ในยุคสมัยนี้ ค่าตัวนักเตะถูกโก่งราคากันยับเยิน บางคนฝีเท้ายังไม่ได้แสดงอะไรให้แฟนบอลเห็นมากนัก แต่เม็ดเงินบันว่าแพงระยับหูฉี่ ชนิดที่หลายสโมสรต้องยอมทุบคลัง เพื่อให้ได้นักเตะตามที่พวกเขาต้องการมาเสริมทัพให้ได้
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ค่าตัวมันจะมากมายมหาศาล แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าคุณภาพฝีเท้ามันจะสูงส่งไปด้วย เพราะอย่างลืมว่ามันมาพร้อมกับ "ความกดดัน" ที่แบกอยู่เต็มบ่า รวมถึงอาการบาดเจ็บก็เป็นตัวสอดแทรก เอาเป็นว่าไปดูเหล่านักเตะที่ค่าตัวแพง แต่ฟอร์มพัง ประจำซีซั่น 2017-18
1. อัลบาโร่ โมราต้า
ย้ายจาก เรอัล มาดริด ไปอยู่ เชลซี 65 ล้านยูโร
นับเป็นการเดินหมากผิดพลาดสำหรับ เชลซี และ อันโตนิโอ คอนเต้ ในการเลือกขาย ดีเอโก้ คอสต้า ดาวยิงตัวความหวัง ด้วยการส่ง sms ไปตัดเยื่อใย ก่อนจะมีข่าวว่าไปสนใจดึงตัว โรเมลู ลูกากู กลับถิ่น หรือไม่ก็ไปตามจีบ อัลบาโร่ โมราต้า ดาวยิงหน้าหล่อจาก เรอัล มาดริด
สุดท้าย เชลซี ได้ตัว โมราต้า มาล่าตาข่าย เพราะ ลูกากู เสร็จโรงเรียน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปก่อนหน้านั้นแล้ว โดยเริ่มแรกเดิมที "สิงห์บลูส์" มีใจเสียนิดหน่อย เพราะปรีซีซั่นพี่แกเล่นยิงประตูแทบไม่ได้ แต่พอเริ่มฤดูกาลก็ใจชื้น เมื่อ โมราต้า เหมือนจะโชว์ฟอร์มคุ้มค่าตัว แต่ผิดมหันต์ เพราะเมื่อเข้าสู่ธันวาคม ผลงาน โมราต้า ดิ่งลงเหวสุดๆ ความมั่นใจหาย กลายเป็นสำรอง โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์ หัวหอกตัวใหม่ ด้วยซ้ำ โดยนับตั้งแต่เข้าปี 2018 ในศึก พรีเมียร์ลีก โมราต้า กดได้เพียงแค่ 1 ตุง เท่านั้น
2. วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ
ย้ายจาก เบนฟิก้า ไปอยู่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 35 ล้านยูโร (บวกโบนัส 10 ล้านยูโร)
นี่คือตัวความหวังของเหล่าสาวก "เร้ด เดวิลส์" ที่ต้องการได้เข้ามาแก้ไขปัญหาแนวรับอันหละหลวม ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถึงแม้จะเป็นนักเตะที่ไม่ค่อยผ่านตาแฟนบอลมากนัก แต่ด้วยค่าตัวที่ติดท็อปไฟฟ์ของสโมสร ทำให้ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ ต้องแบกรับภาระอันหนักอึ้งไว้บนบ่า
อย่างไรก็ตาม ค่าตัวอันสูงส่ง ไม่ได้การันตีเสมอไปว่าคุณภาพจะสูงตามราคา เพราะ ลินเดอเลิฟ เล่นออกอาการ "บ่อน้ำมัน" ตั้งแต่ช่วงปรีซีซั่น และเมื่อฤดูกาลเริ่มขึ้น ปราการหลังทีมชาติสวีเดน ก็สร้างความเฟอะฟะ ทำผิดพลาดหลายจังหวะ, บางเกมทำให้ทีมแพ้เลยก็มี ส่งผลให้ ลินเดอเลิฟ กลายสถานะเป็นตัวสำรอง ได้ลงเป็นตัวจริงเพียงแค่ 13 นัด ในศึก พรีเมียร์ลีก
3. ติมูเอ้ บากาโยโก้
ย้ายจาก โมนาโก ไปอยู่ เชลซี 45 ล้านยูโร
เชื่อว่าแฟนบอล เชลซี แทบจะส่ายหัว ยามต้องเห็น ติมูเอ้ บากาโยโก้ มิดฟิลด์ตัวตัดเกม ลงสนาม นักเตะรายนี้ได้สร้างความผิดพลาดหลายต่อหลายครั้ง และ ส่วนใหญ่มักจะทำให้ทีมต้องเสียประตูอยู่บ่อยๆ ใช่ว่าฟอร์มดีๆมันจะไม่มี แต่ก็นับครั้งได้
ถ้าย้อนกลับไปสมัย บากาโยโก้ อยู่กับ โมนาโก เจ้าตัวเป็นนักเตะที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ช่วยทั้งเกมรุก และ ก็รับ ทำให้ เชลซี ยอมจ่าย 45 ล้านยูโร เพื่อหวังมาเป็นตัวแทน มาติช แต่กลับกลายเป็นห่างไกลเหลือเกิน เมื่อยิงได้แค่ 2 ประตู กับแอสซิสต์อีกเพียงแค่ 2 ครั้ง ส่วนการสร้างสรรค์เกมรุก หาชมได้น้อยมาก
4. กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน
ย้ายจาก สวอนซี ซิตี้ ไปอยู่ เอฟเวอร์ตัน 49 ล้านยูโร
กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน ห้องเครื่องทีมชาติไอซ์แลนด์ ได้กลับมาอยู่กับสโมสรชั้นนำอีกครั้ง โดยคราวนี้เป็น เอฟเวอร์ตัน ที่จัดการเซ็นสัญญามาจาก สวอนซี ด้วยค่าตัว 49 ล้านยูโร ภายหลังจากทำผลงานเป็นแม่ทัพสร้างผลงานอันยอดเยี่ยมไว้ให้กับทัพ "หงส์ขาว"
แต่เมื่อค่าตัวแพง ความคาดหวังก็ย่อมสูงตามไปด้วย แถม เอฟเวอร์ตัน ซื้อผู้เล่นมาใหม่หลายคน ทำให้ต้องปรับจูนเข้าหากัน และก็กลายเป็น ซิกูร์ดสัน ที่ไม่สามารถเรียกฟอร์มออกมาได้ ทีมต้องร่วงไปครึ่งล่างของตาราง ตกรอบ ยูโรปา ลีก ซึ่งฟอร์มโดยรวม เจ้าตัวยิงไปเพียง 4 ประตู น้อยที่สุดนับตั้งแต่ปี 2013 และแอสซิสต์ไปเพียง 3 ครั้ง เท่านั้น แถมปลายซีซั่นก็เจ็บยาว เรียกได้ว่าเป็นการซื้อที่น่าผิดหวังของ เอฟเวอร์ตัน จริงๆ
5. อเล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์
ย้ายจาก โอลิมปิก ลียง ไปอยู่ อาร์เซน่อล 53 ล้านยูโร
จะว่าฟอร์มห่วยก็ไม่เชิง แต่จะให้บอกว่าฟอร์มดีก็ไม่ใช่ เพราะหากวัดบรรดาศูนย์หน้าตัวความหวัง กับสโมสรยักษ์ใหญ่อื่นๆ นับว่า อเล็กซ็องดร์ ลากาแซ็ตต์ ยังไม่ตอบโจทย์ตามที่แฟนบอล อาร์เซน่อล ต้องการ เพราะเม็ดเงินที่ "ไอ้ปืนใหญ่" ทุบคลุงไปซื้อมาจาก โอลิมปิก มาร์กเซย สูงถึง 53 ล้านยูโร
ถึงแม้ว่าสถิติการทำประตูในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ซีซั่นแรกของ ลากาแซ็ตต์ ถือว่าอยู่ในระดับใช้ได้ จากการซัด 14 ประตู แต่กระนั้นในช่วงเวลาที่ อาร์เซน่อล ต้องการคนฝากขีฝากไข้ เจ้าตัวสามารถทำได้เพียง 1 ประตู จาก 12 นัด ช่วงระหว่างต้นเดือนธันวาคม - ปลายเดือนมกราคม นับว่าไม่น่าอภิรมย์เอาซะเลย จนได้ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมยอง เข้ามาช่วยแบ่งเบา และก็ดีขึ้น แต่ก็ไม่ทันเวลา สุดท้ายหลุดทีมชาติฝรั่งเศส ไป ฟุตบอลโลก 2018 ประเทศรัสเซีย
6. อันเดร ซิลวา
ย้ายจาก เอฟซี ปอร์โต้ ไปอยู่ เอซี มิลาน 35 ล้านยูโร
จากการเปลี่ยนเจ้าของสโมสร ทำให้ เอซี มิลาน แสดงความบ้าคลั่ง ใช้เงินกว้านซื้อผู้เล่นแบบชนิดที่สามารถตั้งทีมเตะใหม่ได้ โดยหนึ่งในผู้เล่นที่สร้างความฮือฮาได้เหมือนกัน ก็คือการไปคว้าตัว อันเดร ซิลวา ศูนย์หน้าความหวังใหม่ทีมชาติโปรตุเกส จาก เอฟซี ปอร์โต้ มาร่วมทีม ด้วยเม็ดเงินจำนวนไม่น้อย 35 ล้านยูโร
แต่ด้วยความที่ มิลาน ซื้อนักเตะหน้าใหม่มาเยอะมาก ทำให้ไม่สามารถส่งลงสนามพร้อมกันทีเดียวได้ และ ซิลวา ก็กลายเป็นผู้โชคร้าย ได้ลงเล่นเกม ยูโรปา ลีก เป็นหลัก ส่วนในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มีสถานะแค่ตัวสำรอง ได้ออกสตาร์ทตัวจริงเพียงแค่ 7 นัด ยิงได้เพียงแค่ 2 ประตู น้อยที่สุดในบรรดากองหน้า เรียกได้ว่าเป็นจำนวนเท่ากับ ฟาบิโอ บอรินี่ ที่มักถูกจับไปเล่นวิงแบ็กฝั่งขวา
