทั้งเกมรุก เกมรับ และความคงเส้นคงวา

HaMu Dos Santos 

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline