ซีดาน ลาออก คือข่าวช็อกสุดๆ ของวงการลูกหนัง ไม่ใช่แค่แฟนบอล เรอัล มาดริด แต่รวมถึงแฟนบอลทั่วโลกด้วย
ไม่มีใครคิดว่า 26 พฤษภาคม เพิ่งพาทัพ “ราชันชุดขาว” สร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์ยุโรป 3 สมัยซ้อน แล้วต่อจากนั้นแค่ 4 วันจะประกาศซะงั้น
มันเหมือนเป็นอาถรรพ์นะสำหรับกุนซือ เรอัล มาดริด ที่ไม่มีใครคุมทีมได้เกิน 3 ปีเลยในระยะหลัง เราในฐานะแฟนบอลอาจไม่เคยสังเกต แต่เป็นเช่นนั้นจริงๆ หลังหมดยุค บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ที่คุมตั้งแต่ 1999-2003 จากนั้นก็ไม่มีใครอีกเลยที่เกิน 3 ฤดูกาล ไม่เชื่อไปลองไล่ดู
คาร์รอส เคยรอซ
ระยะเวลา : 25 มิถุนายน 2003 - 24 พฤษภาคม 2004
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 59 นัด ชนะ 34 เสมอ 11 แพ้ 14
ความสำเร็จ : ซูเปอร์ โกปา เดอ เอสปัลญ่า
ตอนได้รับแต่งตั้งขึ้นมา ทุกคนก็งงกันหมดว่ามาได้ไงเพราะจากเป็นผู้ช่วย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ๆ มารับงานใหญ่คุม มาดริด ซะงั้น ซึ่งผลงานแบบนี้ แพ้ถึง 14 จาก 59 นัด ก็ไม่แปลกที่จะโดนเด้งภายในเวลาไม่ถึงปี
โฆเซ่ อันโตนิโอ คามาโช่
ระยะเวลา : 25 มิถุนายน 2004 - 20 กันยายน 2004
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 6 นัด ชนะ 4 เสมอ 0 แพ้ 2
ความสำเร็จ : ไม่มี
มารับไม้ต่อ รักษาการช่วงสั้นๆ ไม่มีอะไรให้น่าจดจำ
มาเรียโน่ การ์เซีย เรม่อน
ระยะเวลา : 20 กันยายน 2004 - 4 ธันวาคม 2004
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 20 นัด ชนะ 12 เสมอ 4 แพ้ 4
ความสำเร็จ : ไม่มี
ถูกตั้งขึ้นมาคุมทีม ในฐานะที่เป็นอดีตนักเตะของทัพ "ราชันชุดขาว" ยาวนานถึง 16 ปี แต่ดีกรีในการคุมทีมก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีดีอะไร สุดท้ายแล้วก็อยู่ได้ไม่นาน
วันเดอร์เลย์ ลูเซมเบอร์โก้
ระยะเวลา : 30 ธันวาคม 2004 - 4 ธันวาคม 2005
สถิติ : : คุมทีมลงเล่น 45 นัด ชนะ 28 เสมอ 7 แพ้ 10
ความสำเร็จ : ไม่มี
กุนซือสัญชาติบราซิล คนแรกและคนเดียวจนถึงทุกวันนี้ ในประวัติศาสตร์สโมสร เรอัล มาดริด แต่การจับงานคุมทีมในยุโรปครั้งแรกของเจ้าตัวก็ไม่ประสบความสำเร็จอยู่ได้ปีเดียวก็โดนไล่ออก
ฆวน ราม่อน โลเปซ การ์โร
ระยะเวลา : 4 ธันวาคม 2005 - 1 มิถุนายน 2006
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 24 นัด ชนะ 12 เสมอ 9 แพ้ 3
ความสำเร็จ : ไม่มี
หลังจากคุม เรอัล มาดริด กาสตีย่า ได้ 4 ปี ก็ถูกดันขึ้นมาคุมทีมชุดใหญ่ แต่ก็เป็นอีกคนที่มือไม่ถึง 24 นัด ชนะแค่ 12 น้อยไปมากสำหรับทีมใหญ่อย่าง มาดริด
ฟาบิโอ คาเปลโล่
ระยะเวลา : 5 กรกฎาคม 2006 - 28 มิถุนายน 2007
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 50 นัด ชนะ 28 เสมอ 12 แพ้ 10
ความสำเร็จ : ลา ลีกา 1 สมัย
นับตั้งแต่หมดยุค บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ก็มี คาเปลโล่ นี่แหละที่ชื่อชั้นศักดิ์ศรีพอจะเทียบเคียงได้ แต่ก็ไม่รู้อาถรรพ์อะไรพอเอาเข้าจริง กลับผลงานไม่ดีอย่างที่คิด แม้จะคว้าแชมป์ ลา ลีกา มาได้ แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะได้กุมบังเหียนต่อ
แบรนด์ ชูสเตอร์
ระยะเวลา : 9 กรกฎาคม 2007 - 9 ธันวาคม 2008
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 75 นัด ชนะ 44 เสมอ 9 แพ้ 22
ความสำเร็จ : ลา ลีกา และ ซูเปอร์ โกปา เดอ เอสปัลญ่า อย่างละ 1 สมัย
เจ้าของฉายา "ขบถลูกหนัง" อยู่คุม เรอัล มาดริด ได้ ฤดูกาลครึ่ง ปีแรกสวยหรูพาทีมคว้าแชมป์ลีกมาครองได้ แต่ฤดูกาลที่ 2 ไม่สวยงาม จนเจ้าตัวตัดสินใจขอลาออกเอง พร้อมทิ้งบอมม์ว่า มาดริด ชุดนี้ดีไม่พอที่จะต่อกรกับ บาร์เซโลน่า
ฆวนเต้ รามอส
ระยะเวลา : 9 ธันวาคม 2008 - 1 มิถุนายน 2009
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 27 นัด ชนะ 18 เสมอ 1 แพ้ 8
ความสำเร็จ : ไม่มี
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งผู้จัดการทีมที่ไม่ได้โด่งดังอะไรมากมาย แม้จะเคยพา เซบีย่า คว้าแชมป์ ซูเปอร์ คัพ ถึง 2 สมัยก็ตามที แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะดีพอคุม มาดริด ผลงานไม่น่าจดจำ ทำ "ราชันชุดขาว" พ่าย บาร์เซโลน่า ไปถึง 6-2 ประตูอีกด้วย
มานูเอล เปเยกรินี่
ระยะเวลา : 2 มิถุนายน 2009 - 26 พฤษภาคม 2010
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 48 นัด ชนะ 36 เสมอ 5 แพ้ 7
ความสำเร็จ : ไม่มี
เป็นโค้ชที่เคยพา บียาร์เรอัล เป็นถึงรองแชมป์ ลา ลีกา เมื่อฤดูกาล 2007/08 พอได้มาคุม มาดริด ก็ผลงานดี ชนะถึง 36 นัด จาก 48 เกม แต่สุดท้ายก็มีปัญหากับ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร จนต้องยกเลิกสัญญากันไป ก่อนจะออกมาแฉว่า โดนแทรกแซงการทำทีม รวมถึงเรื่องซื้อนักเตะด้วย
โชเซ่ มูรินโญ่
ระยะเวลา : 31 พฤษภาคม 2010 - 1 มิถุนายน 2013
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 178 นัด ชนะ 128 เสมอ 28 แพ้ 22
ความสำเร็จ : ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์, ซูเปอร์ โกปา เดอ เอสปัลญ่า อย่างละ 1 สมัย
กุนซือระดับท้อปคนที่ 2 ต่อจาก คาเปลโล่ นับตั้งแต่หมดยุคของ เดล บอสเก้ แต่อยู่กับทีมได้ 3 ปีเป๊ะๆ ก็มีอันต้องแยกย้ายส่ายสะโพก ทำดีมาตลอด 2 ฤดูกาล แต่ ซีซั่น 2012-2013 เป็นรองแชมป์โดยโดน บาร์เซโลน่า ทิ้งไม่เห็นฝุ่นถึง 15 แต้ม จนเจ้าตัวรับไม่ได้ บอกว่านี่คือซีซั่นที่ย่ที่สุดในชีวิตกุนซือ พร้อมยกเลิกสัญญาแยกจากกัน
คาร์โล อันเชล็อตติ
ระยะเวลา : 25 มิถุนายน 2013 - 25 พฤษภาคม 2015
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 119 นัด ชนะ 89 เสมอ 14 แพ้ 16
ความสำเร็จ : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก, โกปา เดล เรย์, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ สโมสร โลก อย่างละ 1 สมัย
"อันเช่" ถือเป็นกุนซือที่มีเปอร์เซ็นต์คุมทีมเอาชนะได้สูงมากถึง 74.79% ความสำเร็จก็เยอะ ได้ทั้งแชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก และ โกปา เดล เรย์ แต่สุดท้ายก็โดนยกเลิกสัญญาเพราะซิวแชมป์ลีกมาครองไม่ได้
ราฟาเอล เบนิเตซ
ระยะเวลา : 3 มิถุนายน 2015 - 4 มกราคม 2016
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 25 นัด ชนะ 17 เสมอ 5 แพ้ 3
ความสำเร็จ : ไม่มี
โดนแฟนๆ ร้องยี้หนักมากที่ปลด "อันเช่" แต่ดันตั้ง ราฟาเอล เบนิเตซ เข้ามาแทน ด้วยความกดดันต่างๆ นาๆ บวกกับผลงานที่ก็ไม่ได้ดีอะไรมากนัก โดยเฉพาะช่วงกลางฤดูกาล 2015/16 ก็เลยทำให้เจ้าตัวโดนเด้งกลางอากาศ ก่อนที่อำนาจจะถูกเปลี่ยนถ่ายมาที่ ซีดาน ผู้สร้างประวัติศาสตร์นี่เอง
ซีเนอดีน ซีดาน
ระยะเวลา : 4 มกราคม 2016 - 31 พฤษภาคม 2018
สถิติ : คุมทีมลงเล่น 149 นัด ชนะ 104 เสมอ 29 แพ้ 16
ความสำเร็จ : ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 สมัย (ซ้อน), ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ กับ สโมสรโลก 2 สมัย, ลา ลีกา กับ ซูเปอร์ โกปา เดอ เอสปัลญ่า อย่างละ 1 สมัย
คงไม่ต้องอธิบายอะไร รู้กันอยู่แล้วถึงฝีเท้าและฝีมือ สำหรับสุดยอดนักเตะและสุดยอดกุนซือผู้นี้ เลือกเวลาลงหลังเสือได้ถูกจริงๆ
ก็ไม่รู้เหมือนกันนะคนใหม่ที่จะเข้ามากุมบังเหียนทัพ “ราชันชุดขาว” จะเป็น อาร์แซน เวนเกอร์ หรือ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ ตามข่าวรึป่าว แต่ที่รู้ๆ อาถรรพ์นี้น่ากลัวมาก ไม่เกิน 3 ปี! เรามารอดูกัน
ชิน ชินพัฒน์
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม