เป็นที่ดุเดือนจริงๆนะครับ สำหรับเกมในนัดนี้ มีโอกาสทำประตูด้วยกันทั้งสองฝั่ง แลกกันไปแลกกันมา แต่เป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ทำได้ดีกว่าในเกมในวันนี้ คว้า 3 แต้มสำคัญในบ้านได้สำเร็จ ส่วนประเด็นหลังเกมในนัดนี้จะมีอะไรกันบ้างติดตามรับชมกันครับ
[ แมนยู เล่นได้ไฉไลเป็นบ้า ]
เอริค เทน ฮาก ในวันนี้เลือกที่จะดรอป 2 จัตุรเทพ อย่าง อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล และ มาร์คัส แรชฟอร์ด ที่ฟอร์มดิ่งลงเหวอย่างหนักไว้ที่ม้านั่งสำรอง แล้วตัดสินใจเลือก อันโตนี่ เดอะหมุน และ ราสมุส ฮอยลุนด์ ลงสนามเป็นตัวจริงแทน
แมนฯ ยูไนเต็ด เริ่มต้นด้วยความคึกคักสุดๆ วิ่งเป็นม้า ไล่เพรสสูง และรวดเร็วทุกจังหวะ จนทำให้ผู้มาเยือนอย่าง เชลซี จ่ายบอลผิดๆถูกๆ จนเกิดพื้นที่ว่างให้ส่องประตูอยู่หลายต่อหลายครั้ง
นอกจากนี้การจ่ายบอลจากที่สะเปะสะปะมาโดยตลอด นัดนี้กลับมาต่อบอลทำชิ่งอย่างแม่นยำ และรวดเร็วเดินหน้าเข้าใส่แบบไม่ยั้งหยุด การสอดประสานกันระหว่างผู้เล่นเกมรุกก็ทำสุดยอดมากๆ นึกว่า บาร์ซ่ายุคเทพ
นอกจากนั้นหัวจิตหัวใจของนักเตะของ แมนยู ในวันนี้ ก็แสดงถึงความมุ่นมั่นทุ่มเท กระหายในชัยชนะเอามากๆ สยบข่าวลือที่ว่า เอริค เทน ฮาก ได้เสียห้องแต่งตัวไปแล้วครึ่งหนึ่ง
แต่กระนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด วันนี้ก็ใช้โอกาสสิ้นเปลืองเป็นอย่างมาก โดยโอกาสในการทำประตูในวันนี้ มีถึง 28 ครั้ง เข้ากรอบ 9 ครั้ง โดยเฉพาะในครึ่งเวลาแรกก็ล่อไป 18 ครั้งแล้ว
ถ้าเทียบเป็นค่า xG ก็สูงถึง 4.07 ที่เยอะสุดเป็นอันดับสองของลีก เป็นรองเพียงแค่ เชลซี นัดที่บุกถล่ม สเปอร์ส 4-1 เพียงเท่านั้น
ทว่ากลับได้มาเพียงแค่ 2 ประตู แม้กระทั่งลูกจุดโทษยังยิงไม่เข้าก็คิดดูเอาเองละกัน นี่ถ้าคมๆหน่อยอาจมีสกอร์ถึงครึ่งโหลได้เลย
จาก 2 ประตูดังกล่าวทำให้ สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ รั้งดาวซัลโวของทีมที่ 6 ประตูจากการลงสนาม 16 นัดรวมทุกรายการ เป็ความหวังในการทำประตูของทีมไปซะแล้ว
[ เชลซี ฟอร์มการเล่นเหมือนกล่องสุ่ม ]
ฟอร์มการเล่นของ เชลซี ไม่ต่างอะไรจากสุ่มดีๆนี่เอง วันไหนจะเล่นดีก็เล่นดีใจหายสู้ได้ทุกทีม วันไหนจะห่วยก็ห่วยแบบไม่น่าให้อภัย
วันนี้เผอิญดันสุ่มได้ฟอร์มห่วย สภาพก็เป็นแบบที่เห็นหละครับ สปีดบอลช้ามาก ถ้าเทียบจังหวะต่อจังหวะตาม แมนยู แทบไม่ทันเลย คุณภาพการจ่ายบอลก็จัดว่าเลวร้ายสุด จ่ายพลาดง่ายๆเยอะมาก
รวมทั้งเวลาโดดเพรสซิ่งหรือโดนกดดัน ก็แทบเอาตัวไม่รอด จ่ายผิดจ่ายถูกจนฝั่ง แมนยู ได้ล่อเป้าอยู่หลายครั้งหลายหน
การบิ้วอัพเกมที่เป็นจุดเด่นของสองกองกลางอย่าง เอ็นโซ่ เฟร์นันเดส และ มอยเซส ไกเซโด่ ก็ทำได้ไม่ดีเลย โดนผู้เล่นของ แมนยู เข้ามาตัด เข้ามาแซะตลอด
แต่บอลสวนกลับของ เชลซี วันนี้ก็ได้เสียวอยู่หลายครั้งแต่ก็ไปตายจังหวะสุดท้ายเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจังหวะยิงโล่งๆของ นิโคลัส แจ็คสัน ที่ดันยิงไปติดตัวของ อังเดร โอนาน่า ซึ่งจังหวะดังกล่าวควรที่จะทำได้ดีกว่านี้
แต่นักเตะของ เชลซี ที่ต้องชมเลยก็คือ โรเบิร์ต ซานเชส ที่วันนี้โชว์เซฟแบบอุดตะหลุด แต่ก็ส่งพลาดให้เห็นอยู่หลายครั้งเหมือนกัน โดยวันนี้เจ้าตัวเซฟไปถึง 7 ครั้ง ช่วยให้ทีมไม่เสียประตูไปมากกว่า 2 ปะตู
[ สถานการณ์การลุ้นท็อปโฟร์ ]
จากชัยชนะดังกล่างทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ทยานขึ้นไปอยู่อันดับ 6 ตามหลังทีมอันดับ 4 อย่าง แมนฯ ซิตี้ ที่บุกไปพ่ายให้กับ แอสตัน วิลล่า เพียง 3 คะแนนเท่านั้น
ไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองเหมือนกันนะครับว่า ฟอร์มการเล่นเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายเช่นนี้ของ ทีมปีศาจแดง จะตามหลังทีมแชมป์เก่าอย่าง เรือใบสีฟ้า แค่ 3 แต้มเพียงเท่านั้น
แต่เหนือสิ่งอื่นใดชัยชนะในเกมใหญ่แบบนี้ น่าจะช่วยเรียกสติ และขวัญกำลังใจของทีมให้กลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกครั้งหลังจากที่ฟอร์มออกทะเลไปซักพักใหญ่ๆ
ทางฝั่ง เชลซี เองก็ยังอยู่อันดับ 10 ของตารางเช่นเดิมตามหลังทีมอันดับ 9 อย่าง เวสต์แฮม 2 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด สถานการณ์ของทีมไม่สู้ดีเอาเสียเลย ถ้าดูจากฟอร์มการเล่น และความสม่ำเสมอของทีม ถ้าอยากลุ้นไปเล่นในฟุตบอลรายการยุโรปในปีหน้า
ส่วนสถานการณ์การลุ้นท็อปโฟร์จัดได้ว่าดุเด็ดเผ็ดมันจริงๆในปีนี้ ลุ้นกันนัดต่อนัด ใครพลาดขึ้นมากอันดับก็อาจจะล่วงได้เลยเหมือนกัน
- บีเบลล์ กูนเนอร์ -
