ดาลี่ย์ บลินด์ : แนวรับเลือดนักสู้ ภายใต้หัวใจที่อ่อนแอ

เหตุการณ์ของ คริสเตียน อิริคเซ่น แข้งทีมชาติเดนมาร์กกับการล้มฟุบไปคาสนามขณะกำลังทำการแข่งขัน ยังคงเป็นวินาทีที่สะเทือนใจแฟนบอลไม่ใช่น้อย ในห้วงวินาทีแห่งชีวิต

ภาพในวันนั้นช่างหดหู่หัวใจเสียเหลือเกิน การที่เขานอนแน่นิ่งไปแบบนั้นด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน มันบีบหัวใจแฟนบอลไปทั่วโลก และโดยเฉพะเหล่านักเตะทัพ "โคนม" รวมไปถึงแฟนสาวของ อิริคเซ่น ที่ยืนเป็นห่วงอยู่ห่างๆ พร้อมน้ำตาอาบทั้งสองแก้มมันยิ่งเป็นการบีบหัวใจมากยิ่งนัก แน่นอนว่าเหตุการณ์ในค่ำคืนวันนั้นมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับวงการฟุตบอล เพราะก่อนหน้านั้นก็มีนักเตะหลายคนเคยผ่านช่วงวินาทีแห่งชีวิตมาแล้ว ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ ดาลี่ย์ บลินด์ กองหลังชาวฮอลแลนด์ที่ครั้งนึงเคยตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีมากนัก ย้อนกลับไปชื่อของ ดาลี่ย์ บลินด์ เริ่มเป็นที่รู้จักของแฟนบอลมากขึ้นจากการที่เขาย้ายไปร่วมทัพ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เมื่อช่วงปี 2014 ซึ่งตลอดสีเสื้อของทัพ "ปีศาจแดง" ตัวเขาก็ไม่ได้มีปัญหาเกี่ยวกับสภาพร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจแต่อย่างใด จนกระทั่งการย้ายกลับมายัง อาแจ็กซ์ ในปี 2018 ก็ได้เกิดเหตุการณ์แปลกๆ ขึ้นกับตัวเขา ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อเดือนธันวาคม 2019 เกมที่ อาแจ็กซ์ เปิดบ้านพ่าย บาเลนเซีย 0-1 จู่ๆ ขณะที่เกมกำลังดำเนินไปอย่างปกติ บลินด์ ก็เริ่มมีอาการเวียนศีรษะจนไม่สามารถเล่นต่อไปได้  ก่อนที่จะมีการตรวจร่างกายของแนวรับผู้นี้อย่างละเอียด ซึ่งตอนแรกแพทย์เข้าใจว่าพบปัญหาบริเวณหัวใจ แต่เมื่อมีการตรวจซ้ำแบบละเอียดอีกครั้งมันร้ายแรงกว่านั้น เพราะมันคืออาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ ซึ่งอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบจะทำให้มีอาการหอบ และเหนื่อยได้ง่ายกว่าคนปกติทั่วไป และมันอาจจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตเลยก็เป็นได้ ทำให้ในห้วงเวลาราวๆ 2 เดือนหลังจากตรวจพบ บลินด์ ก็ใช้เวลาในการรักษาตัวเอง เพื่อกลับมาไล่หวดลูกฟุตบอลให้ได้อีกครั้ง เขาฝึกซ้อมพร้อมกับมีมอนิเตอร์คอยวัดอัตราการเต้น และ การทำงานของหัวใจอย่างใกล้ชิด เพื่อดูว่าหัวใจของเขาอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ เพื่ออย่างน้อยมันก็เป็นการตรวจเช็ค และเฝ้าระวังขั้นแรกจากความผิดพลาดของหัวใจ และจากเหตุการณ์ในวันนั้นถึงผลให้ บลินด์ ต้องใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจด้วยไฟฟ้า (Implantable Cardioverter Defibrillator: ICD) เพื่อที่จะไว้ค่อยป้องกันอาการหัวใจเต้นผิดปกติ แต่อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นกับตัวเขาอีกครั้งในเกมอุ่นเครื่องที่ อาแจ็กซ์ พบกับ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ช่วงปี 2019 เกมกำลังต่อสู้กันอย่างสนุก แต่ทว่าเพียงเสี้ยววินาทีกล้องถ่ายทอดสดสามารถจับภาพจังหวะที่ บลินด์ ทิ้งตัวลงไปกับพื้นสนาม ก่อนที่ทีมแพทย์จะรีบลงไปดูอาการอย่างรวดเร็ว ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เขาล้มลงไปนอนกับพื้นเป็นครั้งที่ 2 ก็เนื่องจากโรคหัวใจที่เขากำลังเผชิญ บวกกับเครื่อง ICD ที่คิดอยู่กับตัวเขานั้นก็ได้ส่งสัญญาณดังขึ้น พร้อมกับการหยุดการทำงาน และนั้นกลายเป็นวินาทีของชีวิตที่เขาต้องเผชิญแบบไม่คาดฝันเป็นครั้งที่ 2 ในรอบไม่ถึง 1 ปี แต่อย่างไรก็ตาม บลินด์ ก็ยังคงสวมหัวใจนักสู้ฟิตร่างกายกลับมาลงเล่นฟุตบอลอีกครั้ง และเป็นกำแพงเหล็กคนสำคัญของ อาแจ็กซ์ ในการพาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกฮอลแลนด์ฤดูกาลล่าสุดด้วยการลงสนามไปมากถึง 23 เกม และด้วยผลงานที่สม่ำเสมอทำให้เขาในวัย 31 ปี ถูกเรียกตัวมาติดทัพ "อัศวินสีส้ม" ในการลุยศึกยูโร 2020 คราวนี้ด้วย และเมื่อ 2 เหตุการณ์ระหว่างเพื่อนรักอย่าง บลินด์ กับ อิริคเซ่น ที่เคยร่วมสู้กันในสมัยสวมเครื่องแบบ อาแจ็กซ์ มันคล้ายคลึงกัน ไม่แปลกที่แนวรับผู้นี้จะรู้สึกว่ามันกระทบกระทั่งจิตใจเขาเป็นอย่างมาก เพราะนี่คือคนที่รู้ว่าวินาทีที่ลงไปนอนกับพื้นมันเป็นเช่นไร และวินาทีแห่งชีวิตตรงนั้นมันสำคัญมากขนาดไหน "กับเรื่องที่เกิดขึ้น มันส่งผลกระทบต่อจิตใจของผมเป็นอย่างมาก ไม่เพียงเพราะ คริสเตียน เป็นเพื่อนสนิทของผมเท่านั้น แต่ยังเป็นเพราะสิ่งที่เกิดขึ้น เคยเกิดขึ้นกับผมด้วย มันทำให้ผมนอนไม่หลับ และผมก็คิดว่าจะไม่เล่นเกมในคืนนี้ (พบ ยูเครน) จริงๆ มันเป็นอุปสรรคทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่ที่สามารถเอาชนะได้ และผมก็ภูมิใจที่ได้ทำ" บลินด์ กล่าวถึงเหตุการณ์ของ อิริคเซ่น ที่ทำให้หัวใจเขาสลายไม่ต่างกับคนทั่วไป และยิ่งเป็นเพื่อนสนิทมันยิ่งตแกย้ำความรู้สึกให้จิตใจย่ำแย่ไปมากว่า แน่นอนสิ่งที่เกิดขึ้นไม่มีใครอยากพาตัวเองในอยู่ในจุดนนั้น เช่นเดียวกับ บลินด์ ชายที่รักฟุตบอลแบบสุดขั้วใจ และสิ่งที่เขาแสดงออกมานั้นมันพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าหัวใจที่มีโรคร้ายฝั่งอยู่ มันพ่ายแพ้ให้กับเลือดนักสู้ที่ไหลเวียนอยู่ในตัวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ว่าแล้วก็ขอโค้งหัวคารวะให้กับหัวใจของ บลินด์ ที่ใหญ่กว่าโรคร้ายที่ต้องเผชิญ นี่แหละยอดนักสู้ผู้ไม่แพ้ภัยให้กับหัวใจที่อ่อนแอ

- Paolinho -