สเตฟาน บายเซติช เพรชเม็ดน้อย ที่รอวันเจียระไน

ด้วยความบากบั่น จนพวกเขาได้พบกับเพชรเม็ดน้อย ที่พร้อมให้เจียระไนให้เติบโตสวยงาม อย่าง “สเตฟาน บายเซติช” มิดฟิลด์วัย 18 ปี ที่มีเลือดผสมสเปนฝั่งแม่ กับ เซอเบียร์ ฝั่งพ่อ

บายเซติช ถูกพูดถึงอย่างมากในเกม เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ ที่ หงส์แดง เปิดบ้านเอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไปได้ด้วยสกอร์ 2-0 โดยเฉพาะการเล่นมิดฟิลด์ในฐานะ "กองกลางหมายเลข 8" หลายคนอาจจะยังรู้จักเจ้าหนูคนนี้ไม่ดีพอ เขาจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคต หงส์แดง ได้มากขนาดไหน จะพาไปสืบเสาะถึง บายเซติช ให้มากขึ้น

.. 

ในบรรดาเด็กดาวรุ่งของ หงส์แดง  ช่วง 4-5 ปีหลังสุด คงมีเพียง ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ คนเดียวเท่านั้น ที่ก้าวขึ้นมาสู่ชุดหลักอย่างเต็มภาคภูมิ ได้โอกาสลงสนามอยู่เป็นประจำ ทั้งในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

ขณะที่ ดาวรุ่งส่วนใหญ่ ขึ้นมาแล้วก็หายไป อาทิ เบน วู้ดเบิร์น, เชยี่ โอโจ้ หรือ แฮร์รี่ วิลสัน ผลงานโดดเด่นในทีมอะคาเดมี่ แต่พอก้าวสู่ชุดใหญ่ คลาสยังไม่ถึง ก่อนจะค่อยหายไปเงียบๆ ซึ่งก็ยังมีดาวรุ่งอีกหลายคน ที่ถูกส่งไปให้ทีมอื่นยืมตัว ไม่ก็ถูกขายออกไป

แต่กับ บายเซติช ดูเหมือนว่า เขากำลังจะได้ลงเล่นแบบถาวรให้กับ หงส์แดง แบบติดลมบน

เนื่องด้วย ฟาบินโญ่ ฟอร์มไม่ได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ร่างทองของหมอปลา ที่เคยเป็นมือปราบแนวรุกคู่แข่ง กลับหายเข้าไปในกลีบเมฆ

เมื่อ ฟาบินโญ่ ไม่เหมือนเก่า โดนวิจารณ์อย่างหนัก จึงเป็นโอกาสของ บายเซติช ที่ได้รับเลือกจาก เจอร์เก้น คล็อปป์ ให้ลงสนามเป็นตัวจริง ทั้งๆที่ หงส์แดง กำลังเจอสถานการณ์ยากลำบาก แต่เจ้าหนูรายนี้ คือสิ่งที่ คล็อปป์ มองว่า "สถานการณ์สร้างวีรบุรุษ"

เพราะถ้าไม่ให้โอกาส แล้วเมื่อไหร่ บายเซติช จะเติบโต !!

จริงอยู่ที่เจ้าหนูรายนี้ คงไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูล ให้ดีแบบข้ามวันข้ามคืน หรือ ลงสนามมาแล้วจะเป็น เดอะ แบก ช่วยให้ หงส์แดง พบเจอแต่ชัยชนะ

กระนั้นนี่คือเด็กวัย 18 ปี ที่เต็มไปด้วยพลังงาน เต็มไปด้วยความหิวกระหายที่จะลงสนาม เต็มไปด้วยความ เอเนอจี้ ที่ ลิเวอร์พูล กำลังขาดหายไป

ก่อนหน้านี้ บายเซติช เกือบไม่ได้เป็นแข้ง หงส์แดง ด้วยซ้ำ เพราะสมัยที่เขาเริ่มเต้นเล่นฟุตบอลกับ เซลต้า บีโก้ ทีมดังจากสเปน ซึ่งเป็นอดีตต้นสังกัดของ เซอร์ดาน บายเซติช คุณพ่อของเขา มันมีหลายทีมต้องการได้ตัวไปร่วมทัพ โดยเฉพาะกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่สุดท้ายเป็น ลิเวอร์พูล โน้มน้าวได้สำเร็จ และ ต้องใช้เงินดึงตัวมาในราคาเกือบๆ 2 แสน 5 หมื่นปอนด์ เมื่อปี 2021

ไม่ว่าด้วยเรื่องอาการบาดเจ็บ หรือ ฟอร์มการเล่นของบรรดามิดฟิลด์ ลิเวอร์พูล ทำให้ บายเซติช ที่มีพรแสวงเรื่องฝีเท้า ได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่เร็วกว่าที่คิด เผลอแปบเดียวลงสนามให้ หงส์แดง ไปแล้ว 16 นัดทุกรายการ

เดิมที บายเซติช เล่นเป็นตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก สมัยเป็นเยาวชนของ เซลต้า บีโก้ แต่สิ่งที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ เห็นฝีเท้าของเจ้าหนูรายนี้ ก็รู้ดีว่าเขามีพรสวรรค์ที่จะเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ได้ และ การได้เล่นกองกลางหมาย 6 เพื่อไว้แทน ฟาบินโญ่

ตั้งแต่ ฟุตบอลโลก 2022 จบลง .. บายเซติช ได้ลงสนามบ่อยๆ เขาสร้างชื่อด้วยการยิงประตูปิดกล่องให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตัน วิลล่า ด้วยสกอร์ 3-1 ช่วง บ็อกซิ่ง เดย์ ก่อนจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างมากนัก เนื่องด้วย ลิเวอร์พูล ผลงานย่ำแย่เกินคำบรรยาย แต่เขาเองก็ได้ลงสนามต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม บายเซติช กลับถูกพูดถึงแบบข้ามคืน ว่าเป็นนักเตะที่เล่นโดดเด่นได้เกินวัย ในเกมที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะคู่ปรับตลอดกาลอย่าง เอฟเวอร์ตัน ด้วยสกอร์ 2-0 

วันนั้นเขาไม่ได้ลงเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็ก หรือ เป็นมิดฟิลด์ตัวตัดเกม แต่เขาลงเล่นเป็นกองกลางหมายเลข 8 แทนที่ ติอาโก้ อัลคันตาร่า ที่มีอาการบาดเจ็บ และ ต้องพักยาวถึง 1 เดือน

บายเซติช สืบทอดการร่ายเวทมนต์ของ ติอาโก้ ได้อย่างไร้ที่ติด อาจด้วยเพราะเวลาฝึกซ้อมเขาเป็นเหมือนลูกศิษย์ ติอาโก้ โดยตรง จริงๆ 2 คนนี้ อายุห่างกันถึง 13 ปี แต่มีความผูกพันธ์กันอย่างไม่น่าเชื่อ

เพราะคุณพ่อของ 2 คน เคยเป็นเพื่อนร่วมทีมกันสมัยอยู่ เซลต้า บีโก้ ก่อนที่ลูกชายจะมาเล่นด้วยกันที่ ลิเวอร์พูล ด้วยความเป็นชาวสเปน ด้วยกันทั้งคู่ ดังนั้นการเล่นมิดฟิลด์เบอร์ 8 ของ บายเซติช จึงได้อิทธิพลมาจาก ติอาโก้ เต็มๆ

ถ้าใครสังเกตเห็น มีช็อตที่ บายเซติช ทำท่า ติอาโก้ เทิร์น โชว์ไป 1 ดอก แสดงให้เห็นเลยว่าเขาเป็นลูกน้องใคร !

หลังจบเกม เมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ .. โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ถึงกับออกปากชม บายเซติช ว่า  "นับตั้งแต่ บายเซติช เริ่มเล่นให้กับเรา เขาน่าจะเป็นนักเตะที่ดีที่สุดของทีม"

ไหนจะมี สตีเว่น เจอร์ราร์ด เข้ามาคอมเมนท์ยกย่องผลงาน

เกมนั้นเขา

สัมผัสบอล 51 ครั้ง
จ่ายบอลสําเร็จ 76 %
จ่ายบอลเข้าพื้นที่สุดท้าย 5 ครั้ง
สร้างสรรค์โอกาส 2 ครั้ง (มากที่สุดในเกม)
ดวลกลางอากาศชนะ 100%
แท็กเกิ้ลชนะ 7 ครั้ง (มากที่สุดในเกม)
แย่งบอลกลับมาครอง 5 ครั้ง
ดวลภาคพื้นดินชนะ 4 ครั้ง
และ เคลียร์บอล 1 ครั้ง 

เรียกว่า โดดเด่นทั้งเกมรุก ที่คอยวางบอล และ เกมรับ ที่่ช่วยตัดบอลได้หลายครั้ง

ฟังดูผลงานของเจ้าหนูรายนี้ น่าจับตามองอย่างมาก แต่อาจเร็วไปที่จะบอกว่า เขาสามารถเป็น "นิว ติอาโก้" ได้

ตอนนี้ดีแล้ว แต่ยังเชื่อว่ายังดีได้ดีกว่านี้อีก บางทีข้อดีข้อเดียวของการไม่ซื้อกองกลางเข้ามาเพิ่มในช่วงตลาดหน้าหนาวที่ผ่านมา ก็คือการได้ค้นพบว่า เพชรเม็ดน้อย ที่พร้อมให้ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เจียระไน

แล้วมารอดูกันว่า บายเซติช จะก้าวไปได้ไกลแค่ไหนนับจากนี้ 

ฮาย ฮาวดี้-