logo-heading

โปรแกรมฟีฟ่าเดย์ในช่วงเดือนมีนาคมของทีมชาติไทย จบไปเรียบร้อยสำหรับทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ซึ่งทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการชนะคู่แข่งได้ทั้งสองนัด ทั้งเนปาล และซูรินาม 

ขณะที่ชุดเล็กอย่าง ยู23 ยังมีโปรแกรมลงเตะอีกหนึ่งนัดคืนนี้ เจอกับอิรัก ในศึกดูไบ คัพ ซึ่งต้องมารอผลกันว่าจะจบแบบไหน หลังสองเกมแรกแพ้ต่อ กาตาร์ และ จีน มา

หลังจากนี้ทีมชาติไทย ทั้งสองชุดก็จะต้องเตรียมทีมเข้าสู่ทัวร์นาเม้นท์สำคัญ นั่นคือการลงเตะฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย หรือเอเชี่ยน คัพ โดยชุดใหญ่ จะลงเตะรอบคัดเลือก ส่วนชุดยู23 จะลงเตะรอบสุดท้าย ในเดือยมิถุนายนนี้ ซึ่งทั้งคู่จะเดินทางไปเตะที่อุซเบกิสถานเหมือนกัน

แต่จริงๆ แล้วทีมชุดเล็ก จะมีทัวร์นาเม้นท์ซีเกมส์มาคั่นให้ได้ลองทีมกันอีกหนึ่งรายในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะไปเล่นกันที่เวียดนาม ซึ่ง "โค้ชโย่ง" ก็จะได้ทดลองทีมกันแบบเต็มๆ ก่อนจะไปอุซเบฯ ทั้งนี้ทั้งนั้นผลงานในซีเกมส์ก็สำคัญ อาจจะเป็นตัวชี้วัดว่า "โค้ชโย่ง" จะได้คุมทีมไปอุซเบกิสถานด้วยหรือไม่???

สำหรับการเตรียมทีมชาติไทย ทั้งสองชุด มันก็มีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งที่ว่า มีนักเตะอยู่ 4 รายที่ตอนนี้ขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ โดยที่อายุยังไม่เกิน 23 ปี และสามารถที่จะลงเล่นฟุตบอล ยู23 ชิงแชมปืเอเชีย ก็เลยมีคำถามว่าแล้วทั้ง 4 คนนี้ควรจะเล่นให้ชุดไหนดี

นักเตะทั้ง 4 คนที่ว่า ประกอบไปด้วย กฤษดา กาแมน, ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร, เอกนิษฐ์ ปัญญา และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ซึ่งทั้งสี่คนนี้มีอยู่หนึ่งคนที่เป็นตัวหลักแน่ๆ ให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่ นั่นก็คือ กฤษดา กาแมน ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ ในยุคของ มาโน่ โพลกิ้ง

ขณะที่อีก 3 คน ถือว่าเป็นตัวสำรองในทีมชุดใหญ่ จะมีก็ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มีโอกาสสอดแทรกขึ้นไปชุดใหญ่ด้วยอีกคน กรณีที่ทีมชาติไทยชุดใหญ่ไม่มี ธีรศิลป์ แดงดา

ถ้าถามใจ "โค้ชโย่ง" และทีมสตาฟฟ์ยู23 ว่าอยากได้ใครไปใช้งานบ้าง ก็คงจะเป็นทั้ง 4 คน เพราะเมื่อไปเทียบกับชุดยู23 ที่ไปเตะดูไบ คัพ ตอนนี้ ทั้งสี่คนคือเป็นตัวจริง 11 คนแรกแน่นอน

โดยหลังจากจบดูไบ คัพ ทั้ง "โค้ชโย่ง", มาโน่ โพลกิ้ง และทีมงานมาดามแป้ง ก็จะมีการาประชุมปรึกษาหารือกันว่าจะเอายังไงดีกับนักเตะทั้งสี่คนนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีการพูดคุยไปแล้วรอบนึงก่อนที่จะลงเตะฟีฟ่าเดย์ที่ผ่านมา สุดท้ายแล้วก็เป็นชุดใหญ่ที่ได้ตัวไปยกเว้น ธนวัฒน์ ที่ยังไม่ได้เรียกมา 

เหตุผลก็เพราะว่าทาง มาโน่ เองต้องการจะดูฝีเท้าของ เอกนิษฐ์ กับ ศุภณัฏฐ์ ก่อนว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง ขณะที่ กฤษดา ก็ต้องการจะใช้ทดลองเกมกับ ซูรินาม ด้วยเช่นกัน ทำให้นักเตะพวกนี้เลยไม่ได้ไปกับยู23

แต่ในศึกเอเชี่ยน คัพ ครั้งนี้ ก็คงจะต้องมาคุยกันอีกทีว่าจะเอายังไง ซึ่งตอนนี้ผมคิดว่ามีนักเตะอยู่ 2 คน ที่ มาโน่ โพลกิ้ง ไม่ได้ซีเรียสและพร้อมปล่อยให้ยู23 ใช้งาน ก็คือ เอกนิษฐ์ ปัญญา กับ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร

ในรายของ เอกนิษฐ์ ยังมีนักเตะคนอื่นๆ ในทีมชุดใหญ่ที่ทำผลงานได้ดีกว่าเจ้าบุ๊ค ดังนั้นถ้าเอาเจ้าบุ๊คไปเล่นให้ชุดเล็กน่าจะได้ประโยชน์กว่า เช่นเดียวกับ ธนวัฒน์ ที่ตอนนี้ก็ยังไม่จำเป็นกับทีมชุดใหญ่ เพราะมีตัวเลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น สารัช, พิธิวัฒน์, ฐิติพันธ์, ธนบูรณ์, เชาว์วัฒน์, วรชิต, วีระเทพ, วิศรุต แค่นี้ก็ไม่รู้จะเลือกใครลงสนามแล้ว ดังนั้นถ้าให้กองกลางจากเลสเตอร์ไปยืนคุมเกมให้ยู23 น่าจะเหมาะสมกว่า

ขยับมากันที่ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ซึ่งในทีมชุดใหญ่ล่าสุดเราไม่มีทั้ง ธีรศิลป์ และ ศุภชัย เห็นได้ชัดว่า ศุภณัฏฐ์ เองคือตัวความหวังในแดนหน้า ซึ่งถ้าถึงทัวร์นาเม้นท์จริงๆ แล้วกองหน้าเรามีปัญหายังไงก็ต้องเอา ศุภณัฏฐ์ ไปเล่นทีมชุดใหญ่ก่อน และแม้ถึงว่าจะมี ธีรศิลป์ และ ใจเด็ด เองผมก็คิดว่า ศุภณัฏฐ์ ก็ยังเป็นตัวสำคัญที่พร้อมจะลงไปเปลี่ยนเกมหรือเป็นตัวสำรองที่ดีให้ทีมชุดใหญ่

ซึ่งกองหน้าของยู23 เอง จริงอยู่ว่าไม่มีตัวทีเด็ดทีขาด แม้จะได้ แพทริค กุสตาฟส์สัน ลูกครึ่งสวีเดนมา แต่ก็ยังต้องปรับเรื่องการจบสกอร์ ถ้าสมมติมี ศุภณัฏฐ์ อยู่ในทีมก็น่าจะโอเคกว่า ดังนั้นในตำแหน่งกองหน้าอาจจะต้องดูความเหมาะสมอีกครั้งว่าจะเอายังไงดี

ส่วนที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ของทั้งสองทีมก็คือ กฤษดา กาแมน ที่เหมือนกับว่าทั้งชุดใหญ่และชุดเล็กก็ต้องการทั้งคู่ โดยเฉพาะชุดเล็กที่เกมรับมีปัญหามากๆ โค้ชโย่ง เลยอยากจะได้ กฤษดา ไปยืนคู่กับ โจนาธาน เข็มดี แค่คิดก็ปึ๊กแล้ว

แต่ปัญหาก็คือ กฤษดา ตอนนี้ก็ถือเป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาร์ฟของ มาโน่ โพลกิ้ง เช่นกัน ก็เลยยังหาทางออกม่ได้ว่าจะเอายังไงดี

แต่มันก็ยังมีโชคดีของทีมชาติไทยอยู่บ้างว่า ทั้งสองชุดจะไปแข่งขันที่ประเทศอุซเบกิสถานเหมือนกัน ซึ่งยู23 จะลงเตะก่อน 2 นัด ขณะที่นัดสุดท้ายในรอบแบ่งกลุ่มจะเตะชนกับชุดใหญ่ที่ลงเตะเกมแรก ในวันที่ 8 มิถุนายน 65

ทางออกมีอยู่ 2 ทางก็คือ ทีมชาติไทยชุด ยู23 เอา กฤษดา กาแมน ไปใช้งานก่อน 2 นัดแรก แล้วก็ปล่อยตัวกลับมาให้ชุดใหญ่ก่อนลงเตะนัดแรกวันที่ 8 มิ.ย.65 หรือไม่ก็ให้ชุดเล็กไปใช้งานก่อนเลยทั้ง 3 นัดรอบแรก เพราะเกมสุดท้ายเราจะเล่นกับอุซเบฯ ซึ่งถือเป็นเกมสำคัญอาจมีผลต่อการเข้ารอบ

แล้วค่อยปล่อยตัวมาให้ชุดใหญ่ก่อนลงเตะนัดที่ 2 กับ 3 ซึ่ง 2 เกมแรกของชุดใหญ่จะเล่นกับ มัลดีฟส์ และ ศรีลังกา บางทีอาจจะต้องใช้งาน กฤษดา ด้วยซ้ำไป ส่วนเกมกับอุซเบฯ นัดสุดท้ายนั้นมีความสำคัญ ยังไงก็ต้องส่งกลับมาให้ชุดใหญ่

แต่ปัญหามันจะเกิดเมื่อถ้าชุดเล็กเข้ารอบต่อไป แล้วจะเอายังไงต่อดี แล้วอีกเรื่องก็คือสมมติไปเล่นให้ชุดเล็กจริงๆ ก็จะต้องซ้อมอยู่กับทีม แล้วการจะมาเล่นให้ชุดใหญ่มันก็จะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนี้ นักเตะอาจจะเหนื่อยก็เป็นได้

ซึ่งจริงๆ แล้วการเตรียมทีมที่ดีที่สุดควรจะแยกทั้งสองชุดออกอย่างชัดเจน จะเอาใครเล่นชุดไหนก็ให้จบทัวร์นาเม้นท์ของชุดนั้นไปเลย การเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาผมว่ามันจะซับซ้อนและอาจจะมีปัญหาได้ โดยเฉพาะการลงเตะในสถานการณ์โควิดแบบนี้

แต่ก็นั่นแหละทั้งหมดทั้งมวลก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของทั้ง ทีมงานโค้ชโย่ง, มาฌน่ โพลกิ้ง และมาดามแป้ง ว่าจะเอายังไงกับเรื่องนี้ เพราะจะว่าไปมันก็สำคัญทั้งคู่ ทางออกก็พอมีอย่างที่บอกไป เดี๋ยวเรามารอดูกันว่าทีมชาติไทย จะเลือกทางไหน และทั้ง 4 คนจะได้ลงเล่นให้ทีมชุดไหนในเดือนมิถุนายนนี้

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม
logoline