ประเด็นหลังเกม ปีศาจแดง เปิดรังเจ๊า ไก่เดือยทอง 2-2

จบกันไปเป็นที่เรียบร้อยสำหรับเกมบิ๊กแมตซ์ประจำสัปดาห์นี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มีโอกาสขึ้นนำก่อนถึง 2 ครั้ง แต่ก็ถูกทีมเยือนอย่าง สเปอร์ส ตีเสมอถึง 2 รอบ สุดท้ายก็ จบเจ๊ากันไป แบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น 2-2 เกมนี้จะมีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปติดตามรับฟังกันครับ

[ ฮอยลุนด์ 1 ประตู 1 แอสซิสต์ ]

หลังจากที่ทำประตูแรกใน พรีเมียร์ลีก ในเกมที่พบกับ แอสตัล วิลล่า ได้แล้ว ดูเหมือน ฮอยลุนด์ ได้ยกภูเขาออกจากอก กลับลงเล่นแบบมีความมั่นใจเต็มเปี่ยมอีกครั้ง

สังเกตุได้จากการง้างประตูเป็นครั้งแรก และทำได้แบบเฉียบคมสุดๆ ยิงเต็มข้อล่อเต็มแข้ง บอลเสียบสามเหลี่ยมไปอย่างสวยงาม ตั้งแต่นาทีที่ 3 ของเกม กลายเป็นประตูที่สอง ในพรีเมียร์ลีก ในฤดูกาลนี้ของ ฮอยลุนด์

นอกจากจะยิงประตูได้แล้ว ยังสามารถทำแอสซิสต์ให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด ยิงประตูได้อีก เรียกได้ว่าความมั่นใจมาทำอะไรก็ดีไปหมดจริงๆ

เท่านั้นไม่พอจังหวะในการกระชากบอล หรือแม้กระทั่งการหาพื้นที่ในการเล่นก็ดีทำได้เช่นเดียวกัน แต่น่าเสียที่ครึ่งหลังแอบเงียบๆไปซะหน่อย

[ แรสฟอร์ด ห่วยเหมือนเดิม ]

มาว่ากันถึง ดร.แรชฟอร์ด กันบ้าง แม้ว่าจะทำ 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ อีกทั้งยังเป็นประตูแรกในบ้านของ แรชฟอร์ด ในรอบ 14 เกม 

แต่ทว่าผลงานการเล่นโดยรวมถือว่ายังคงน่าห่วยแตกเหมือนเดิม ทั้งจังหวะไปกับบอลที่ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงแบบไม่ลืมหูลืมตา และมักจะทำเสียในจังหวะสุดท้ายเสมอ

แถมยังเล่นมากจังหวะเกินไปในหลายๆครั้ง ทำให้โอกาสที่ควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ ก็กลับปล่อยหลุดมือไปแบบน่าเสียดาย 

แม้ว่าผลงานในระยะหลังในเรื่องของการทำประตู หรือการทำแอสซิสต์ จะดูกระเตื้องขึ้นมาบ้าง โดย 4 นัดหลังสุด ทำไป 2 ประตู 2 แอสซิสต์ แต่ แรชฟอร์ด ยังต้องพัฒนาวิธีการเล่น รวมถึงยังต้องจูนจังหวะของตัวเองอีกพอสมควรเลยทีเดียว

[ แวร์เนอร์ เกมแรกผ่านไหม ? ]

ถ้าถามว่าเกมแรกของ ติโม แวร์เนอร์ กับ สเปอร์ส ถือว่าสอบผ่านไหม ? ถ้ามองรวมๆแล้วถือว่ายังทำผลงานไม่ค่อยเข้าตาเท่าไหร่ โดยเฉพาะในครึ่งแรก ที่ดูจะรู้เล่นแบบเพลย์เซฟมากเกินไป รู้ได้เลยว่ายังขาดในเรื่องของความมั่นใจอย่างชัดเจน

แต่ก็ยังพอที่จะมีอะไรดีๆให้เห็นอยู่บ้างเหมือนกัน ก็คือในช่วงนาทีแรกของครึ่งหลัง แวร์เนอร์ มาทำแอสซิสต์ให้กับ โรดริโก้ เบนตานกูร์ ยิงตีเสมอให้กับทีมได้

อีกทั้งในครึ่งหลังเหมือน บอสอังเก้ จะพยายามกระตุ้นความมั่นใจของ แวร์เนอร์ ให้กล้าเล่นกับบอลหรือพยายามไปกับบอลให้มากว่านี้ สังเกตุได้เลยว่าในครึ่งหลังดูจะทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้มากขึ้นกว่าเดิม

แต่ก็อย่างว่าแหละครับนี่เป็นเพียงเกมแรกเท่านั้น ยังต้องให้เวลาปรับตัวกันซะหน่อย ทั้งระบบของของ อังเก้ หรือแม้กระทั่งความเข้าขารู้ใจกับเพื่อนร่วมทีม เพราะอย่าลืมว่า แวร์เนอร์ เพิ่งย้ายเข้ามา และได้ลงซ้อมกับทีมเพียงไม่กี่เซสชั่น จะให้มาแล้วเปรี้ยงปร้างเลยก็คงเป็นไปได้ยาก

[ ไร้ทีเด็ดทั้งคู่ ]

แม้ว่าจะมีสกอร์เกิดขึ้นถึง 4 ประตู แต่ถ้าดูวิธีการเล่น หรือสภาพทีมโดยรวมของทั้งสองทีม ดูจะป้อแป้อยู่พอสมควร ทางฝั่งเจ้าบ้านอย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด ก็มีรูปแบบการเล่นอยู่แบบเดียว นั่นก็คือการวางบอลยาวให้ปีกทั้งสองข้างให้ไปหาวิธีเข้าทำเองกันเอง นี่แหละครับ วิธีการเล่นของ เอริค เทน ฮาก มีแค่นี้จริงๆ 

ส่วนทางฝั่ง สเปอร์ส เองก็ขาดผู้เล่นตัวหลักไปพอสมควร ทั้งมิดฟิลด์คู่กลางอย่าง ป๊าป ซาร์ และ อีฟส์ บิสซูม่า ที่เล่นกันได้อย่างเข้าขาลงตัว อีกทั้งยังขาด มิดฟิลด์ตัวรุกของทีมไปถึงสองคน อย่าง เจมส์ แมดดิสัน และ โรเซลโซ่ ทำให้มิติในการรุกของ สเปอร์ส ในวันนี้ดูไม่หลากหลายเท่าที่ควร

รวมไปถึงการขาดหายไปของ กัปตันทีมอย่าง ซน ฮึง-มิน ซึ่งมันส่งผลกระทบอย่างชัดเจนมากๆ ในแผงแนวรุกของ สเปอร์ส ในวันนี้

[ ผลเสมอไม่ดีต่อทั้งสองฝ่าย ]

ผลเสมอในเกมนี้เรียกได้ว่าไม่เป็นผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ทางฝั่ง แมนฯ ยูไนเต็ด ถือว่าเสียหายมากกว่าเพราะเล่นในบ้าน ควรที่จะต้องเล่นหวังสามแต้มอยู่แล้ว ถ้ายังคิดที่จะลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป แถมมีโอกาสที่ ไบรท์ตัน ที่แข่งน้อยกว่าแซงหน้าไปอีก

ส่วน สเปอร์ ผลเสมอในนัดถือว่าเสียหายไม่น้อยในเรื่องของตารางคะแนน เพราะอดที่จะแซงคู่ปรับร่วมลอนดอนเหนืออย่าง อาร์เซน่อล ขึ้นไปอยู่ที่ 4 แต่ถ้ามาดูตามหลักความเป็นจริง การมาเล่นนอกบ้านเจอกับ แมนฯ ยูไนเต็ด แล้วมีสภาพทีมเป็นรอง การมี 1 แต้มกลับออกไปถือว่าน่าพอใจในระดับนึง แม้ว่ารูปเกมจะทำได้ดีกว่าก็ตาม

- บีเบลล์ กูนเนอร์ -