ประวัติศาสตร์จะเปลี่ยนย่างไร...ถ้า "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" โดนริบถ้วยแชมป์ ?

เรื่องราวของสโมสร "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" กำลังเป็นประเด็นร้อน ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ กันเลยทีเดียวจากการโดนตั้งหาว่ามีความผิดเรื่องกฏการเงิน ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์

พวกเขามีโอกาสโดนโทษได้ทุกสถานตั้งแต่การปรับเงินไปจนการริบถ้วยแชมป์และถูกขับออกจากลีกสูงสุดของอังกฤษ

วันนี้สิ่งที่ ขอบสนาม อยากนำเสนอก็คือ ในกรณีที่ แมนฯ ซิตี้ ถูกริบถ้วยแชมป์ ถ้ามันเกิดขึ้นจริงมันจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้างเมื่อย้อนไปดูเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต

สตีดเว่น เจอร์ราร์ด

บนหน้าประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ถ้าจะพูดหนึ่งในนักเตะระดับตำนานที่ดีที่สุดแน่นอนว่าต้องมีชื่อของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด อย่างมิต้องสงสัย เรื่องของฝีไม้ลายมือนั้นก็ไม่มีข้อกังขาใดๆ เพราะนี่คือมิดฟิลด์ในแบบฉบับที่ครบเครื่องสมบูรณ์ที่สุด

จุดด่างพร้อยเพียงอย่างเดียวในเกียรติประวัติของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นั่นก็คือการไม่เคยได้สัมผัสกับแชมป์ พรีเมียร์ลีก เลยแม้แต่ครั้งเดียวทั้งที่อยู่โลดแล่นกับ ลิเวอร์พูล มานาน 17 ซีซั่น ลงเล่นไป 500 กว่านัด ได้แชมป์มา 9 โทรฟี่

แต่ถ้าหาก แมนฯ ซิตี้ โดนลงโทษถึงขั้นริบถ้วยแชมป์จากความผิดในกฏ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ แน่นอนว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาจะเปลี่ยนไป ก็เท่ากับว่า สตีเว่น เจอร์ราร์ด จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ได้ 1 สมัยด้วยกันนั่นก็คือปี 2014 ถ้ามันเกิดขึ้นจริงแน่นอนว่ามันจะเป็นเกียรติประวัติที่เพอร์เฟคสุดๆ เลยสำหรับ สตีวี่จี

โชเซ่ มูรินโญ่

เจ้าของฉายา เดอะ สเปเชี่ยล วัน ได้ถือกำเนิดขึ้นหลังจากบุรุษที่ชื่อ โชเซ่ มูรินโญ่ สานต่อความสำเร็จกับ ปอร์โต้ และย้ายมาประกาศศักดาบนสังเวียน พรีเมียร์ลีก กับการพา เชลซี ทะยานขึ้นไปคว้าถ้วยแชมป์ถึง 6 โทรฟี่ ตลอดช่วง 3 ปีในคำรบแรก ตลอดจนการกลับมาครั้งที่ 2 ก็เสกโทรฟี่ได้อีก 2 ใบในช่วงปี 2013-15

เรื่องของสไตล์การคุมทีมอาจจะไม่ใช่การเล่นที่สวยงาม เป็นการเล่นเพื่อหวังผล อย่างแผนไม้ตายรถบัส 2 ชั้นก็ถือกำเนิดมาจากชายคนนี้ซึ่งอาจไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ เท่าไหร่ แต่นี่ก็เป็นหนึ่งในส่วนสำคัญที่ทำให้เขาคว้าแชมป์ได้กับทุกทีมที่ไปคุมไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

อย่างที่ทราบกันว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้อีกเลยนับตั้งแต่ตำนานโคตรบรมกุนซืออย่าง เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้วางมือไป อย่างไรก็ตามถ้า แมนฯ ซิตี้ โดนลงทัณฑ์จากคดีผิดกฏการเงินและผลลัพธ์คือการริบถ้วยแชมป์ก็จะเท่ากับว่า โชเซ่ มูรินโญ่ จะเป็นกุนซือคนแรกที่พา "ปีศาจแดง" เถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกได้หลังหมดยุค "เฟอร์กี้"

และนั่นจะทำให้กุนซือ เดอะ สเปเชี่ยล วัน กลายเป็นหนึ่งในกุนซือเพียงไม่กี่คนที่สามารถคว้าแชมป์ลีกได้กับการคุม 4 สโมสรในแวดวง 5 ลีกดังยุโรป

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน

บนหน้าประวัติศาสตร์ลูกหนังโลกถ้าจะพูดถึงผู้จัดการทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดใยเรื่องถ้วยแชมป์นั้นก็คือ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่กอบโกยมาทั้งหมด 48 โทรฟี่ตลอดเส้นทางสายกุนซือ 39 ปี แน่นอนว่าความสำเร็จส่วนใหญ่นั้นจะเกิดขึ้นกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่คว้ามาหมดทุกแชมป์ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ แชมป์ พรีเมียร์ลีก 13 สมัย

บทลงโทษของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถ้าเกิดถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงเรื่องกฏ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ และจบด้วยการริบถ้วยแชมป์ในช่วงปี 2009-18 มันก็จะทำให้สถิติของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บวกเพิ่มเป็น 49 โทรฟี่ นั่นก็คือแชมป์ พรีเมียร์ลีก ที่เสียให้กับ แมนฯ ซิตี้ ในวินาทีสุดท้ายของเกมการแข่งขันนัดสุดท้ายที่มี 89 แต้มเท่ากัน แต่แพ้แค่ประตูได้เสียเท่านั้น

ถ้าบทลงโทษดังกล่าวเกิดขึ้นจริงก็เท่ากับว่าประตูชัยของ เซร์คิโอ อเกวโร่ ในนาที 90+3 นัดที่เจอกับ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานแห่งความดราม่ามันก็จะสูญสิ้นความสำคัญไปในทันที

สโต๊ค ซิตี้

ทีมเล็กๆ อย่าง สโต๊ค ซิตี้ ตลอดช่วง 160 ปีที่ผ่านมานับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร พวกเขาแทบจะไม่มีโอกาสเลยที่จะได้ลุ้นหรือสัมผัสกับแชมป์รายการใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นแชมป์ลีกสูงสุด หรือบอลถ้วยใหญ่ๆ ในประเทศ รู้สึกว่าแชมป์ที่ใหญ่ที่สุดที่พวกเขาเคยได้สัมผัสมาน่าจะเป็นแชมป์ ลีก คัพ เมื่อปี 1972 ที่เอาชนะ เชลซี ได้ 2-1 

อย่างไรก็ตามในประวัติศาสตร์ของ สโต๊ค ซิตี้ อาจถูกบันทึกแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยแรกเข้าไปด้วยถ้าเป็นในกรณีที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เจอบทลงโทษริบถ้วยแชมป์โทษฐานทำผิดกฏการเงินซึ่ง 2 ทีมนี้เจอกันในรอบชิงฯ ปี 2011 และ แมนฯ ซิตี้ เป็นฝ่ายเอาชนะไป 1-0

คาราบาว คัพ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจจะไม่ได้เป็นทีมที่คว้าแชมป์ ลีก คัพ ได้มากที่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์ เพราะอันดับ 1 นั้นคือ ลิเวอร์พูล ที่ 9 สมัย ส่วนพวกเขาตามหลังมาเป็นอันดับ 2 ที่ 8 สมัย แต่หากจะพูดถึงยุคนี้จริงๆ ก็ต้องยกให้ "เรือใบสีฟ้า" ว่าเป็นราชาแห่งถ้วย ลีก คัพ จริงๆ เพราะช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาพวกเขากดไปรัวๆ ถึง 6 สมัยด้วยกัน

อย่างไรก็ตามถ้าพวกเขาถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงในเรื่องกฏ ไฟแนนเชี่ยล แฟร์ เพลย์ และบทลงโทษคือการริบถ้วยแชมป์ มันก็ทำให้เกียรติประวัติแชมป์รายการนี้เหลือแค่ 2 สมัย เท่านั้น

ถ้าคิดเล่นๆ ในแชมป์ 6 สมัยนั้นก็จะทำให้ ซันเดอร์แลนด์ คว้าแชมป์รายการนี้เป็นรายการแรกบนหน้าประวัติศาสตร์สโมสร (ปี 2014), ลิเวอร์พูล ก็จะขยับสถิติเพิ่มเป็นมากที่สุดที่ 10 สมัย (ปี 2016), อาร์เซน่อล จะคว้าแชมป์รายการนี้เป็น 3 สมัย (ปี 2018), เชลซี จะคว้าแชมป์รายการนี้เป็น 6 สมัย (ปี 2019), แอสตัน วิลล่า จะคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 6 (ปี 2020), ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ จะคว้าแชมป์รายการนี้เป็นสมัยที่ 5 (ปี 2021)

ส่วน แมนฯ ซิตี้ พวกเขาจะหล่นไปอยู่ในทำเนียบอันดับ 8 ร่วมของทีมที่คว้าแชมป์ ลีก คัพ มากที่สุดที่ 2 สมัยร่วมกับ นอริช ซิตี้, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส

HaMu Dos Santos