ซึ่งนอกจากผลงานของแต่ละสโมสรแล้ว อีกประเด็นที่น่าสนใจคือเหล่านักเตะที่เพิ่งย้ายทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา มีหลายคนที่ผลงานดี แตกต่างจากซีซั่นก่อน หรือบางรายเป็นส่วนเกินกับอีกที่ แต่เป็นคนเติมเต็มให้อีกทีม
ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปส่อง 5 นักเตะที่ฟอร์มกับทีมเก่าไม่สวย หรือเป็นคนที่สโมสรเก่าไม่คิดใช้งาน แต่พอได้ย้ายทีมกลับกำลังมีผลงานที่เฉิดฉาย จะมีใครบ้างไปติดตามกันได้เลย
เฟร็ด (เฟเนร์บาห์เช่)
กองกลางที่ครั้งหนึ่งถูกแฟนบอลตั้งฉายาว่าเป็นบราซิลเซินเจิ้นจากผลงานที่กระท่อนกระแท่นไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนักภายใต้ยูนิฟอร์มของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ช่วงเวลากว่า 5 ปี ในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ไม่ได้ฝากสิ่งที่น่าภูมิใจมากเท่าไหร่นัก เล่นดี 1 เกมออกทะเล 4 นัด แล้วถ้าวันไหนผลงานห่วยเหมือนแดนกลางทัพ “ปีศาจแดง” ผู้เล่นหายไป ตัดเกมไม่ได้ จ่ายบอลไม่ได้ บางทีระยะเพียงไม่กี่เมตรก็จ่ายบอลพลาด ทั้งที่สมัยอยู่กับ ชัคตาร์ โดเน็ตส์ค เรียกได้ว่าคือกองกลางมาตรฐานเยี่ยมคนหนึ่ง
ฉะนั้นไม่แปลกที่เหล่าบรรดา เร้ด เดวิลส์ จะไม่ได้รู้สึกเสียดายกับการปล่อยกลองกลางรายนี้ออกไปเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่าน
ทว่าช่วงเริ่มต้น ณ แดนไก่งวง เฟร็ด กลับรังสรรค์ผลงานอันยอดเยี่ยมออกมา แทบลงเล่นเป็นตัวหลักของ เฟเนบาห์เช่ ด้วย จำนวน 10 เกมในทุกรายการ จัดการทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์ เป็นจำนวนครึ่งที่ทำได้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้งซีซั่นที่แล้วเสียอีก พร้อมพาทีมกวาดชัยชนะรวดทุกนัด
เรียกได้ว่าตอนนี้ทั้งความมั่นใจ ทั้งโอกาสของ เฟร็ด กำลังมาแบบเต็มเปี่ยม บางทีนี้อาจเป็นพื้นที่ที่คู่ควรกับเขาแล้ว
ไรอัน กราเฟนแบร์ค (ลิเวอร์พูล)
ย้อนกลับไปเมื่อฤดูกาลก่อน กราเฟนแบร์ค ตกเป็นตัวสำรองของ บาเยิร์น มิวนิค โดยสมบูรณ์ มีโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในบุนเดสลีกาไปเพียง 3 เกมเท่านั้น
ฉะนั้นการย้ายออกจากถ้ำ “เสือใต้” ถือว่าเป็นอะไรที่คู่ควรกับดาวรุ่งแบบเขาที่ต้องการโอกาสลงสนามลงเล่นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไม่แปลกที่กองกลางรายนี้จะมีข่าวเชื่อมโยงกับหลายสโมสรในยุโรป ก่อนที่สุดท้ายจะมาลงเอยกับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัวราว 40 ล้านยูโร
นับจนถึงตรงนี้ กราเฟนแบร์ค อาจจะยังไม่ได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงในพรีเมียร์ลีกเลยก็ตาม แต่ในบอลถ้วยอย่าง ยูโรปา ลีก เจ้าตัวได้เป็นตัวจริงทั้ง 2 เกม แถมประเดิมตุงแรกกับทีมได้แล้วด้วย
ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เขาทำได้เท่ากับสมัยอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค เลยทีเดียว ด้วยโปรแกรมลงสนามที่ค่อนข้างเยอะของ “หงส์แดง” เชื่อว่าโอกาสได้ลงสนามไปวาดลวดลายของเขาจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ และสามารถเรียกฟอร์มเก่งเหมือนตอนอยู่กับ อาแจ็กซ์ ออกมาได้
เจา คานเซโร่ (บาร์เซโลน่า)
หนึ่งในนักเตะที่ชีวิตการค้าแข้งช่างน่าอิจฉาดีเหลือเกินได้เล่นกับทั้ง อินเตอร์ มิลาน, ยูเวสตุส, แมนเชสเตอร์ ซิตี้, บาเยิร์น มิวนิค หรือล่าสุดกับ บาร์เซโลน่า
เมื่อตลาดเดือนมกราคมที่ผ่านมา คานเซโร่ ถูกทัพ “เรือใบสีฟ้า” ปล่อยตัวไปให้ บาเยิร์น มิวนิค ใช้งานแบบยืมตัว ซึ่งช่วงแรกๆ เจ้าตัวก็ได้โอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง ก่อนมีช่วงที่โดนดร็อปเป็นตัวสำรองอยู่บ้าง
ซึ่งพอหมดสัญญาทัพ “เสือใต้” ก็ไม่ได้ซื้อขาดไปร่วมทีม ส่วนฝั่ง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ไม่ได้คิดจะใช้งาน กลายเป็นส่วนเกินของทีม จนเกิดเป็นดีลที่ บาร์เซโลน่า ยื่นมือมาขอยืมตัวไปใช้งาน
โดยชีวิตในสเปนฟูลแบ็ครายนี้โชว์ผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าเติมเต็มทั้งเกมรับ และเกมรุกของ บาร์ซ่า ได้อย่างแนบเนียน ปัจจุบันเจ้าตัวลงเล่นให้ทัพ “อาซูลกราน่า” ไปแล้ว 7 เกม ซัดไป 2 ประตู กับ 1 แอสซิสต์
เชื่อว่าพอถึงวันสุดท้ายของซีซั่น ถ้าไม่มีอาการบาดเจ็บมาเล่นงานเสียก่อน สถิติเหล่านี้คงจะเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
โรเมลู ลูกากู (โรม่า)
ดาวยิงที่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมามีข่าวย้ายทีมแทบจะรายวัน พร้อมเชื่อมโยงกับหลายสโมสรทั้งในอิตาลี หรือแม้แต่ใน ซาอุดิอาระเบีย ก็เคยยื่นข้อเสนอมาทาบทามแล้ว
ชีวิตของ ลูกากู เมื่อราวๆ 2 เดือนก่อนถูกวิจารณ์ และแสดงความคิดเห็นไปต่างๆ นานา ว่าอนาคตจะไปในทิศทางไหน เพราะกับ เชลซี โอกาสที่จะได้ลงเล่นคงน้อยเต็มที เพราะแม้แต่ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ยังไม่ได้โอกาสคุยกับเขาถึงทิศทางในช่วงนั้น
จนกระทั่งสุดท้ายในเมื่อกลับ อินเตอร์ ไม่ได้ เพราะเคยไปสัพยอกว่าจะย้ายไปร่วมทัพคู่แข่งอย่าง ยูเวนตุส ก็เป็น โรม่า ของ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ดึงตัวอดีตลูกทีมคนนี้ไปร่วมงานด้วยอีกครั้ง พร้อมการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนบอล
จากกองหน้าที่ไม่มีใครเอา สู่ดาวยิงที่ตอนนี้ผลงานร้อนแรงแบบสุดๆ ซัดไปแล้ว 5 ประตู จาก 7 เกม แม้ผลงานของ โรม่า อาจไม่ได้สวยงามนัก แต่ฟอร์มของ ลูกากู ตอนนี้ช่างโสภาดีเหลือเกิน
เจา เฟลิกซ์ (บาร์เซโลน่า)
ปิดท้ายกันอีกหนึ่งนักเตะของ บาร์เซโลน่า ที่ชีวิตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาพลิกผันเป็นอย่างมาก จากตัวเกินของ แอตเลติโก มาดริด สู่ดาวยิงแห่ง บาร์เซโลน่า
ชื่อของ เจา เฟลิกซ์ ดูเหมือนจะเป็นเส้นขนานของทัพ “ตราหมี” ตั้งแต่ซีซั่นก่อน เพราะถูกปล่อยออกไปให้ เชลซี ยืมตัว แต่แล้วชีวิตในอังกฤษผลงานกลับไม่ค่อยสู้ดีนัก แต่เจ้าตัวก็ออกมาพูดว่าพร้อมย้ายมาค้าแข้งในถิ่น เดอะ บริจด์ แบบถาวร
ทว่าในสัญญายืมตัวนั้นไม่ได้พ่วงออปชั่นซื้อขาดเอาไว้ บวกกับ เชลซี ของ โปเช็ตติโน่ ก็ไม่ได้มอง เฟลิกซ์ เป็นทางเลือก เพราะได้ตัว คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู มาร่วมทีมแล้ว
ซึ่งหลังกลับไปเข้าแคมป์ แอต.มาดริด เรื่องต่างๆ ก็ประเดประดังเข้ามาแบบไม่ขาดสายทั้ง โดนริบเสื้อหมายเลข 7 หรือ ถูกส่งไปซ้อมกับทีมสำรอง ฉะนั้นวิถีที่จะทำให้ เฟลิกซ์ ได้โอกาสลงสนาม คือการย้ายทีม และ บาร์เซโลน่า ก็คือจุดหมายของเขาที่อยากย้ายไปร่วมทีมด้วย
หลังจากกระบวนการทุกอย่างเสร็จสิ้น เฟลิกซ์ กลายเป็นนักเตะของ บาร์ซ่า เจ้าตัวสามารถร่ายฟอร์มที่ยอดเยี่ยมออกมา ซึ่งเจ้าตัวตอบสนองได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมกระทุ้งไปแล้ว 3 ตุง กับอีก 2 แอสซิสต์ จาก 7 เกม
เรียกได้ว่าฟ้าหลังฝนของ เฟลิกซ์ สวยงามมากจริงๆ กลับมาเล่นฟุตบอลด้วยความสุขอีกครั้ง
จากส่วนเกินของอีกทีม กลายเป็นคนสำคัญของอีกสโมสรในตอนนี้
- Paolinho -
