ทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากจริงๆครับ สำหรับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากที่นำ 2 ประตู อยู่ดีๆ และมีโอกาสที่จะทิ้งห่างออกไปเป็น 3 ประตู อยู่หลายครั้งหลายหน แต่ด้วยความเฉียดขาด และความประมาทเลินเล่อ เป็นเหตุให้ถูกไล่ตามตีเสมอในช่วงต้นครึ่งหลัง
แต่ก็ยังดีที่ยังมีลูกฮึดยิงเพิ่ม 2 ประตูรวด เอาชนะทีมจาก ลีก ทู ไปได้แบบกระเสือกกระสนนิดหน่อย 2-4 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ วันนี้จะมีประเด็นอะไรน่าสนใจบ้างเชิญรับชมได้เลยครับ
[ จัดตัวชุดใหญ่ไฟกระพิบ ]
แม้จะพบกับทีมจาก ลีก ทู อย่าง นิวพอร์ต เคาน์ตี้ แต่ไม่แครวที่ เอริค เทน ฮาก จะจัดเต็มชุดใหญ่ไฟกระพริบอีกครั้ง อย่างกับเล่นใน พรีเมียร์ลีก ไม่มีการโรเตชั่นแม้แต่ตำแหน่งเดียว
จะมีก็เพียงแค่ผู้รักษาประตูมือสองอย่าง อัลตาย บายินดีร์ เท่านั้น ที่ได้รับโอกาสลงเป็นตัวจริงเสียที แทนที่ของ อังเดร โอนาน่า ที่ไปรับใช้ชาติแคเมอรูนในศึก แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์
โดยที่ก่อนหน้านี้ นายทวารชายตุรกี ไม่ได้รับโอกาสในการลงสนามเลยแม้แต่นาทีเดียวนับตั้งแต่ย้ายมายังถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา
แม้ว่าเกมนี้จะเสียไปถึง 2 ประตู แต่ถ้าดูโดยรวมแล้ว ก็ไม่ได้มีลูกผิดพลาดอะไร แถมลูกที่เสียมันก็จนปัญญาที่จะเซฟได้จริงๆ
ส่วนแนวรับในวันนี้ถือว่าทำได้ต่ำกว่ามาตรฐาน โดยเฉพาะ ราฟาเอล วาราน ที่ทำผิดพลาดง่ายๆอยู่หลายครั้ง แถมประตูที่สองที่ทีมเสียประตู วาราน เองก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเหมือนกัน สถิติหลังเกมระบุว่า เขาเคลียร์บอล 0, บล็อคลูกยิง 0, ดักตัดบอล 0 และแท็คเกิ้ล 0 ครั้ง
อีกทั้งการป้องกันฟุตบอล direct ของทางฝั่งเจ้าบ้าน ก็ทำได้ไม่ดี มีจังหวะที่ทำเอาแฟนบอล ปีศาจแดง เสียวไส้อยู่บ้างเหมือนกัน แต่ยังดีที่คุณภาพการจบสกอร์ของ นิวพอร์ต นั้นไม่คมเท่าไหร่
ส่วนแนวรุกในวันนี้ก็ควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ ถ้าเทียบมาตรฐานกับทีมที่เจอ ยิ่งในครึ่งแรกมีโอกาสจบสกอร์อยู่หลายครั้งหลายคราแต่ก็ยิงทิ้งยิงขว้างไปเอง
[ ไมนู เปิดซิงประตูแรก ]
เรียกได้ว่าเป็นฤดูกาลที่แจ้งเกิดสำหรับ ค็อบบี้ ไมนู จริงๆ และเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ เอริค เทนฮาก คิดถูกเหลือเกินที่ไว้เนื้อเชื่อใจให้เจ้าหนูรายนี้ได้ขึ้นมาเล่นชุดใหญ่ตั้งแต่ปรีซีซั่น
แต่ก็ดันมาโชคร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้หมดสิทธ์ลงสนามในช่วงต้นฤดูกาล แต่พอหายเจ็บกลับมา และได้รับโอกาสในการลงสนามเจ้าตัวก็ไม่ทำให้ปิดหวัง โชว์ฟอร์มดีวันดีคืน ก็คงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรที่จะบอกว่า ไมนู แบกแผงมิดฟิลด์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด อยู่ ณ ตอนนี้
ส่วนวันนี้ พี่แกก็เปิดซิงประตูแรกของตัวเองในสีเสื้อของ ปีศาจแดง ได้สำเร็จ จากการลงสนามทั้งหมด 14 เกมรวมทุกรายการ ด้วยวัยเพียง 18 ปี เท่านั้น และนี่จะเป็นอีกหนึ่งนัดที่เขาจะไม่มีวันลืมอย่างแน่นอน
เหนือสิ่งอื่นใด ถ้า ไมนู ไม่ได้มีอาการบาดเจ็บรบกวน หรือโดนแสงสีเสียงเข้าเล่นงาน บอกได้เลยว่าอนาคตของเจ้าหนูรายนี้ไปได้ไกลแน่ๆ
[ อันโตนี่ คืนฟอร์ม ]
มาว่ากันต่อที่ ปีกบราซิลเลี่ยน ฉายาเดอะหมุน อย่าง อันโตนี่ กันบ้างดีกว่าครับ วันนี้พี่แกก็หยุดสถิติปืนฝืดไว้ที่ 31 นัด ด้วยการยิง 1 ประตู พ่วงด้วย 1 แอสซิสต์ หลังจากทำประตูไม่ได้ นับตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว
แน่นอนว่าการทำประตูได้ จะช่วยให้เขามีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าเราเจาะลึกลงไปในรายละเอียดเกมแล้ว วันนี้ถือว่ายังทำผลงานไม่ดีเท่าไหร่
ยิ่งถ้าเจอกับทีมอันดับ 16 ของ ลีก ทู แล้ว ผมคิดว่า อันโตนี่ ควรที่จะทำได้ดีกว่านี้ หลายจังหวะเขายังดูมีปัญหาในการตัดสินใจ จังหวะไหนควรจ่าย จังหวะไหนควรยิง มันยังดูมีข้อผิดพลาด และยังไม่ละเอียดพอในหลายๆจังหวะ
[ รอบหน้าไม่หนัก แต่ก็ประมาทไม่ได้ ]
ผลชนะในเกมนี้ ทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบต่อไป และต้องรอผลคู่ระหว่าง บริสตอล ซิตี้ หรือ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์
เรียกได้ว่าไม่ใช่งานง่ายเลยยิ่งถ้าต้องไปเจอกับ ฟอเรสต์ ที่ในเกม พรีเมียร์ลีก ทัพปีศาจแดง เพิ่งจะบุกไปแพ้เมื่อปลายปีที่ผ่านมาด้วยสกอร์ 2-1 แน่นอนว่าไม่ใช่คู่แข่งที่ประมาทได้เลย ยิ่งมาดูฟอร์มการเล่นของทีมในตอนนี้
แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในเส้นทางการลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ สมัยที่ 13 ของสโมสร หลังไม่ได้สัมผัสมาตั้งแต่ ฤดูกาล 2015/16 หรือเมื่อ 8 ปีมาแล้ว คงต้องรอติดตามกันต่อว่าปีนี้จะลงเอยที่ถ้วยแชมป์หรือไม่
