logo-heading

แน่นอนกับวลีที่ว่า เป็นแชมป์ว่ายากแล้ว ป้องกันแชมป์ยากกว่า มันเริ่มจะส่งผลกับทัพ “เรือใบสีฟ้า” ในซีซั่นนี้แล้ว เพราะที่ผ่านมาพวกเขามีความแข็งแกร่งมากเหลือเกิน ซึ่งแตกต่างจากฤดูกาลนี้ที่ผลงานดร็อปลงแบบชัดเจน

ซึ่งจากสิ่งที่เกิดขึ้นมีปัจจัยอะไรบ้างที่พา แมนฯ ซิตี้ ของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผลงานไม่แข็งแกร่งเหมือนที่ผ่านมา วันนี้ ขอบสนาม จะพาไปวิเคราะห์พร้อมๆ กัน

เกมรับไม่แกร่งดังเก่า

เปิดหัวข้อแรกมาด้วยเรื่องของเกมรับกันก่อน เพราะถ้าย้อนกลับไปเมื่อซีซั่นที่แล้วสิ่งที่ต้องยอมรับเลยว่าแนวรับของ แมนฯ ซิตี้ จัดได้ว่าแข็งแกร่งกว่าใครพวก เสียประตูยากเย็น เปรียบไปคล้ายกำแพงหิน จนเป็นที่มาของการสอยทริปเปิ้ลแชมป์มาครอบครอง

แต่ทว่ากับฤดูกาลนี้ภาพเหล่านั้นเหมือนแตกต่างออกไป พวกเขาเสียประตูกันจนเหมือนเป็นเรื่องคุ้นชิน ก่อนหน้านี้ยากมากที่จะเห็นทีมของ เป๊ป เสียเกมนึง 3 ลูก 4 ลูก แต่กับปัจจุบันก็โดนคู่แข่งถลุงมาแล้ว

หรือถ้าโฟกัสไปที่ 5 เกมหลังสุดในลีก พวกเขาเสียประตูทุกเกม แถมโดนคู่แข่งเจาะไปถึง 8 ประตู ส่วนหนึ่งคือคุณภาพที่ลดลงจากเดิม อีกส่วนใหญ่คืออย่างปีก่อนพวกเขามี จอห์น สโตนส์ ที่คอยปัดกวาดเกมรุกคู่แข่ง เล่นร่วมกับ โรดรี้

ทว่ากับปัจจุบันเกมใดที่ขาด โรดรี้ แมนฯ ซิตี้ แทบขาดใจทันที รวมไปถึง สโตนส์ ที่มีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดเวลา ไหนจะความแน่นอนของ นาธาน อาเก้ หรือ ยอสโก้ กวาร์ดิโอ ที่มีข้อผิดพลาดให้ได้เห็นอยู่เสมอ

แน่นอนว่าเมื่อเกมรับไม่แกร่งดังเก่ามันก็เลยสามารถเห็นภาพที่พวกเขาเสียแต้มบ่อยๆ ในช่วงหลัง บวกกับความไม่ละเอียดประปรายอย่างในเกมล่าสุดมันย่อมส่งผลเสีย คะแนนที่ควรได้ก็หายวับไปกับตา

เกิดอะไรขึ้นกับ \"แมนฯ ซิตี้\" กับภารกิจป้องกันแชมป์ \"พรีเมียร์ลีก\"

ขาด เดอ บรอยน์ เริ่มส่งผล

จากประเด็นคำถามตั้งแต่ต้นซีซั่นว่าการขาด เดอ บรอยน์ จะส่งผลต่อ แมนฯ ซิตี้ มากขนาดไหน ? ณ วันนี้คำตอบเริ่มที่จะเฉลยออกมาให้เห็นเรื่อยๆ มากยิ่งขึ้น

แน่นอนว่า เดอ บรอยน์ คือหนึ่งในคนที่สามารถดลบันดาลอะไรบางอย่างในสนามได้อยู่เสมอ โดยเฉพาะการจ่ายบอล วางบอล ที่สามารถเลือกเล่นในช็อตที่คู่แข่งคิดไม่ถึงอยู่บ่อยครั้ง และเมื่อมาเข้าคู่กับ ฮาแลนด์ มันเลยกลายเป็นความกลมกล่อมที่ยอดเยี่ยม

โอเคแหละครับว่าตอนนี้ ฮาแลนด์ นำเป็นดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกอยู่ แต่กระนั้นบางทีการมีคู่หูอย่าง เดอ บรอยน์ ก็เหมือนเป็นการช่วยรีดศักยภาพของเขาให้มีโอกาสผลิตประตูมากขึ้นกว่าเดิม

อย่างในบางเกมแนวรุกของ แมนฯ ซิตี้ ออกอากาศตื้อๆ ตันๆ รังสรรค์เกมรุกไม่ออก ไม่แปลกที่แฟนๆ จะนึกถึง เดอ บรอยน์ ขึ้นมาทันที เพราะเกมแบบนี้ถ้ามีคนที่คอยครีเอตช็อตต่างๆ ในการช่วยตัดสินเกมได้มันก็คงจะดี

คราวนี้แฟนบอลทัพเรือใบคงต้องร้องเพลงรอขอให้ เดอ บรอยน์ กลับมาลงสนามให้ไวไว เพราะจะเหมือนได้อาวุธหนักในแผงเกมรุกคอยบัญชาอีกครั้ง

ขุมกำลังเชิงลึก

หนึ่งในจุดที่น่าสนใจของ แมนฯ ซิตี้ ในตอนนี้คือขุมกำลังเชิงลึก ที่ในตอนนี้ดูเหมือนว่าคุณภาพ และความต้องการใช้งานมันไม่ตอบโจทย์ต่อแผนงานของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เท่าไหร่นัก

ถ้าลองมองไปที่ตัวหลักๆ ของ ซิตี้ ในตอนนี้ 11 ตัวจริงแทบจะการันตีได้แล้วมากกว่า 7-8 ราย อาจมีการสลับหมุนเวียนกันบ้าง โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในแผงกองกลาง หรือแนวรับ

ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้นในแต่ละเกมเราจะเห็นว่าเหล่าตัวสำรองที่ข้างสนามส่วนใหญ่จะเป็นชื่อในแผนกเกมรับซะเยอะ ยกตัวอย่างในเกมใหญ่ที่พบกับ ลิเวอร์พูล ทีมที่เป็นคู่แข่งในการลุ้นแชมป์ ในวันนั้น เป๊ป ไม่เลือกที่จะเปลี่ยนตัวสำรองลงสนามเลยสักคนเดียว

เพราะต้องยอมรับว่านักเตะที่นั่งอยู่ข้างสนามจะหาใครสักคนที่ลงไปสามารถพลิกโฉมเกมมันค่อนข้างยาก เพราะส่วนใหญ่บทบาทไม่ใช่ตัวรุกตามสถานการณ์ที่ต้องการ

หรืออย่างเกมกับ แอสตัน วิลล่า เมื่อ เฌเรมี่ โดกู เจ็บ, แจ็ค กรีลิช โดนแบน ทำให้ตัวเลือกจะลงมาพอกู้สถานการณ์กลายเป็นแดนกลางอย่าง โควาซิช, นูเนส หรือดาวรุ่งอย่าง ออสการ์ บ๊อบบ์

ไม่เว้นแม้กระทั่งในเกมล่าสุดที่เปิดบ้านเสมอ คริสตัล พาเลซ เมื่อส่องไปที่ขุมกำลังสำรอง ก็อดห่วงแทน เป๊ป ไม่ได้จริงๆ เพราะตัวเลือกให้ใช้มันมีจริง แต่มีเพียงจำนวน ส่วนคุณภาพเหมือนต้องเสี่ยงดวงเอา เพราะเป็นดาวรุ่งประสบการณ์น้อย หรือนักเตะเกมรับเสียส่วนใหญ่

แน่นอนเมื่อตัวเลือกในมือของ เป๊ป มันมีข้อจำกัด มันเลยกลายเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถพลิกแพลง หรือเปลี่ยนโฉมหน้าของเกมในแต่ล่ะนัดได้มากพอ

เกิดอะไรขึ้นกับ \"แมนฯ ซิตี้\" กับภารกิจป้องกันแชมป์ \"พรีเมียร์ลีก\"

นักเตะวนกันเจ็บ

ปิดท้ายประเด็นนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับหัวข้อต่างๆ ที่กล่าวมาคือเรื่องของอาการบาดเจ็บของนักเตะ ซึ่งกลายเป็นเคสที่กุนซือส่วนใหญ่ต่างปวดหัวที่นักเตะในฤดูกาลนี้หมุนเวียนเปลี่ยนเข้าโรงหมอกันเป็นว่ากัน

อย่างกับ แมนฯ ซิตี้ ก็ต้องเสีย เดอ บรอยน์ ไปตั้งแต่ช่วงต้นซีซั่น นอกจากนั้นคนอื่นๆ ก็มีแตะมือสลับกันเจ็บอยู่เรื่อยๆ ทั้ง จอห์น สโตนส์, มานูเอล อคานยี่, แบร์นาร์โด้ ซิลวา, เฌเรมี่ โดกู หรือล่าสุดก็เป็น เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

ซึ่งเมื่อนักเตะเจ็บมันก็กระทบชิ่งกันไปเป็นทอดๆ อย่างประเด็นก่อนหน้าขุมกำลังของทีมก็ลดน้อยถอยลงไป ต้องหันมาใช้บริการเหล่านักเตะดาวรุ่งบางรายในการลงสนาม หรือแก้เกมในนัดนั้นๆ

แน่นอนว่าทุกทีมต้องเผชิญกับเหล่านักเตะบาดเจ็บ และตอนนี้ เป๊ป และ แมนฯ ซิตี้ กำลังอยู่ในช่วงพิสูจน์ตัวเอง ท่ามกลางผลการแข่งขันที่มันไม่น่าพอใจจนเป็น เรือใบ ในภาพที่แฟนบอลไม่ค่อยจะคุ้นชินมากนัก

- Paolinho -

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline