ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างแข้งซีเนียร์อย่าง ซน ฮึง-มิน ที่ปะทะกับดาวรุ่งพุ่งแรง อี คัง-อิน จนเรื่องราวเริ่มบานปลายมากยิ่งขึ้น แถมแข้งจาก เปแอสเช กำลังตกเป็นผู้ร้ายของกลุ่มแฟนบอลที่มีการเรียกร้องให้แบนจากการเล่นทีมชาคิไปเลย
โดยเรื่องราวที่กำลังเกิดขึ้นกับ อี คัง-อิน มีอะไรบ้าง และจากประเด็นดังกล่าวเขากำลังเผชิญกับอะไรบ้าง ขอบสนาม ได้รวบรวมมาให้ทุกท่านกันแล้ว
แรกเริ่มของความดราม่า
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเหตุการณ์ปะทะกันของ ซน ฮึง-มิน กับ อี คัง-อิน เกิดขึ้นขณะร่วมแคมป์ทีมชาติช่วงลุยศึกเอเชียน คัพ ประเด็นมันอยู่ที่ช่วงรับประทานอาหารเย็นก่อนเกมพบกับ จอร์แดน ที่วัยรุ่นจาก เปแอสเช กับพวกพยายามกินข้าวด้วยความเร็ว เพื่อจุดประสงค์ในการไปตีปิงปอง
แต่กระนั้น ซน ฮึง-มิน บอกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควร เวลารวมตัวกินข้าวควรจะใช้เวลาร่วมกันเพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในทีม แต่เรื่องราวมันกลับบานปลาย เพราะความดื้อรั้นของ อี คัง-อิน และเพื่อนๆ
จากรายงานของ koreaboo ระบุว่าเสียงขณะตีปิงปองของวัยรุ่น “โสมขาว” ดังเอามากๆ จนทำให้ ซน ฮึง-มิน ต้องเดินเข้าไปหา พร้อมตั้งคำถามถึงรุ่นน้องในทีมว่า “นี่พวกนายมาฝึกซ้อม หรือเปล่า ? ควรโฟกัสไปที่เกมการแข่งขันมากกว่านะ”
ซึ่งคำตอบจาก อี คัง-อิน จากการระบุว่าของสื่อเกาหลีใต้ระบุว่า “การเล่นปิงปองในตอนกลางคืนไม่ได้ผิดกฎนะ” จากนั้นก็มีการปะทะคารม หรืออาจมากกว่านั้นเกิดขึ้น จนเป็นที่มาของอาการบาดเจ็บบริเวณนิ้วมือข้างขวาของ ซน ฮึง-มิน ที่พันผ้าลงสนามเกมดวล จอร์แดน
กระแสแฟนบอลโจมตี อี คัง-อิน
หลังข่าวนี้ถูกเผยแพร่ออกมาไม่นาน อี คัง-อิน ก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวผ่านอินสตราแกรมของตัวเอง พร้อมยอมรับผิดต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมบอกว่าตนไม่ควรกระทำ และควรเชื่อฟังคำพูดของรุ่นพี่ให้มากกว่านี้
ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแฟนบอลส่วนใหญ่ต่างพาทัวร์ไปลงที่ดาวเตะรายนี้ มีการวิจารณ์โจมตีอย่างมากมาย และถ้าไปดูในอินสตราแกรมโพสต์ล่าสุดของเจ้าตัวมีคอมเมนต์มากถึง 50,000 ความคิดเห็นไปแล้ว ถึงการขาดความเคารพ การไม่เชื่อฟังรุ่นพี่ หรือประพฤติตัวไม่เหมาะสม
โดยสิ่งที่แฟนบอลเรียกร้องคือต้องการให้สมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้สั่งแบน อี คัง-อิน ตลอดชีพ ไม่ให้เรียกมารับใช้แผ่นดินเกิดอีก ซึ่งเรื่องนี้ KFA ได้ออกมาระบุว่ามีหนังสือเรียกร้องมาจากแฟนบอลมากมาย ว่าไม่อยากเห็นเจ้าหมอนี้มาสวมเสื้อทีมชาติอีก
นอกจากนั้น KT หนึ่งในบริษัทโทรคมนาคมชั้นนำของเกาหลีใต้ ได้ตัดสินใจยุติการโปรโมตทุกอย่างที่มีภาพของ อี คัง-อิน ภายหลังเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้น จากเดิมที่จะมีการโปรโมทโทรศัพท์ดังยี่ห้อหนึ่งในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ ทว่าโปรเจ็คนี้ถูกผับเก็บเป็นที่เรียบร้อย
ที่ผ่านมา KT จ้าง อี คัง-อิน เป็นพรีเซ็นเตอร์มาตั้งแต่ช่วงปี 2019 ทว่ากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ต้องหยุดทุกกิจกรรมที่มีดาวเตะรายนี้ก่อนออกมาอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเพราะว่ากระแสสังคมในตอนนี้มอง อี คัง-อิน ในด้านลบ ซึ่งอาจส่งผลต่อตัวแบรนด์ที่จะมีการโปรโมทด้วย
ส่วนเรื่องของการยกเลิกสัญญาเป็นพรีเซ็นเตอร์ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงพิจารณาถึงปัจจัยต่างๆ และยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน
อนาคตกับทีมชาติ ?
จากกระแสเรียกร้องของแฟนบอลที่อยากให้ สมาคมฯ สั่งแบน อี คัง-อิน กับทีมชาตลอดอาชีพ ทว่าในความเป็นจริงคงเป็นเรื่องยาก เพราะเขาถือว่าเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่พุ่งแรง และอนาคตของ เกาหลีใต้อย่างแท้จริง
ซึ่งล่าสุด ชุง มอง-กิว ประธานสมาคมฟุตบอลเกาหลีใต้ ได้ออกมาเคลื่อนไหวต่อประเด็นดังกล่าว พร้อมบอกว่าการลงโทษทางวินัยอาจเกิดขึ้นด้วยการไม่เรียกนักเตะที่มีปัญหามาติดทีมชาติในชุดถัดไป
“ในส่วนที่เกี่ยวกับการลงโทษทางวินัย ผมได้ตรวจสอบแล้ว แต่เพราะพวกเขาไม่ใช่ผู้เล่นที่ค้าแข้งอยู่ในประเทศ มาตรการทางวินัยเดียวที่เราสามารถทำได้คือการไม่เรียกพวกเขาติดทีมชาติชุดต่อไป มันเป็นสิ่งที่เราจะต้องหารือกับโค้ชคนใหม่”
แน่นอนว่าประเด็นนี้ย่อมต้องเป็นที่ถกเถียงกับกุนซือคนใหม่ที่เข้ามารับงานแบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะดาวเตะทั้ง 2 ต่างเป็นขุมกำลังสำคัญในเกมรุก และยิ่งสถานการณ์ของทีมในช่วงที่ผ่านมาไม่ดีนัก การดร็อปคนสำคัญออกจากทีมคงเป็นเรื่องพิจารณาครั้งใหญ่
ส่วนโปรแกรมนัดต่อไปของทัพ “โสมขาว” จะลงสนามในศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก เปิดบ้านพบกับทีมชาติไทย ในวันที่ 21 มีนาคมนี้ ก่อนจะเป็นฝ่ายออกมาเยือนบ้างในอีก 5 วันถัดมา
ต่อจากนี้น่าสนใจว่า อี คัง-อิน กับทีมชาติจะเป็นอย่างไร และกระแสจากแฟนบอลจะมีการต่อต้าน หรือแอนตี้นักเตะรายนี้มากขนาดไหน
แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าถ้าทุกอย่างเคลียร์กันได้อย่างลงตัว และ อี คัง-อิน คงได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากพอสมควร และถ้าเกิดกลับมาโชว์ผลงานกับทีมชาติได้ยอดเยี่ยมอีกครั้ง บางทีอาจชนะใจแฟนบอล กลับมาเป็นที่รักอีกครั้งก็เป็นได้
ที่มาข้อมูล :
