ทำให้ครึ่งหลังขุนพล แซมบ้า ผ่อนเกมลง หลังจาก 45 นาทีแรก เต้นกันจนเหนื่อย ซึ่งการมี เนย์มาร์ ช่วยเพิ่มความน่ากลัวไปอีกหลายขุม เพราะ 2 นัดก่อนหน้านี้ ยิงได้แค่ลูกเดียว
เอาเป็นว่าเกมระหว่าง บราซิล ปะทะ เกาหลีใต้ มีอะไรให้พูดถึงกันบ้าง ไปติดตามกันได้เลยครับ
- เกมจบตั้งแต่ 15 นาทีแรก
ไม่ได้เป็นการเหยียดหยาม หรือ ดูถูกฝีเท้านักเตะทีมชาติเกาหลีใต้ ใดๆทั้งสิ้น แต่ต้องพูดกันตามตรงว่า เกมนี้ มันจบลงตั้งแต่ยังไม่ถึง 15 นาทีแรกของเกมเลยด้วยซ้ำ เพราะ บราซิล ดาหน้าบุกจนขึ้นนำ 2 เม็ด จาก วินิซิอุส และ ลูกจุดโทษของ เนย์มาร์
เกาหลีใต้ อาจจะมีหือมีอือ จากการยิงไกล ฮวาง ฮี-ชาน จนทาง อลิสซอน เบ็คเกอร์ ต้องออกแรงบินปัดออกหลัง แต่หลังจากนั้น เกาหลีใต้ ก็แทบไม่ได้ลืมตาอ้าปาก เพราะเกมรุก บราซิล มาทุกทิศทุกทาง จากนั้นก็มาโดนอีก 2 ประตู จบครึ่งแรก ทัพ แซมบ้า นำถึง 4-0 เรียกว่าเอาท์คลาส หรือภาษาบ้านๆคือ "คนละชั้น"
ซึ่งครั้งสุดท้ายที่ บราซิล ยิงประตูใส่คู่แข่งได้ถึง 4 ประตู บนเวที ฟุตบอลโลก นับเฉพาะช่วงครึ่งแรก เกิดขึ้นเกมที่เจอกับ เม็กซิโก เมื่อปี 1954 ก่อนที่อีก 68 ปี ต่อมา ขุนพล แซมบ้า จะมายิงใส่ เกาหลีใต้ แบบถล่มทลาย
- การคัมแบ็กของ เนย์มาร์ ทำเกมรุกไหลลื่น
ต่อให้ บราซิล จะมีแนวรุกตัวท็อปอยู่หลายต่อหลายคน แต่ต้องกราบเรียนตามตรงว่า การขาดหายไปของ เนย์มาร์ ในช่วง 2 นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม ทำให้เกมรุกของทัพ แซมบ้า ขาดความเฉียบคมไปพอสมควร ไม่มีอาวุธหนักคอยเล่นงานคู่แข่ง
กระทั่งล่าสุด การกลับมาของ เนย์มาร์ ทำให้เกมรุก บราซิล ดูน่ากลัว และ ไหลลื่นมากเหลือเกิน ที่สำคัญเขายังดึงดูดกองหลัง เกาหลีใต้ ได้เยอะเหลือเกิน ต่อให้ไม่มีบอลอยู่กับตัว ซึ่งมันทำให้เพื่อนๆรอบข้าง มีช่องว่าง และ เล่นได้ง่ายขึ้นเยอะ
ซึ่งมันมีสถิติบ่งบอกว่าตลอด 191 นาที ที่ บราซิล ไม่มี เนย์มาร์ ทีมยิงได้เพียงแค่ 1 ประตู เท่านั้น ในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่เมื่อไหร่ที่ เนย์มาร์ พร้อมลงลากเลื้อย 115 นาที ในสนาม ขุนพล แซมบ้า ก็ยิงไปถึง 6 เม็ด นับว่าเป็นบุคคลที่ บราซิล จะขาดไปไม่ได้เลย ถ้าหากต้องการคว้าแชมป์
นอกจากนี้ 1 ประตูที่ เนย์มาร์ ทำได้จากการยิงจุดโทษ ทำให้ยิงบนเวที เวิลด์ คัพ 3 สมัย เทียบเท่ากับ เปเล่ และ โรนัลโด้ 2 ตำนานหัวหอก แซมบ้า พร้อมขยับเข้าใกล้ทำลายสถิติดาวยิงสูงสุดตลอดกาลทีมชาติบราซิล ของ เปเล่ ที่เคยทำไว้ 77 ประตู โดยตามหลังเหลือเพียงแค่ 1 ลูก เท่านั้น ซึ่งมีโอกาสเทียบเท่าและทำลายสถิติสูงมาก ในศึก ฟุตบอลโลก หนนี้
- สูญพันธ์ทีมจากเอเชีย
เกาหลีใต้ เป็นชาติจากทวีปเอเชีย ที่สร้างเรื่องปาฏิหาริย์ พลิกนรกเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ ได้อย่างเหลือเชื่อ หลังเอาชนะ โปรตุเกส มาได้ด้วยสกอร์ 2-1 แต่กระนั้นรอบ 16 ทีมสุดท้าย พวกเขาไม่ใช่แค่เจอกระดูกชิ้นโต แต่ต้องโคจรมาพบทีมชาติบราซิล เต็ง 1 ประจำรายการ
ด้วยความที่ บราซิล ก็มีบาดแผลมาจากการพ่ายแพ้ แคเมอรูน 0-1 นัดสุดท้ายรอบแบ่งกลุ่ม คงทำให้ เกาหลีใต้ ก็มั่นใจว่าพวกเขาอาจจะสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้งเช่นกัน แต่อย่างที่ทุกคนเห็นครับ เมื่อต้องมาเจอกับ แซมบ้า เวอร์ชั่นเต็มสูบ ขุนพล โสมขาว ไม่สามารถต้านทานได้เลย
สุดท้ายไม่มีเรื่องราวปาฏิหาริย์เกิดขึ้นอีกแล้ว เกาหลีใต้ จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมสุดท้าย เท่านั้น มีเพียงครั้งเดียวที่พวกเขาไปไกลกว่านี้ คือการได้อันดับ 4 ในศึก ฟุตบอลโลก ปี 2002
พร้อมกันนี้ การตกรอบของ เกาหลีใต้ ก็เป็นการสูญพันธ์ทีมชาติ จากทวีปเอเชีย อย่างเป็นทางการในศึก ฟุตบอลโลก 2022 เพราะก่อนหน้านี้ ออสเตรเลีย และ ญี่ปุ่น ก็ถูกหยุดอยู่แค่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้วเช่นกัน
- นักเตะบราซิล ดาหน้า สร้างสถิติ
ยิง 4 ประตู ที่ บราซิล ยิงใส่ เกาหลีใต้ นั้น มีสถิติให้พูดถึงมากมาย ทั้งคนยิง และ คนแอสซิสต์ เริ่มจาก วินิซิอุส จูเนียร์ ที่ซัลโวขึ้นนำ 1-0 ให้กับทีม ซึ่งลูกนี้ทำให้เจ้าตัว ยิงประตูแรกในศึก ฟุตบอลโลก และ กลายเป็นแข้ง บราซิล อายุน้อยสุด ที่ทำประตูได้ในรอบน็อคเอาท์ ด้วยวัย 22 ปี ต่อจาก โรนัลดินโญ่ เมื่อปี 2002
ต่อมา ริชาร์ลิซอน ที่เกมนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น สมฉายา "นิว R9" เพราะสามารถทำเพิ่มได้อีก 1 ลูก จากการทำชิ่งกับเพื่อนร่วมทีม หลุดเข้าไปยิงอย่างสวยงามตอนนำ 3-0 ซึ่งสกอร์นี้ ส่งผลให้ ริชาร์ลิซอน ซัดในศึก เวิลด์ คัพ ไปแล้ว 3 ประตู นำเป็นดาวซัลโวของทีม และ ทำประตูได้มากกว่า โรนัลดินโญ่ และ อาเดรียโน่ 2 ตำนาน แซมบ้า ที่เคยทำไว้ 2 ตุง ในทัวร์นาเมนต์นี้ เรียบร้อยแล้ว
และ ในรายของ ติอาโก้ ซิลวา กองหลังกัปตันทีม ถึงแม้เจ้าตัวจะไม่มีชื่ออยู่บนสกอร์บอร์ด แต่ก็เป็นทำแอสซิสต์อย่างสวย ไปให้กับ ริชาร์ลิซอน ยิงขึ้นนำ 3-0 ทำให้ ซิลวา กลายเป็นนักเตะอายุเยอะสุดที่สามารถทำแอสซิสต์ได้ในศึก เวิลด์ คัพ ด้วยวัย 38 ปี 74 วัน ทุบสถิติ โรเจอร์ มิลล่า ตำนาน แคเมอรูน ที่เคยทำไว้ใน เวิลด์ คัพ 1990 ด้วยวัย 38 ปี 42 วัน
ฮาย ฮาวดี้
