logo-heading

เจดอน ซานโช่ โชว์ฟอร์มขั้นเทพในแมตช์ปราบ PSG พร้อมทำสถิติหลายอย่างที่ชวนตะลึง โดยเฉพาะการเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ 12 ครั้ง ซึ่งเป็นสถิติมากสุดใน UCL รอบน็อคเอาต์ตั้งแต่ เนย์มาร์ เคยทำเอาไว้เมื่อปี 2017

เท่านั้นไม่พอ หากลงลึกว่าเป็นการเลี้ยงหลบในรอบตัดเชือก UCL หนล่าสุดที่มีคนทำได้เยอะกว่าซานโช่ ต้องย้อนกลับไปสมัยที่เมสซี่ยังเป็นดาวรุ่ง โดยทำเอาไว้ 16 ครั้งเมื่อปี 2008 หรือเมื่อ 16 ปีที่แล้ว 

ด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ ทำให้เกิดคำถามทันทีว่า จบฤดูกาลจะอยู่ดอร์ทมุนด์ต่อไหม? ถ้าอยู่ จะเป็นการเซ็นถาวร หรือยืมต่ออีกฤดูกาล? และพอเป็นไปได้ไหมที่จะกลับไปยูไนเต็ด หากมีการเปลี่ยนกุนซือ

ในมุมของผม โอกาสกลับยูไนเต็ดค่อนข้างยาก จริงอยู่ว่า ที่ซานโช่ต้องไปยืมตัวกับดอร์ทมุนด์ เพราะมีปัญหากับ เอริค เทน ฮาก แต่ต้องอย่าลืมด้วยว่า ตอนที่ซานโช่เล่นให้โอเล่ หรือรังนิก ก็ไม่ได้ฟอร์มเปรี้ยงเหมือนกัน

ยูไนเต็ดน่าจะต้องวิเคราะห์แล้วว่า สาเหตุที่ซานโช่ไม่ปังกับสโมสร มันอาจไม่ได้เกี่ยวกับโค้ชอย่างเดียว แต่น่าจะเป็นการปรับตัวให้เข้ากับทีมด้วย ซึ่งเขาอาจเป็นนักเตะอังกฤษก็จริง แต่สไตล์การเล่นอาจจะเอื้อกับลีกเยอรมันกว่าก็ได้ 

นอกจากนี้ ถ้าเอากลับมาใช้จริงๆ แล้วยังไม่เวิร์คอีก สโมสรจะไม่คุ้มอย่างแรงเพราะต้องลงทะเบียนค่าตัว + ค่าเหนื่อยซานโช่ต่อไปอีกปี

สโมสรเซ็นซานโช่มาด้วยราคา 73 ล้านปอนด์ สัญญายาว 5 ปี นั่นหมายความว่า มูลค่าในการลงบัญชีค่าตัวของซานโช่คือเอา 5 ไปหารด้วย 73 = ปีละ 14.6 ล้านปอนด์ ส่วนค่าเหนื่อยแต่ละสื่อบอกไม่เหมือนกัน ถ้าตัวเลขจริงคือ 250,000 ปอนด์ ก็คือปีละ 13 ล้านปอนด์ แต่ถ้าตัวเลขมันกลายเป็น 350,000 ปอนด์ มันก็จะกลายเป็นปีละ 18.2 ล้านปอนด์

เท่ากับว่า ตัวเลขขั้นต่ำที่ยูไนเต็ดต้องใช้หากเก็บซานโช่ต่ออีกปีคือ 14.6+13 = 27.6 ล้านปอนด์ และตัวเลขขั้นสูงคือ 14.6+18.2 = 32.8 ล้านปอนด์ ถ้าไม่ฟอร์มขั้นเทพจริงๆ คือไม่คุ้มอย่างแรง ซึ่งนี่คือเหตุผลหลักที่ผมมองว่ากลับยูไนเต็ดยาก

คำถามก็คือ ถ้าขายออกไปต้องขายได้เท่าไหร่? ซึ่งวิธีคิดก็ไม่ยาก เซ็นมา 5 ปี ตอนนี้ลงบัญชีไปแล้ว 3 ฤดูกาล เท่ากับเหลือ 2 ฤดูกาล ทำให้มูลค่าของซานโช่ในซัมเมอร์นี้คือ 14.6 x 2 = 29.2 ล้านปอนด์ หากขายได้ราคานี้คือเท่าทุนตามกฎ มากกว่านั้นกำไร น้อยกว่านั้นขาดทุน

ไม่ต้องไปคิดเรื่องซื้อ 73 ขาย 29.2 แล้วจะเท่าทุนได้ยังไง? เพราะอันนั้นมันเป็นเรื่องเงินสด เป็นการตกลงเบื้องหลังของทั้ง 2 สโมสร แต่ตามกฎคุมการเงินไม่ว่าจะ PSR หรือ FFP ขอแค่ขายได้ 29.2 ล้านปอนด์เป็นอันไม่ขาดทุน 

ถามว่าเป็นไปได้ไหมที่ดอร์ทมุนด์จะจ่าย? ผมว่าเป็นไปได้ เพราะรายได้ดอร์ทมุนด์อาจไม่ได้มหาศาลมาก แต่ก็ไม่ได้น้อยขนาดนั้น พวกเขารั้งอันดับ 12 ของยุโรป ทำเงินต่อปีมากกว่า 2 ทีมเมืองมิลาน และแอต.มาดริดด้วย 

จุดสำคัญก็คือ ยูไนเต็ดจะโอเคไหมกับการขายเรทนี้? ถ้าโอเคก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะตามข่าวของ Athletic บอกว่ายูไนเต็ดยังผ่อนค่าตัวซานโช่ไม่หมดด้วย พวกเขามีทางเลือกไม่มาก นอกจากนี้ถ้าเป็นเรท 29.2 ล้านปอนด์จริง สมมุติว่าดอร์ทมุนด์เซ็น 5 ปี ก็ลงบัญชีแค่ปีละ 5.84 ล้านปอนด์เท่านั้น ไม่ได้แพงอะไรสำหรับดอร์ทมุนด์

เท่านั้นไม่พอ ต้องอย่าลืมว่าในเชิงบัญชี คุณอาจไม่ได้กำไร แต่คุณไม่ต้องลงค่าเหนื่อยมหาศาลของนักเตะอีกต่อไปด้วย ซึ่งทำให้สโมสรเคลียร์ตัวเลขไปได้เยอะ แต่ปัญหาก็คือ หากยูไนเต็ดมองว่าซานโช่กำลังเล่นดี แล้วคิดจะไปเรียกค่าตัวเพิ่มอีก อันนั้นผมคิดว่าดอร์ทมุนด์อาจไม่สู้ เพราะซานโช่ไม่ใช่คนเดียวที่พวกเขาต้องพิจารณา

สโมสรยืมตัว เอียน แมตเซ่น แบ็กซ้ายชาวดัตช์มาจากเชลซี แล้วเล่นดีเช่นกัน ซึ่งมีออปชั่นเซ็นถาวร 35 ล้านปอนด์ และต้องใช้ก่อนเริ่มศึกยูโร 2024 ดังนั้น ดอร์ทมุนด์ต้องละเอียดทั้ง 2 ดีล เพื่อให้พวกเขาใช้จ่ายแบบคุ้มที่สุด

จุดที่ต้องระวังก็คือ ถ้าดอร์ทมุนด์มีความคิดเซ็น 1 คน แล้วอีกคนแค่ยืมตัวก็พอ หวยมันจะไปออกที่ใครระหว่างยูไนเต็ดหรือเชลซี? ซึ่งต่างก็กระหายเงินทั้งคู่ เพราะกำลังมีปัญหาเรื่อง PSR อย่างแรง

ท้ายที่สุด ผมเชื่อว่าซานโช่จะได้อยู่ดอร์ทมุนด์ต่อ เพราะนักเตะดูมีความสุขที่ได้กลับมาเยอรมันอีกครั้ง แต่มันจะวินวินทุกฝ่ายหรือเปล่าไม่แน่ใจ? 

ถ้าซื้อขาดไปเลยก็จบ แต่ถ้าขอยืมต่อ มันคงไม่ดีสำหรับยูไนเต็ด เพราะต่อให้ได้ค่ายืมกลับมา แต่พวกเขายังต้องจ่ายค่าลงบัญชีปีละ 14.6 ล้านปอนด์ต่อไป แล้วนี่ยังไม่รวมค่าเหนื่อยที่อาจต้องแชร์กับดอร์ทมุนด์ด้วย 

ชั่วโมงนี้ไม่ต้องไปคิดเรื่องขายทำกำไรอีกต่อไป เอาแค่ขายถาวรได้ แล้วไม่ต้องขาดทุน ผมคิดว่ายูไนเต็ดก็น่าจะแฮปปี้แล้ว

- Petr Boat -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline