5 นักเตะตัวท็อป ที่โด่งดังมาจากรายการฟุตบอลเยาวชน

หลายคนมักมองบุคคลที่ผลลัพธ์ และความสำเร็จของนักเตะก่อนเสมอ แต่ลืมไปว่ารากฐานในระบบเยาวชนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากๆในวงการลูกหนัง

ฟุตบอลรายการเยาวชนก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้เช่นกัน เพราะรายการเหล่านี้จะเปรียบเสมือนเป็นเวทีให้กับแข้งดาวรุ่งพรสวรรค์สูง มาวาดลวดลาย และเติบโตเป็นนักเตะระดับท็อปต่อไปในอนาคต

วันนี้ทางขอบสนามจะพาไปรู้จัก 5 นักเตะที่แจ้งเกิด และโด่งดังมาจากฟุตบอลรายการเยาวชน จะมีใครบ้างเชิญรับชมไปพร้อมๆกันครับ

1.)  แจ็ค วิลเชียร์

แจ็ค วิลเชียร์ เติบโตมากับอคาเดมี่ของ อาร์เซน่อล ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และเติบโตขึ้นเรื่อยๆจนได้รับการแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี 

ในช่วงซัมเมอร์ปี 2007 วิลเชียร์ ในวัย 15 ปี ได้ลงเล่นในรายการ แชมเปี้ยนส์ ยูธคัพ ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมสถาปณาด้วยเองเป็นกองกลางพรสวรรค์สูงนับแต่นั้น แต่ทว่าผลงานของทีมในรายการดังกล่าวกลับตรงกันข้าม จบเพียงอันดับ 3 ในรอบแบ่งกลุ่มเท่านั้น

พอกลับมา อังกฤษ สตีพ โบลด์ กองหลังระดับตำนานของ อาร์เซน่อล ผู้ที่ดำรงตำแหน่งเป็นโค้ชของทีมเยาวชน ณ ขณะนั้น ตัดสินใจดัน เจ้าหนูวิลเชียร์ ขึ้นไปเล่น U18 ในทันที

วิชเชียร์ เองก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยการ ยิงใส่ แอสตัน วิลล่า ได้ตั้งแต่นัดแรกที่ประเดิมสนาม แถมยังกดแฮตทริกใส่ วัตฟอร์ด ได้อีก ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ อคาเดมี่ กรุป เอ ได้สำเร็จ

นอกจากผลงานทีมจะดีแล้ว ผลงานส่วนตัวเองก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน วิลเชียร์ ยิงไปถึง 13 ประตู จาก 18 นัดที่ลงสนาม ด้วยวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น แบกอายุกว่า 3 ปี 

เท่านั้นยังไม่พอ วิลเชียร์ ยังถูกเสนอชื่อให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม ในรายการฟุตบอลเยาวชน เฟอร์โรลี่ คัพ ด้วยผลงาน 2 ประตู 2 แอสซิสต์ จากการลงสนามเพียง 3 เกม

แถมเจ้าตัวยังมีบทบาทสำคัญในการคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ซึ่งเป็นรายการฟุตบอลเยาวชนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ในปี 2008/2009 

ด้วยการเอาชนะ ลิเวอร์พูล ในนัดชิงชนะเลิศทั้ง 2 แมตซ์ สกอร์รวม 6-2 โดยในแมตซ์แรก วิลเชียร์ ทำได้ 1 ประตู กับอีก 2 แอสซิสต์ คว้ารางวัล แมน ออฟ เดอะ แมตซ์ ไปครองได้อีกด้วย

ส่งผลให้ วิลเชียร์ ได้ขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ในฤดูกาลถัดมา แต่ทว่าเส้นทางลูกหนังของเจ้าตัวดันจบลงแบบไม่สวยหรูเท่าไหร่ เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บ ส่งผลให้ต้องแขวนสต้๊ดด้วยวัยแค่ 30 ปีเท่านั้น

 

2.) ไมเคิล โอเว่น

เจ้าของฉายา เบบี้ โกล ชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ โดย ไมเคิล โอเว่น ฉายแววเด่นตั้งแต่สมัยวัยละอ่อน เมื่ออายุได้ 8 ปี โอเว่น ได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่น U11 ของทีมโรงเรียนประถม ดีไซด์ แอเรีย และได้เป็นกับตันทีมในเวลาต่อมา 

และเมื่อเจ้าตัวอายุ 10 ขวบก็ได้สร้างปรากฏการณ์อันบ้าระห่ำขึ้น ด้วยการยิง 97 ประตูในฤดูกาลเดียว แซงหน้าสถิติของ เอียน รัช ตำนานทีมหงส์แดง แบบไม่เห็นฝุ่น ที่ 25 ประตู 

เท่านั้นยังไม่พอ โอเว่น ยังทำลายสถิติของ แกรี่ สปีด โดยลงสนามรุ่น U11 ทั้ง 3 ฤดูกาล ได้ตั้งแต่อายุ 8 ขวบ อะไรจะขนาดนั้น ! 

หลังจากที่ โอเว่น อายุได้ 10 ขวบ คุณพ่อได้นำตัวลูกชายหัวแก้วหัวแหวนรายนี้ ไปฝากฝังไว้กับทีมระดับเยาวชนอย่าง “โมลด์ อเล็กซานดร้า” 

แม้ว่าจะมีรูปร่างที่เล็กกว่าเด็กในรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ด้วยพรสวรรค์ที่มันมีมากเหลือเกิน ทำให้ โอเว่น กลายเป็นดาวเด่นของทีม โดยในฤดูกาลแรก เจ้าหนูเบบี้ โกล รายนี้ ตะบันตาข่ายไปถึง 34 ดอก จากการลงสนาม 24 นัด 

ด้วยฟอร์มการเล่นที่มันดูโดดเด่นเสียเหลือ ทำให้ทีมดังใน พรีเมียร์ลีก หลายต่อหลายทีมเข้ามาติดต่อ และหวังจะเซ็นสัญญากับเจ้าหนูรายนี้ให้จงได้ 

แต่ในท้ายที่สุดแล้ว โอเว่น ก็ได้ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมเยาวชนของ ลิเวอร์พูล โดยได้รับคำชักชวนจาก สตีฟ ไฮเวย์ หัวหน้าพัฒนาเยาวชนของทีม หงส์แดง ณ เวลานั้น 

และทัวร์นาเมนต์ ที่แจ้งเกิด ไมเคิล โอเว่น อย่างเต็มตัวเลยก็คือ เอฟเอ ยูธ คัพ ในปี 1995/96 

ด้วยการยิงแฮตทริกใส่ แมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบก่อนรองชนะเลิศ และ ยิงแฮตทริกอีกครั้งกับ คริสตัล พาเลซ ในเกมรอบรอง แมตซ์แรก แถมยังยิงอีก 2 ประตูในแมตซ์ที่สอง 

รอบชิงชนะเลิศที่พบกับ เวสต์แฮม ที่เป็นตัวเต็งของรายการ โอเว่น ก็จัดไปอีก 1 ประตู ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์รายการนี้ได้เป็นสมัยแรกของสโมสร

หลังจากนั้นไม่นาน ไมเคิล โอเว่น ก็ได้ก้าวขึ้นมาคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ในมี 2000/2001 ด้วยวัยเพียง 22 ปีเท่านั้น และยังเป็นนักเตะอังกฤษคนสุดท้ายที่ได้รับรางวัลดังกล่าวอีกด้วย

 

3.) ไรอัน กิ๊กซ์

ไรอัน กิ๊กซ์ เกิดในเวลส์ และได้ย้ายมาอยู่ที่อังกฤษตั้งแต่ 7 ขวบ ในตอนนั้นเขาได้เล่นให้กับทีมเยาวชนของสโมสร ดีนส์ เอฟซี ซึ่งเป็นที่แรกที่เขาได้เรียนรู้วิชาลูกหนัง โดยกุนซือคนของแรกของเจ้าตัว ก็คือ เดนิส สโคฟิลด์ แมวมองของ แมนฯ ซิตี้ ในขณะนั้น 

ในวัย 14 ปี ไรอัน กิ๊กซ์ เกือบที่จะได้เซ็นสัญญากับ แมนฯ ซิตี้ อยู่แล้ว แต่ด้วยโชคชะตาของเขาได้ลิขิตมาให้เป็นซุปเปอร์สตาร์ใน โรงละครแห่งความฝัน 

ด้วยพรสวรรค์ของเจ้าตัวได้เปร่งประกายเกินหน้าเกินตาในเตะในรุ่นเดียวกันเป็นอย่างมาก อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ถึงกับเดินทางไปเคาะประตูหน้าบ้านเพื่อเกลี้ยกล่อมให้เลือกมาเซ็นสัญญาเป็นนักเตะเยาวชนกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดแทน

และการตัดสินใจในครั้งนี้ของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นับได้ว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดในชีวิตของเจ้าตัวเลยก็ว่าได้ 

กิ๊กซ์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นเป็นอย่างมากในทีมชุดเยาวชน และยังได้รับปลอกแขนกัปตันทีม ในนัดที่ แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถคว้าชัยเหนือ คริสตัล พาเลซ ในนัดชิงชนะเลิศ ในศึก เอฟเอ ยูธ คัพ ในปี 1991/92 อีกด้วย

และทีมชุดนั้นก็ก้าวขึ้นมาเป็นขุมกำลังในทีมชุดใหญ่ในเวลาต่อมา หรือที่มีชื่อเรียกอันโด่งดังว่า “คลาส ออฟ 92” นั่นเอง

คงไม่มีใครปฏิเสธหรอกนะครับว่า ไรอัน กิ๊กซ์ คือหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดของสโมสร โดยเจ้าตัว คว้าแชมป์ลีกไปถึง 13 สมัย และแชมป์อีกมากมายตลอดอาชีพการค้าแข้ง

 

4.) เมสัน กรีนวู้ด

เมสัน กรีนวู้ด เป็นเด็กชาวอังกฤษที่มีเชื้อสายแอฟริกัน ในช่วงอายุ 5 ขวบ เจ้าตัวได้เริ่มเล่นฟุตบอลในระดับท้องถิ่นที่มีชื่อว่า เวสต์วู้ด จูเนียร์ และได้สร้างความประทับใจให้ทีมงานแมวมองขแง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเป็นอย่างมาก

ก่อนที่ กรีนวู้ด ในวัย 6 ขวบ จะได้ย้ายไปเข้าร่วมฝึกซ้อมในอะคาเดมี่ของปีศาจแดง และได้ลงเล่นที่โรงเรียน แฮลิแฟกซ์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่พัฒนานักเตะระดับเยาวชนของสโมสร

หลังจากผ่านระดับอะคาเดมี่ของสโมสรมาได้แล้ว กรีนวู๊ดในวัย 16 ปี ก็ได้ขึ้นมาเล่นในชุด U18 ของทีม พร้อมทั้งยังเป็นดาวซัลโวของ พรีเมียร์ลีก ชุด U18 ด้วยผลงานยิงไป 17 ประตู จากการลงสนาม 21 เกม

นอกจากนี้ในปี 2018 กรีนวู้ด ยังได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม ในฟุตบอลรายการเยาวชน ไอซีจีที โทรฟี่ ที่จัดขึ้นที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยการเอาชนะ เรอัล มาดริด ไป 1-0 ในรอบชิงชนะเลิศ

นั่นจึงทำให้ในฤดูกาล 2018/19 กรีนวู้ด ได้ถูกเรียกขึ้นมาใช้งานอยู่บนทีมชุดใหญ่อย่างบ่อยครั้งมากขึ้น โดยเขาได้ลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ไปทั้งสิ้น 4 นัด 

แต่ก็ยังไม่สามารถที่จะก้าวขึ้นมายึดพื้นที่ในทีมชุดใหญ่ได้ แต่ทว่าในซีซั่นดังกล่าวเขากลับทำผลงานในนามของทีมชุดเยาวชนออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม จากการทำไปทั้งหมด 26 ประตู กับอีก 8 แอสซิสต์ จาก
การลงสนามไปทั้งสิ้น 26 นัด จนทำให้ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือของทีมไม่รอช้ารีบดึงเขาขึ้นมาอยู่ในทีมชุดใหญ่ในทันที

จนกระทั่งฤดูกาล 2021/22 กรีนวู้ด ได้มีคดีทำร้ายร่างกายแฟนสาว ส่งผลให้เจ้าตัว ไม่ได้สนามนานกว่า 1 ปีเต็ม 

และฤดูกาลล่าสุดทาง แมนฯ ยูไนเต็ด ได้ตัดสินใจส่ง เมสัน กรีนวู้ด ไปให้ เคตาเฟ่ ยืมตัวในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา นับว่าเป็นอะไรที่น่าเสียดายกับพรสวรรค์อันเปี่ยมล้นของพี่แกจริงๆ

 

5.) ลิโอเนล เมสซี่

ชื่อนี้ไม่ต้องสาธยายถึงความเก่งกาจของพี่แกอีกแล้ว แต่ทว่าการเดินทางของ เมสซี่ ในสมัยยังเป็นแข้งเยาวชน ต้องบอกได้เลยว่าไม่ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิด

ลิโอเนล เมสซี่ ตอนอายุ 10 ขวบ เขามีอาการขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโต จำเป็นที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน และต่อเนื่อง ไม่อย่างงั้น เขาจะมีความสูง 139 เซนติเมตรไปตลอด 

แต่ การ์เลส ราซัก ผู้บริหารด้านกีฬาของ บาร์เซโลน่า ในขณะนั้น ได้เห็นความสามารถ และพรสวรรค์ของเจ้าหนูรายนี้ ก็ได้ตัดสินใจเซ็นสัญญากับเขาในทันที 

โดยสัญญาฉบับแรกได้เขียนขึ้นในกระดาษเช็ดปากของร้านอาหารที่ ราซัก นัดพูดคุยกับพ่อของ เมสซี่ นั่นเอง กลายเป็นตำนานสัญญาผ้าเช็ดปากมาจนถึงปัจจุบัน

บาร์เซโลน่า ได้เสนอจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ทั้งหมด และยังยินยอมให้ครอบครัวของ เมสซี่ มาตั้งถิ่นฐาน ในสเปนอีกด้วย

แต่ในช่วงขวบปีแรกที่บาร์เซโลนาของเขาก็ไม่ง่ายนัก เขายังไม่สามารถลงเล่นในเกมเป็นทางการได้ เนื่องจากเป็นนักเตะเยาวชนต่างชาติ ยังไม่ได้รับสัญชาติยุโรป เขาจึงได้ลงสนามแค่ในเกมกระชับมิตร

พอ เมสซี่ อายุได้ 14 ปี การรักษาภาวะการเจริญเติบโตของเขาก็สำเร็จเสร็จสิ้น เมสซี่ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของ เบบี้ ดรีมทีม และถูกยกย่องว่าให้เป็นทีมเยาวชนที่ดีที่สุดที่เคยมีมาในสโมสร

ในฤดูกาล 2002/2003 ได้แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว และยังเป็นครั้งแรกที่ เมสซี่ ได้ลงสนามแบบเต็มฤดูกาล แถมยังทำประตูได้ถึง 36 ประตู จากการลงสนาม 30 เกม ของทีมเยาวชน

มีส่วนช่วยให้ บาร์เซโลน่า คว้าทริปเปิ้ลแชมป์ ประกอบไปด้วยแชมป์ลีก ถ้วยเยาวชนสเปน และถ้วยกาตาลคันคัพ

พอฤดูกาล 2003/2004 เมสซี่ ได้เลื่อนขึ้นมาเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ พร้อมทั้งสถาปนาเป็นผู้เล่นระดับจักรวาล และคว้ารางวัล บัลลงดอร์ ไปถึง 8 สมัยมากที่สุดตลอดกาล ในเวลาต่อมา

-----------------------------

ทีนี้เราก็จะพอที่จะเห็นถึงความสำคัญของรายการฟุตบอลเยาวชนกันไปบ้างแล้วนะครับ ว่านักเตะระดับท็อปเองก็เติบโตมาจากรายการเหล่านี้ทั้งสิ้น 

และเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแข้งตัวจิ๋ว ที่จะมาแข่งขันในศึก YounGไงคัพ! ที่ทางขอบสนามจะจัดในช่วงต้นเดือนหน้านี้ จะมากลายมาเป็นผู้เล่นระดับท็อป ที่มาจะช่วยยกระดับทีมชาติไทย ให้แข็งแกร่งขึ้นในอนาคต

 

- บีเบลล์ กูนเนอร์ -