logo-heading

ทีมจะไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จากการไปรับใช้ชาติ ซึ่งฟอร์มของเขาไม่ใช่แค่เบอร์ 1 ลิเวอร์พูล แต่เป็นเบอร์ 1 พรีเมียร์ลีกด้วย เป็นดาวซัลโวของลีกที่ 14 ประตูเท่าฮาลันด์ และยังเป็นดาวแอสซิสต์ 8 ครั้งเท่าวัตกิ้นส์

ซาลาห์ปีนี้เปลี่ยนสไตล์มาทำเกมมากขึ้น แต่จำนวนประตูไม่หาย ยอดรวมประตูบวกแอสซิสต์คือ 22 ลูก ยืน 1 แบบไม่มีใครเทียบ

จากประวัติที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล มักเอาตัวรอดยามไร้ซาลาห์ได้ แต่หนนี้ไม่ง่ายอย่างที่่คิด เพราะหนล่าสุดที่เสียซาลาห์เมื่อปี 2022 เขาก็เป็นตัวแบก แต่ไม่ได้แบกหนักเท่าปัจจุบัน

ตอนนั้นยิงประตูคิดเป็นสัดส่วน 24% ของทั้งหมดที่ทีมยิงได้ แต่ปัจจุบันซาลาห์ยิงประตูเป็นสัดส่วน 33% ของทั้งหมดที่ทีมยิงได้ นี่ยังไม่รวมแอสซิสต์เพิ่ม ไม่งั้นสัดส่วนจะกระโดดมาเป็น 51%

ในรายของ วาตารุ เอ็นโด ก็สำคัญเช่นกัน แต่ผมมองว่ายังมี อเล็กซิส แม็คอัลลิสเตอร์ ที่พอทดแทนได้ นี่คือบทพิสูจน์สำคัญว่า ลิเวอร์พูล จะผ่านไปได้ไหม? ในช่วงไร้ซาลาห์ 5-7 นัด ถ้ายังเอาตัวรอดต่อไปได้ โอกาสลุ้นแชมป์ลีกจะสูงขึ้นแน่

สิ่งที่ลิเวอร์พูลต้องระวังคือการกลับมาของตัวหลักซิตี้ คาดว่าฮาลันด์, เดอ บรอยน์ และ โดกู จะพร้อมลงเล่นทั้งหมดในเกมลีกนัดต่อไป

สำคัญสุดคือ KDB ฤดูกาลก่อนเขาแบกการปั้นเกมของซิตี้ สร้างโอกาสให้เพื่อนยิงประตูเฉลี่ยนัดละ 3.1 ครั้ง แต่ปีนี้พอไม่มี KDB ไม่มีใครในทีมสร้างโอกาสเกิน 2.3 ครั้งต่อเกมเลย

หนนี้เมื่อ KDB หายเจ็บกลับมา ตัวจ่ายมี ตัวยิงแฮปปี้แน่ เพราะถ้าเทียบช่วงเวลาเดียวกันจนถึงมกราคมปีก่อน ฮาลันด์ยิงไปแล้ว 21 ประตู ส่วนปีนี้พอไม่มี KDB จำนวนประตูมันก็ดร็อปลงมาเหลือ 14 ลูก

โดกูเองก็สำคัญไม่แพ้กัน นี่คือนักเตะที่ครองสถิติเลี้ยงหลบคู่ต่อสู้ต่อเกมเบอร์ 1 พรีเมียร์ลีก เฉลี่ยนัดละ 4.0 ครั้ง กราบซ้ายของซิตี้จะมีทางเลือกมากขึ้น คราวนี้ฟูลแบ็กคู่ต่อสู้ต้องระวังมากกว่าเดิม

อาร์เซน่อลเองก็ห้ามตัดออกจากการลุ้นแชมป์ จริงอยู่ว่าแพ้มา 2 นัดติดและเสียจ่าฝูงให้ ลิเวอร์พูล แต่ปัญหาของพวกเขามองเห็นชัด พอมีวิธีแก้ไข คือขาดกองหน้าที่ผลิตสกอร์ได้มหาศาล

หากอาร์เตต้าได้กองหน้ามาเสริมคม มันจะไม่ใช่แค่การจบสกอร์ที่พึ่งพาได้มากขึ้น แต่จะทำให้ภาระริมเส้นของซาก้าและมาร์ติเนลลี่เบาขึ้นด้วย

ที่ผ่านมางานของปีก 2 ข้างไม่ใช่แค่จ่ายบอล แต่ต้องพยายามยิงตลอด เพราะทีมเล่นกองหน้าแบบฟอลส์ 9 (เชซุส) ตัวยิงหลักคือปีก แต่พอปีกฟอร์มตกพร้อมกัน แล้วเชซุสก็ไม่ใช่สายจบสกอร์ มันเลยทำให้เกมรุกพังตอนนี้

หากอาร์เซน่อลได้กองหน้าเบอร์ 9 ตัวจบมาเสริม อาจทำให้สัดส่วนภาระของซาก้าและ มาร์ติเนลลี่ ไม่โอเวอร์โหลด แบ่งสัดส่วนไปเลย ยิงเองก็ได้ แต่หน้าที่หลักคือเปิดป้อนให้เพื่อนก่อน

ผมมองว่า 2 คนนี้พัฒนาฝีเท้าไปสู่ระดับท็อปได้แน่ แต่ด้วยประสบการณ์ที่ยังไม่เยอะ ถ้าไม่รีบให้รับภาระหนักเกินไป คงเป็นเรื่องดี

ส่วนวิลล่าก็ถือว่าแรงเกินคาด คุณไม่สามารถประมาทเขา เหมือนที่ตอนนี้บาเยิร์นก็ไม่ประมาทเลเวอร์คูเซ่น และมาดริดก็ไม่ประมาทจิโรน่าเช่นกัน แต่ผมเชื่อว่าท้ายที่สุดเมื่อสู้กันระยะยาว ลิเวอร์พูล, แมนฯ ซิตี้ และ อาร์เซน่อล อาจมีภาษีที่ดีกว่าตรงขุมกำลังเชิงลึก

ตอนนี้ลิเวอร์พูลดูเป็นต่อมากสุด แต่ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าใครคือแชมป์

ในยามที่ซิตี้กับอาร์เซน่อลฟอร์มหลุด ลิเวอร์พูล ฉวยโอกาสได้โคตรดี

คราวนี้ต้องมารอดูกันว่า เมื่อลิเวอร์พูลไร้สตาร์เบอร์ 1 ให้กับทีมชาติ อาร์เซน่อล กับ ซิตี้ จะฉวยโอกาสคืนได้หรือเปล่า?

- Petr Boat -

#ขอบสนามเกาตรงจุด

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline