เควิน เดอ บรอยน์ เพลย์เมกเกอร์ตัวเก่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ย้อนรำลึกถึงความหลังว่า สาเหตุที่ตัดสินใจย้ายออกจาก เชลซี เป็นเพราะตนเองแทบไม่ได้โอกาสลงสนาม และ ไม่เห็นอนาคตในถิ่นสแตมฟอร์ด บริดจ์ เลยด้วยซ้ำ โดยไม่ได้เกลียดหน้า โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตกุนซือ สิงห์บลูส์ แต่อย่างใด
เดอ บรอยน์ ย้ายออกจาก เชลซี ไปอยู่กับ โวล์ฟสบวร์ก ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์ เมื่อเดือนมกราคม ปี 2014 หลังได้ลงสนามในเกมลีกให้กับ สิงห์บลูส์ ไปแค่ 3 นัด เท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวได้เล่าว่า เกมที่ได้ลงสนามพบกับ สวินดอน ทาวน์ ทีมดิวิชั่น 2 ในศึก ลีก คัพ เมื่อเดือนกันยายน 2013 ซึ่งตนเองโชว์ฟอร์มได้ไม่ดีนัก หลังจากนั้นอนาคตก็จบลง เพราะ มูรินโญ่ แทบไม่ให้โอกาสลงสนาม
เคดีบี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "จริงๆแล้ว เชลซี ต้องการเก็บตัวผมไว้ และ ให้โอกาสผมลงสนาม แต่ตอนนั้นผมต้องการย้ายไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ผมรู้สึกดีกับเรื่องนี้ และ ผมตัดสินใจตามความรู้สึก ผมได้ลงเล่นให้กับ เชลซี แค่เพียงเล็กน้อย แต่หลังจากที่พบกับ สวินดอน ในฟุตบอลถ้วย ทุกอย่างก็กลายเป็นดราม่า ก่อนหน้านี้ผมไม่ได้ลงสนามนานเป็นเดือน จากนั้นผมก็ได้ลงเล่นเจอกับทีมดิวิชั่น 2 ซึ่งหลังเกมนั้นทุกอย่างก็จบ"
"ผมไม่เคยเดินไปหา มูรินโญ่ ผมฝึกซ้อมอย่างหนัก ผมทำให้เห็นว่าผมดีพอ แต่มันเป็นเรื่องที่อุปโหลกขึ้นมาเกี่ยวกับฟุตบอล ว่าถ้าคุณซ้อมได้ดี คุณจะมีโอกาส ซึ่งมันไม่จริงเลย ผมมองไม่เห็นโอกาสที่จะได้ลงสนามอีกต่อไป แต่ผมได้เรียนรู้ที่จะประพฤติตัวไม่ให้เหมือนเดิมในบางครั้ง เพราะมันคือหนทางเอาตัวรอดในสถานการณ์นั้น แต่ผมมองไม่เห็นโอกาสเลย ผมจึงแค่อยากย้ายทีม ผมไม่ได้เกลียด มูรินโญ่ ด้วยซ้ำ ผมไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ผมมองว่ามันไม่เวิร์ค"
