จริงๆแล้วเกมนี้ รูปแบบการเล่นของนักเตะ ปีศาจแดง ก็ไม่ได้ขี้เหร่ มีโอกาสยิงหลายครั้ง แต่พวกเขากลับต้องแพ้ภัยตัวเอง เพราะแจกโชคให้กับคู่แข่งถึง 2 ประตู ส่วน เซบีย่า ก็กู่ก้องให้ทั่วโลกได้รับรู้อีกครั้งว่า รายการ ยูโรปา ลีก ของพวกข้า ใครอย่ามาแหยม
โดยหลังจบเกมนี้ มีอะไรต้องเล่าสู่กันฟังบ้าง มาติดตามได้เลยครับ
- แม็คไกวร์ เจ้าพ่อคอนเทนต์
ยามใดที่ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ลงสนามให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยามนั้นเขามักจะสร้างคอนเทนต์ให้แฟนบอลคอยล้อเลียนอยู่เป็นประจำ และ การแข่งขัน ยูโรปา ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เขาก็แจกโชคให้กับ เซบีย่า ทั้ง 2 นัด
อย่างเกมนัดแรกที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด .. แม็คไกวร์ ดันดวงกุดสุดๆ เนื่องจากนักเตะ เซบีย่า โขกมาแฉลบหัวของเขาเปลี่ยนทางเข้าประตู กลายเป็นโดนตีเสมอ 2-2 ซะอย่างงั้น เรียกว่าคนมันจะซวย ทำอะไรมันก็ซวย
และ นัดล่าสุด สิ่งที่สาวก ปีศาจแดง หวั่นๆอยู่ในใจ ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ แม็คไกวร์ ผายมือขอบอลจาก ดาบิด เด เคอา จากการเซ็ตบอลอยู่แดนหลัง แต่ด้วยความขยันมาของนักเตะ เซบีย่า วิ่งเข้ามาบีบ แม็คไกวร์ ถึง 3 คน ทำให้ แม็คไกวร์ จ่ายบอลพลาด ไปติดนักเตะ เซบีย่า ก่อนที่ ยุสเซฟ เอ็น เนซีรี่ จะฉกไปยิงแบบจ่อๆในกรอบเขตโทษ ให้ทีมขึ้นนำ 1-0 ชนิดที่ เด เคอา ยืนขาตาย
ซึ่งลูกนี้ไม่ต้องโทษใคร เป็นความผิดพลาดของแมนฯ ยูไนเต็ด เอง พวกเขาเล่นกันไม่ละเอียด และ ประมาทนักเตะ เซบีย่า เกินไป แต่ก็ให้เครดิตคู่แข่ง ที่ตามมาบีบเพรสซิ่ง แม็คไกวร์ ที่เหมือนจะไม่มีใครวิ่งมากดดัน จนได้ประตูขึ้นนำ
- VAR ช่วยชีวิต ปีศาจแดง
ต้องบอกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้องลุ้นแบบใจหายใจคว่ำ ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกประมาณ 5 นาที เพราะพวกเขาเกือบจะเป็นฝ่ายตามหลัง 2 ประตู เนื่องจาก เซบีย่า ส่งบอลเข้าไปซุกตาข่ายได้แล้วเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม แฟนบอล เร้ด เดวิลส์ เหมือนยกภูเขาออกจากอก เพราะจากช็อตที่ คาเซมิโร่ ส่งบอลพลาดกลางสนาม โดนโต้กลับเร็ว ก่อนจะเป็น มาร์กอส อคุนญ่า จ่ายคัทแบ็กกลับไปให้ ลูคัส โอคัมโปส วิ่งมายิงเสียบเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม
แต่กระนั้น VAR ได้ย้อนกลับไปเช็คจังหวะนี้ และ พบว่า มาร์กอส อคุนญ่า อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า ชนิดที่ล้ำแบบระดับมิลลิเมตรเท่านั้น ทำให้ประตูนี้ของ เซบีย่า ถูกริบคืน และ สกอร์ยังคงเป็นเจ้าบ้านนำ 1-0 เช่นเดิม
- ดาบิด เด เคอา แจกโชค
ความผิดพลาดของ ปีศาจแดง เป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกเขาต้องกระเด็นตกรอบ ยูโรปา ลีก อย่างแท้จริง และ นับเป็นฝันร้ายของ ดาบิด เด เคอา ที่คงหลับไม่ลง เพราะ 3 ประตูที่ แมนฯ ยูไนเต็ด เสียไปนั้น เขามีส่วนต้องรับผิดชอบถึง 2 ลูก
เริ่มจากลูกแรกก็ไปออกบอลให้เพื่อนเล่นยาก ทั้งๆที่เขาสามารถเลือกเล่นได้หลายทาง จะออกซ้าย หรือ ออกขวา ไม่ก็เตะยาวทิ้งไปเลย แต่เพราะการเล่นสั้น และ ไปเลือกจ่ายให้กับ แม็คไกวร์ จนเสียประตูในที่สุด
ส่วนประตูที่ 3 ในขณะที่นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังพยายามอย่างหนัก เพื่อหวังยิงประตูตีไข่แตก เอาโมเมนตั้มเกมกลับคืนมาให้ได้ หลังโดนนำไปแล้ว 2 ลูก แต่แล้ว ดาบิด เด เคอา ก็มาแจกของขวัญให้กับเจ้าบ้าน ในจังหวะที่ไม่มีอะไรเลย ด้วยการจับบอลลั่นนอกกรอบเขตโทษ ทั้งๆที่ไม่ได้โดนเพรสซิ่งด้วยซ้ำ
เมื่อ เด เคอา ผิดพลาดจับบอลลั่น ก็ต้องโดนลงโทษ เพราะบอลเป็นใจกระดอนไปเข้าทาง ยุสเซฟ เอ็น เนซีรี่ คนดีคนเดิม ที่ได้ส้มหล่นอีกครั้ง ยิงข้ามตัว เด เคอา แบบง่ายๆเข้าไป และ เป็นการปิดจ็อบเอาชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด ไปด้วยสกอร์ 3-0
นอกจากนี้ ยังมีสถิติบ่งบอกอีกว่า ไม่มีนักเตะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คนไหน ทำผิดพลาด และ นำมาซึ่งการเสียประตู มากไปกว่า ดาบิด เค อา อีกแล้ว โดยมากถึง 5 ครั้ง นับตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่นก่อน รวมทุกรายการ
- แมนฯ ยูไนเต็ด หมดโอกาสคว้าทริปเปิ้ลแชมป์
หลังจาก แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถปราบ 2 ทีมชั้นนำ ลา ลีกา สเปน อย่าง บาร์เซโลน่า ในรอบเพลย์ออฟ และ เรอัล เบติส รอบ 16 ทีมสุดท้าย มาได้ เหมือนว่าพวกเขาจะถูกโฉลกเหลือเกิน กับการเผชิญหน้ากับสโมสรจากลีกแดน "กระทิงดุ" แต่ก็ไม่มีเรื่องนั้นเกิดขึ้นอีกแล้ว เซบีย่า โชว์ความเป็นเจ้าพ่อแห่งรายการ ยูโรปา ลีก ย้ำแค้น ปีศาจแดง ได้อีกครั้ง หลังจากเคยเขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อซีซั่น 2017-18 มาแล้ว
จากการจอดป้ายรอบ ควอเตอร์ไฟนัลส์ ยูโรปา ลีก ด้วยน้ำมือของ เซบีย่า ส่งผลให้ ปีศาจแดง ภายใต้การคุมทีมของ เอริค เทน ฮาก หมดลุ้นคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในซีซั่นนี้อย่างเป็นทางการแล้ว โดยจะเหลือเพียงแค่ เอฟเอ คัพ อีก 1 รายการ ที่พวกเขายังมีลุ้น ซึ่งจะต้องพบกับ ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน ในรอบรองชนะเลิศ แน่นอนว่าไม่ใช่งานง่าย
ขณะที่ เกมลีก แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ยังต้องประคองตัวจบท็อปโฟร์ให้ได้ เพื่อคว้าตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า เพราะตั๋วทางลัดอย่าง ยูโรปา ลีก ปิ๋วไปแล้วเรียบร้อย ซึ่งต้องมารอดูกันว่า ปีศาจแดง จะสามารถบรรลุเป้าหมายที่หลงเหลืออยู่ได้หรือไม่ หลังจากคว้าแชมป์ คาราบาว คัพ มาครองได้ 1 รายการ
- รายการนี้ เซบีย่า ครองเมือง
บอกตามตรง ผลงานของ เซบีย่า ซีซั่นนี้ ช่างเหลวแหลกเหลือเกิน พวกเขาสั่งปลดกุนซือมาแล้วถึง 2 คน ประกอบด้วย ฆูเลน โลเปเตกี ที่โดนไล่ออกตั้งแต่ต้นซีซั่น และ ฮอร์เก้ ซามเปาลี ซึ่งแยกทางก่อนมาเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่นาน หลัง เซบีย่า หล่นมาอยู่ท้ายตาราง แบบเหนือโซนตกชั้นแค่ 2 คะแนน
อย่างไรก็ตาม พอเปลี่ยนมือมาเป็น โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ กุมบังเหียน ผลงานของทีม ก็ดีวันดีคืน เหมือนเป็นคนละทีม โดยตลอด 5 นัดที่ผ่านมา เซบีย่า ยังไม่เคยแพ้ให้กับทีมใด ชนะ 3 นัด และ เสมอ 2 นัด ที่สำคัญ เซบีย่า ยังยืดสถิติไม่เคยแพ้ ปีศาจแดง ในเกมยุโรปต่อไป หลังเจอกันมาแล้ว 5 ครั้ง
เรียกว่าสถานการณ์ในศึก ลา ลีกา สเปน ตอนนี้ แทบจะปลอดภัย ไม่ต้องไปลุ้นหนีตกชั้น ดังนั้น โฆเซ่ หลุยส์ เมนดิลิบาร์ สามารถพุ่งเป้ามาโฟกัสกับ ยูโรปา ลีก ได้มากกว่าเดิม เพราะนี่คือรายการที่ เซบีย่า ครองเมือง เป็นเจ้าของสถิติได้แชมป์รายการนี้มากที่สุดถึง 6 ครั้ง และ เมื่อไหร่ที่ผ่านเข้ามารอบรองชนะเลิศ จะจบด้วยการเป็นแชมป์เสมอ แต่ครั้งนี้ต้องไปถาม ยูเวนตุส คู่แข่งรอบตัดเชือก
ฮาย ฮาวดี้-
