"รูเบน เนเวส" เป็นเหตุ : ประเด็นโหวตห้ามยืมตัวนักเตะจากทีมเจ้าของเดียวกัน

อย่างเรื่องราวล่าสุดเกี่ยวกับการยืมตัวนักเตะของ นิวคาสเซิ่ล ที่กลายเป็นประเด็นร้อน เมื่อพวกเขาแสดงความสนใจอยากได้ตัว รูเบน เนเวส มาเสริมแกร่งในช่วงตลาดเดือนมกราคมนี้ ทว่าเกิดข้อคัดค้านว่าอาจเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เนื่องด้วยเจ้าของสโมสรเป็นกลุ่มเดียวกัน

ซึ่งเรื่องราวนี้กลายเป็น ทอร์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ ที่ได้รับการพูดถึง และวิจารณ์กันในวงกว้าง ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราในวันนี้จะพาไปขยายความกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้มากกว่าเดิมว่าจุดเริ่มต้นเป็นอย่างไร และบทสรุปที่ออกมาจะเป็นในรูปแบบไหน

ย้อนกลับไปต้นตอของเรื่องนี้กันก่อนคือทาง นิวคาสเซิ่ล พวกเขาจะหมดสิทธิ์ใช้งาน ซานโดร โตนาลี่ ที่ถูกแบนจากข้อหาเล่นพนัน ซึ่งแน่ๆ ว่าทั้งตลอดซีซั่นนี้ทีมจะไร้กองกลางรายนี้ลงบัญชาเกม ทั้งที่คว้าตัวเข้ามาเพื่อตัวแกนหลักในการต่อสู้ และยกระดับของทีมให้สูงขึ้น

แน่นอนว่าเมื่อ โตนาลี่ ถูกตัดสิทธิ์การลงสนามไป นิวคาสเซิ่ล ก็ต้องลงตลาดเพื่อหาแข้งสักคนเข้ามาทดแทนในสิ่งที่ขาดหาย ซึ่งถ้ามองไปที่ตลาดนักเตะในยุโรป นักเตะในแดนกลางฝีเท้าดีมีคุณภาพก็อยู่กับทีมใหญ่ๆ กันครบแล้ว

ฉะนั้นเมื่อชายตามองไปแล้วหนึ่งในคนที่ เอ็ดดี้ ฮาว มองว่าเหมาะสม และเขาเองก็ชื่นชอบในฝีเท้าเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วก็คือ รูเบน เนเวส มิดฟิลด์ที่ย้ายไปเล่นในศึก ซาอุดิ โปรลีก กับ อัล ฮิลาล เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

โดย ฮาว ยอมรับแบบแมนๆ เลยว่าชื่นชอบสไตล์ของ เนเวส เป็นอย่างมากตั้งแต่สมัยยังคงอยู่กับ วูล์ฟแฮมป์ตัน แล้ว คราวนี้สื่อเลยจับเชื่อมโยงกันเลยว่ามีความเป็นไปได้ที่ นิวคาสเซิ่ล อาจไปเจรจาดึงกองกลางชาวโปรตุเกสคืนสู่พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

ทว่าปัญหาที่เกิดขึ้นดันมีข้อเรียกร้องว่าอาจเป็นดีลที่ไม่ยุติธรรมกับทีมอื่นๆ เพราะ นิวคาสเซิ่ล เองอาจเป็นการเซฟเงินจากการที่ต้องทุ่มซื้อนักเตะ แต่ใช้วิธีการยืมตัวแข้งคนนั้นๆ มาจากสโมสรที่มีเจ้าของเป็นกลุ่มทุนเดียวกัน

ซึ่งสโมสร อัล ฮิลาล มีผู้ถือหุ้นใหญ่คือ PIF ซึ่งเป็นกลุ่มทุนเดียวกับที่ถือครอง นิวคาสเซิ่ล จนเป็นที่มาของประเด็นดังกล่าว

คราวนี้จึงเกิดการวิจารณ์แตกแขนงเป็นวงกว้าง บางเสียงบอกว่าคือเรื่องที่ไม่ยุติธรรมต่อทีมอื่นๆ ที่มีนักเตะบาดเจ็บ หรือติดโทษแบนเหมือนกัน แต่ในอีกมุมมองว่าไม่ใช่เรื่องที่ผิดแปลกอะไร เพราะสโมสรในยุโรปหลายๆ ทีมก็ทำกันเป็นประจำอยู่แล้ว

ยกตัวอย่างให้เห็นภาพอย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่เจ้าของถือหุ้นหลายสโมสรทั้งในยุโรป หรือทวีปอื่นๆ พวกเขาเคยปล่อย ยันเคล เอร์เรร่า หรือ ยาน กุสโต้ ไปให้ กิโรน่า ยืมตัว ทั้งที่เป็นสโมสรในเครือเดียวกัน ซึ่งก็ไม่ได้เกิดประเด็นอะไรขึ้นมา

หรือในเครือ เร้ดบูลล์ ที่ปล่อยขายนักเตะให้สโมสรในเครือข่ายเดียวกันเป็นว่าเล่น อย่างเช่น เบนจามิน เซสโก้ ที่ เร้ดบูลล์ ซัลซ์บวร์ก ขายไปให้ แอลเบ ไลป์ซิก หรือส่ง ซามูเอล เทตเตห์ ไปให้ นิวยอร์ก เร้ดบูลล์ ใช้งาน

ล่าสุดจึงมีการเปิดโหวตกับ 20 สโมสรในพรีเมียร์ลีกถึงการคัดค้านไม่ให้มีการยืมตัวนักเตะจากสโมสรที่มีกลุ่มทุนเป็นเจ้าของทีมเดียวกัน

ทว่าผลที่ออกมาคือ 13 ต่อ 7 เสียง ซึ่งไม่ถึงเกณฑ์ที่พรีเมียร์ลีกตั้งไว้คือ 14 เสียง ทั้งนี้จากการเปิดเผยระบุว่า 7 เสียงคัดค้านกฎนี้ที่ไม่ให้มีการยืมตัวคือ แมนฯ ซิตี้, เชลซี, นิวคาสเซิ่ล, เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด, เอฟเวอร์ตัน, วูล์ฟแฮมป์ตัน และ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

ซึ่งเท่ากับในเคสของ นิวคาสเซิ่ล พวกเขาสามารถเดินหน้าเจรจาในการยืมตัว รูเบน เนเวส เข้ามาสู่ทีมได้ในเดือนมกราคมนี้ เพื่ออุดรอยที่ ซานโดร โตนาลี่ ทิ้งเข้าไว้ได้

คราวนี้จึงมีการวิเคราะห์กันไปต่อว่าเพราะอะไร พรีเมียร์ลีก ถึงมาร้อนรนกับประเด็นนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เหตุการณ์ในทำนองดังกล่าวมันเกิดขึ้นมาแล้วกับหลายๆ สโมสรในยุโรป

บ้างก็บอกว่าเอาเรื่องของความยุติธรรมมาเป็นข้ออ้าง กลัวทีมอื่นๆ ที่สโมสรไม่มีพันธมิตรจะเสียเปรียบ หรือ กลัวขั้วอำนาจใหม่จากแดนไกลมาทำให้พวกเขาเดือดร้อนกันแน่

อย่างไรก็ตามประเด็นนี้ก็ถูกไขกระจ่างแล้วว่าการยืมตัวจากทีมในกลุ่มทุนเดียวกันสามารถทำได้ และเราอาจได้เห็นสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในเร็วๆ นี้เช่นเดียวกัน

- Paolinho -