logo-heading

ในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลการลุ้นแชมป์ "พรีเมียร์ลีก" ก็กำลังเข้มข้นและลุ้นกันสนุกมากๆ และตอนนี้โมเมนตั้มและทิศทางก็เปลี่ยนเป็น "แมนเชสเตอร์ ซิตี้" ที่กุมความได้เปรียบเหนือ "อาร์เซน่อล" แต่ในขณะเดียวกันนั้นสถานการณ์การลุ้นพื้นที่ "ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก" ก็ชวนตื่นเต้นไม่แพ้กัน

ตอนนี้การันตีได้แล้วว่าตอนนี้ทั้ง อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้ จะเป็น 2 ทีมที่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แน่ๆ ในปีหน้า แต่คราวนี้ก็ต้องมาลุ้นกันว่าใครจะเป็นอีก 2 ทีมที่จะได้โควต้านี้ไป และนี่ก็คือสิ่งที่ ขอบสนาม อยากนำเสนอในวันนี้ครับ

สถานการณ์การลุ้นพื้นที่ "Top 4 พรีเมียร์ลีก" ณ เวลานี้

พูดถึงทีมอันดับ 3 นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ของ เอดดี้ ฮาว กันก่อนแล้วกัน จริงอยู่ที่มันมีช่วงฟอร์มตกทำแต้มหล่นไปพักหนึ่ง แต่ถึงกระนั้นในช่วงเวลาสำคัญแบบนี้สำหรับการพื้นที่ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก พวกเขาก็กลับมาอยู่ในจุดที่ผลงานดีอีกครั้งอย่างที่ควรจะเป็น โดยการชนะ 7 จาก 8 เกมหลังสุดก็ยังทำให้พวกเขารักษาพื้นที่อันดับ 3 ไว้ได้ แข่ง 32 นัด มี 62 คะแนน นำหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อันดับ 4 อยู่ 2 แต้มแต่แข่งมากกว่า 1 นัด

นิวคาสเซิ่ล อาจจะเสียเปรียบที่แข่งมากกว่า "ปีศาจแดง" อยู่ 1 นัดก็จริงซึ่งอาจทำให้พวกเขาโดนแย่งพื้นที่อันดับ 3 ไปในท้ายที่สุด แต่มันก็มีอยู่หลายปัจจัยที่อาจจะเกิดขึ้นได้ยาก อันดับแรกเลยก็คือเรื่องของผลงานในชั่วโมงนี้ที่ดูดีกว่า แมนฯ ยูไนเต็ด แบบชัดเจน รวมไปถึงศักยภาพการผลิตสกอร์ เพราะตลอดช่วง 7 จาก 8 นัดที่พวกเขาคว้าชัยมาได้ นิวคาสเซิ่ล ยิงได้อย่างต่ำ 2 ประตูขึ้นไปทุกนัด และมีลูกได้เสียที่บวกอยู่มากถึง 32 ประตู 

ส่วนโปรแกรมที่เหลืออีก 6 นัดก็ดูไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากังวลเท่าไหร่กับการต้องเจอ เซาธ์แฮมป์ตัน, อาร์เซน่อล, ลีดส์ ยูไนเต็ด, ไบร์ทตัน, เลสเตอร์ ซิตี้ และ เชลซี และก็มีเกมที่ได้เฝ้ารัง เซนต์ เจมส์ พาร์ค ถึง 4 นัดด้วยกัน ถ้าทีมของ เอดดี้ ฮาว สามารถรักษามาตรฐานของตัวเองได้ดีอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ก็น่าจะเก็บผลที่ต้องการได้ทุกนัด จะมีเกมกับ "ปืนใหญ่" และ "นกนางนวล" ที่ดูมีโอกาสทำแต้มหล่นมากที่สุด

สมมติว่าต้องเสียพื้นที่อันดับ 3 ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด จากความผิดพลาดใน 2 เกมที่ดูมีโอกาสสะดุดมากที่สุด ทว่าแต้มก็ยังคงห่างจากอันดับ 5-6 นั่นก็คือ ท็อตแน่ม ฮ็อทเสปอร์ และ แอสตัน วิลล่า แถมยังได้เปรียบเรื่องจำนวนเกมที่เหลือกว่าด้วย และเมื่อมองภาพรวมจากองค์ประกอบทั้งหมดมันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า นิวคาสเซิ่ล คือทีมที่มีโอกาสคว้าตั๋ว ยูซีแอล มากที่สุด

ส่วนทาง แมนฯ ยูไนเต็ด อาจจะมีโอกาสที่ดีในการแซง นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ขึ้นไปเป็นที่ 3 จากโปรแกรมตกค้าง 1 นัดที่อยู่ในมือ แต่ถ้ามองภาพกว้างๆ สถานการณ์ของพวกเขาไม่ได้ดูได้เปรียบกว่าจริงๆ อันดับแรกเลยก็คือเรื่องของโปรแกรมที่เหลืออยู่ซึ่งค่อนข้างจะเป็นงานที่หินกว่าชัดๆ เมื่อเทียบกับ นิวคาสเซิ่ล

"ปีศาจแดง" ต้องเจอกับ แอสตัน วิลล่า ที่กำลังฟอร์มร้อนแรงสุดๆ ในชั่วโมงนี้ ตามด้วยการไปเยือนทีมของแสลงทีมใหญ่อย่าง ไบร์ทตัน และตามด้วยกับการเจอ 3 ทีมหนีตายอย่าง เวสต์แฮม, วูล์ฟแฮมป์ตัน และ บอร์นมัธ และปิดท้ายด้วยการเจอกับ 2 ทีมจากลอนดอนก็คือ เชลซี และ ฟูแล่ม

การเจอกับ แอสตัน วิลล่า และ ไบร์ทตัน ดูจะเป็นด่านที่กังวลมากที่สุด เพราะนี่คือสเตจที่พวกเขามีโอกาสทำแต้มหล่นมากที่สุด จริงอยู่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด แข่งน้อยกว่าพวกทีมอันดับ 5-6 ถึง 2 นัด และมีแต้มห่างอยู่ 6 คะแนน แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยเสียทีเดียว เพราสิ่งที่น่ากังวลมากๆ ของ "ปีศาจแดง" ตอนนี้ก็คือแนวรับที่ไม่มี 2 ตัวหลักอย่าง ลิซานโดร มาร์ติเนซ และ ราฟาเอล วาราน ซึ่งส่งผลชัดเจนในช่วง 2-3 นัดที่ผ่านมา

นอกจากนี้เรื่องสถิตินอกบ้านก็เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงเช่นกัน เพราะนับตั้งแต่เข้าสู่ปี 2023 แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ออกไปเล่นนอกบ้าน 7 นัด ผลปรากฏว่าชนะแค่ 2 นัด และแพ้ไปถึง 3 นัดซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือการโดนคู่อริอย่าง ลิเวอร์พูล จัดหนักไป 7-0 และในช่วง 7 เกมที่เหลืออยู่นั้นพวกเขามีคิวยกพลไปเยือนคู่แข่งถึง 3 นัดด้วยกันนั่นก็คือ ไบร์ทตัน, เวสต์แฮม และ บอร์นมัธ

ส่วน ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ถึงแม้จะยังไม่ถูกตัดชื่อทิ้งจากการลุ้นพื้นที่ท็อปโฟร์ แต่โอกาสดูจะน้อยนิดที่สุดกว่าทุกๆ ทีม เหตุผลหลักๆ เลยก็คือความไม่คงเส้นคงวาในเรื่องของผลงาน การขาดกุนซืออาชีพที่มีประสบการณ์ ตลอดจนโปรแกรมที่เหลืออยู่อีก 5 นัดที่ต้องเจอกับทีมอย่าง ลิเวอร์พูล, คริสตัล พาเลซ, แอสตัน วิลล่า, เบรนท์ฟอร์ด และ ลีดส์ ยูไนเต็ด ซึ่งไม่มีเกมไหนที่สามารถการันตีได้เลยว่าพวกเขาจะเก็บ 3 คะแนนได้

ทางฝั่ง ลิเวอร์พูล ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เหลืออีก 6 นัดกับช่องว่างที่ห่างจากอันดับ 4 อยู่ 7 คะแนน ภารกิจเดียวของพวกเขาก็คือการเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดซึ่งนั่นจะรวมไปถึงการตัดแต้มทีมอย่าง สเปอร์ส และ แอสตัน วิลล่า ด้วย จากนั้นก็ต้องมาลุ้นและแช่งให้อีกสองตัวแปรอย่าง นิวคาสเซิ่ล และ แมนฯ ยูไนเต็ด สะดุดให้มากที่สุด

สำหรับ แอสตัน วิลล่า ที่รั้งอันดับ 6 แข่ง 33 นัด มี 54 คะแนนเท่ากับ สเปอร์ส ก็ดูจะเป็นทีมม้ามืดที่สุดในช่วงโค้งสุดท้ายแบบนี้จากฟอร์มอันร้อนแรงที่ไล่เก็บชัยมา 8 จาก 10 นัดติดต่อกันและไม่แพ้ใครเลย กุนซืออย่าง อูไน เอเมรี่ ก็ได้รับคำชื่นชมยกย่องว่าเป็นโค้ชฝีมือดีและพาทีมไปลุยฟุตบอลยุโรปอยู่บ่อยๆ 

การเอาชนะ นิวคาสเซิ่ล ได้แบบขาดลอย 3-0 บวกกับศักยภาพทีมและความมั่นใจในตอนนี้มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขามีโอกาสเก็บ 15 แต้มเต็มจากโปรแกรมที่เหลืออีก 5 นัด และสิ่งที่อาจจะทำให้เกิดจุดเปลี่ยนสำคัญก็คือการเจอ แมนฯ ยูไนเต็ด, สเปอร์ส และ ลิเวอร์พูล ซึ่ง 9 คะแนนตรงนี้จะมีส่วนที่จะตัดสินว่าพวกเขาจะคว้าพื้นที่อันดับ 4 ได้หรือไม่

อย่างไรก็ตามในเหล่าบรรดา 5 สโมสร พรีเมียร์ลีก ที่เอ่ยมากับภารกิจการลุ้นแย่งตั๋ว ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ใบสุดท้าย หลายๆ ฝ่ายก็ยังเชื่อว่า อันดับตารางคะแนนน่าจะยึดตามนี้ไม่มีเปลี่ยน และจะเป็น นิวคาสเซิ่ล และ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่กอดคอกันตาม อาร์เซน่อล และ แมนฯ ซิตี้ ไปลุยถ้วย "บิ๊กเอียร์" ในปีหน้า

แต่การเปลี่ยนแปลงเกิดก็ขึ้นทุกทีที่คนเรากระพริบตา ไม่มีอะไรที่แน่นอนในเรื่องของชีวิต และเมื่้อขึ้นชื่อว่าเป็นกีฬาฟุตบอลอะไรๆ ก็สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น

HaMu Dos Santos

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline