10 สุดยอดกองหลัง ปราการภูผาน้ำแข็ง แห่งปี 2019

เชื่อว่าทุกคนคงเคยได้ยินวลีในตำนานอย่าง "เกมรุกทำให้คุณชนะ แต่เกมรับจะทำให้คุณเป็นแชมป์" เพราะในยุคสมัยนี้ตำแหน่งกองหลัง เป็นอะไรที่สำคัญเหลือเกิน โดยในปี 2019 จะเห็นได้ถึงค่าตัวที่เริ่มกระฉูดใกล้แตะหลัก 100 ล้านปอนด์

มีเหล่าเซ็นเตอร์แบ็กมากมายโชว์ผลงานได้อย่างสุดยอด บางคนยืนระยะได้ไม่มีตก บางคนโด่งดังเป็นพลุแตก บางคนเข้ามาเปลี่ยนโลกทั้งใบ หรือ เปลี่ยนภาพลักษณ์ในตำแหน่งนี้

ลองไปดูกันว่า "Best of defenders" หรือ 10 สุดยอดกองหลัง ปราการภูผาน้ำแข็ง แห่งปี 2019 จะมีใครติดโผมาบ้าง

10. คริส สมอลลิ่ง - อาแอส โรม่า

ในสายตาของแฟนบอล คริส สมอลลิ่ง สมัยอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คือตัวตลกคนหนึ่ง ยิ่งเวลาทำผิดพลาด ยิ่งกลายเป็นที่จดจำอยู่เสมอ แต่ประทานโทษ เมื่อเขาตัดสินย้ายไปอยู่กับ อาแอส โรม่า ทุกอย่างกลับพลิกจากหลังเท้า มาเป็นหน้ามือ เพราะ พี่ไมค์ คัมแบ็กกลับมาเป็นกองหลัง ที่โชว์ฟอร์มได้โคตรนิ่ง จากช่วงซัมเมอร์ก่อน ผ่านมา 6 เดือน สมอลลิ่ง เคยถือสถานะสวมปลอกแขนให้กับ "หมาป่าแห่งกรุงโรม" ไปแล้ว เนื่องด้วยฟอร์มการเล่นอันยอดเยี่ยม ทั้งสถิติจำนวนเข้าแท็กเกิ้ล / คู่แข่งแทบเลี้ยงไม่ผ่าน หรือ ชนะลูกดวลกลางอากาศ เรียกว่าเป็นคนละคนกับสมัยอยู่กับ "ปีศาจแดง" ยิ่งไปกว่านั้น สมอลลิ่ง ได้ทาบสถิติ เดวิด เบ็คแฮม ที่เป็นนักเตะอังกฤษ ยิงในศึก เซเรีย อา อิตาลี ต่อ 1 ซีซั่น ได้อย่างน้อย 2 ลูก .. ผลงานแบบนี้มีหรือ จะไม่เข้าติดอันดับท็อปเทน เบสต์ ออฟ ดีเฟนเดอร์ส 2019

9. จอร์โจ้ คิเอลลินี่ - ยูเวนตุส

ถ้าพูดถึงสโมสรที่เชี่ยวชาญด้านเกมรับ ชื่อของ ยูเวนตุส จะต้องผุดเข้ามาในหัวอย่างแน่นอน และ คนที่ยืนหยัดอยู่กับทีมมานาน ต่อให้ต้องหล่นไปเล่น เซเรีย บี ก็ไม่เคยทิ้ง "ไอ้ม้าลาย" ไปไหน นั่นคือ จอร์โจ้ คิเอลลินี่ ต่อให้ปัจจุบันจะอายุ 35 ปี เข้าไปแล้ว แต่เขายังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมเหมือนเดิม น่าเสียดายที่พอออกสตาร์ทฤดูกาล 2019-20 คิเอลลินี่ เจอปัญหาอาการบาดเจ็บหนัก ต้องพักรักษาตัวยาวๆ ทำให้ไม่ได้โชว์ผลงาน แต่กระนั้นในปี 2020 คิเอลลินี่ จะกลับลงมาเป็นปราการน้ำแข็งให้กับ ยูเวนตุส เหมือนเดิม และ ใกล้คัมแบ็กช่วยทีมเต็มแก่แล้ว

8. คักลาร์ โซยุนคู - เลสเตอร์ ซิตี้

ใครจะเชื่อล่ะครับว่า กองหลังที่เป็นเพียงแค่อะไหล่สำรอง ถูกทาง เลสเตอร์ ซิตี้ ซื้อมานั่งดองยาวในฤดูกาล 2018-19 ได้ลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก  อังกฤษ ไปเพียงแค่ 4 นัด เท่านั้น เพราะไม่สามารถเบียดตำแหน่งกับ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ได้เลย จะกลับกลายมาเป็นตัวหลัก "จิ้งจอกสีน้ำเงิน" และ ถูกจับตาไปทั่วทั้งลีก หลายคนคิดว่า เลสเตอร์ ซิตี้ เจอปัญหาช่องโหว่แนวรับแน่นอน กับการที่ต้องขาย แม็คไกวร์ ไปให้กับ แมนฯ ยูไนเต็ด แต่คิดผิดครับ ! เพราะ โซยุนคู อุดแนวรับ "จิ้งจอก" ได้อย่างไร้ที่ติ มีทั้งความเร็ว, นิ่ง, ประกบดี และ ลูกกลางอากาศเด่น โดยเป็นนักเตะคนสำคัญ นำพา เลสเตอร์ ทำเซอร์ไพรส์ขึ้นมาเป็นรองจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก อังกฤษ พร้อมมีสถิติเสียแค่ 19 ลูก น้อยสุดเป็นอันดับ 2 ของลีก ณ ปัจจุบัน

7. แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน - ลิเวอร์พูล

เริ่มต้นปี 2010 แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ยังเป็นเด็กต๊อกต๋อยเล่นอยู่ในทีมเยาวชนลีกสก็อตแลนด์ จากนั้นเหมือนเส้นทางลูกหนังจะไม่รุ่ง เลยโพสต์ประชดชีวิตช่างดูไร้ค่า และ ของานทำผ่านโลกโซเชียล เน็ตเวิร์ค แต่ผ่านมาเกือบ 10 ปี แอนดี้ สายเกรียน กลายเป็นนักเตะดีกรีแชมป์ยุโรป และ แชมป์โลก โรเบิร์ตสัน ย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ด้วยคำถามที่ว่า "ใครวะ" แต่เขาก็พัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นตัวหลัก และ สร้างผลงานกระฉ่อนเป็นหนึ่งในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของยุโรป ณ เวลานี้ ทั้งลูกบ้าในการวิ่งไล่บอล, เกมรับอันเหนียวแน่น และ การเติมเกมไปแอสซิสต์ให้เพื่อนทำประตูเป็นประจำ ฉะนั้นถ้าไม่มีชื่อ โรเบิร์ตสัน เข้ามา เพราะการที่ "หงส์แดง" คว้า 3 แชมป์ ในปี 2019 ชายคนนี้ก็มีส่วนสำคัญ

6. ดานี่ อัลเวส - เซา เปาโล

เชื่อว่าหลายคนอาจจะลืมนึกถึง ดานี่ อัลเวส ไปแล้วก็ได้นะ เพราะน้าแก ย้ายไปค้าแข้งในลีกบ้านเกิด ประเทศบราซิล เล่นให้กับ เซา เปาโล แต่ถ้าปัดฝุ่นความทรงจำสักนิด อดีตแบ็กซ้าย ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ต้องโชว์ฟอร์มให้โลกตะลึง ด้วยวัย 36 ปี ในการแข่งขัน โคปา อเมริกา 2019 ปกติแล้ว คนอายุ 36 ปี ต่างก็แขวนสตั๊ดกันไปเกือบหมดแล้วล่ะ มีแต่พวกเหนือมนุษย์เท่านั้น ที่ยังคงค้าแข้งในลีกสูงสุด และ อัลเวส ก็แสดงศักยภาพให้เห็นว่า อายุเป็นเพียงแค่ตัวเลขเท่านั้น น้าแกเล่นเติมเกมบุกอย่างเมามันส์ตลอด 90 นาที และ เกมรับก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง จนสุดท้ายเป็นคีย์แมนนำทัพ "แซมบ้า" เถลิงแชมป์ทวีปอเมริกาใต้ และ ทัวร์นาเมนต์ อัลเวส คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำรายการดังกล่าวไปครอบครอง

5. คาลิดู คูลิบาลี่ - นาโปลี

อาจจะอันเดอร์เรตไปสักนิด เพราะเอาจริงๆการอยู่กับ นาโปลี ก็ยังไม่ได้ดึงดูดแฟนบอลสักเท่าไหร่ แต่ชื่อของ คาลิดู คูลิบาลี่ มักจะติดกองหลังตัวท็อปของลีกยุโรปมาโดยตลอด และ มักมีข่าวพัวพันกันทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หรือ เชลซี นั่นเป็นเพราะความแข็งแกร่งที่สั่งสมมา คูลิบาลี่ ได้แสดงให้เห็นถึงการเซ็นเตอร์แบ็กที่ไม่แพ้ใครในยุคนี้ อย่าง 2 แมตช์ที่เขาได้ทำให้เห็นในเกมเจอกับ ลิเวอร์พูล บนเวที ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เรียกว่าเอาบรรดาแนวรุก "หงส์แดง" ได้อย่างอยู่หมัด ถึงขั้นที่เอามาล้อกันว่า "หงส์แดง" ผู้ยังไม่แพ้ใครในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ อาจจะแหยงๆก็ได้ถ้าหากเอ่ยชื่อ นาโปลี ขึ้นมา

4. เทรนท์-อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ - ลิเวอร์พูล

"ไม่มีใครโตมาอยากเป็นฟูลแบ็กแบบ แกรี่ เนวิลล์" ประโยคที่อาจดูรุนแรงไปสักนิด แต่ถ้าพิจารณาถี่ถ้วนดีๆ จะเห็นได้ว่า ฟุตบอลสมัยใหม่ ตำแหน่งแบ็กขวา หรือ แบ็กซ้าย จะไม่ใช่สไตล์ที่เน้นรับเป็นหลัก หรือ ไม่ต้องมีความเร็วเป็นอาวุธเด็ด ซึ่ง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ไม่ต้องการเป็นแบบนั้น เทรนท์ ได้สร้างภาพลักษณ์ในตำแหน่งฟูลแบ็กขึ้นมาใหม่ ว่าไม่ใช่เกมรับเท่านั้น ที่คุณต้องโดดเด่น แต่มันจะต้องสวมวิญญาณความเป็นเพลย์เมกเกอร์ไปด้วย เทรนท์ นับเป็นผู้เล่นคนสำคัญของ "หงส์แดง" ที่เป็นแข้งเปิดบอล หรือ แอสซิสต์ได้อย่างแม่นยำ โดยเฉพาะลูกเตะมุมเร็ว ที่ผ่านให้ ดิว็อค โอริกี้ ยิงประตู 4-0 ใส่ บาร์เซโลน่า ยังคงเป็นภาพจำแห่งปี 2019 ซึ่งสถิติการแอสซิสต์ของเขาในศึก พรีเมียร์ลีก นับซีซั่นก่อน รวมแล้ว 20 ครั้ง เรียกว่า ลิเวอร์พูล จะขาดไม่ได้จริงๆ

3. เซร์คิโอ รามอส - เรอัล มาดริด

เงียบเหงาไปบ้างแหละ สำหรับ เซร์คิโอ รามอส เพราะตลอดปี 2019 เรอัล มาดริด ไม่ได้แผลงฤทธิ์แบบ 3-4 ปีก่อนหน้านั้น แต่ถ้าถามว่าฟอร์มของกัปตันทีม "ราชันชุดขาว" ตกลงไปเหรอ ? เปล่าเลย เขายังคงทำผลงานได้ดี อาจจะมีตกไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด รามอส มีส่วนช่วยให้ มาดริด เก็บคลีนชีตไปถึง 12 นัด ตลอดปี 2019 ขณะที่ทีมชาติสเปน ในปี 2019 รามอส ก็ทุบสถิติเป็นนักเตะที่ติดทีมชาติสเปน มากสุดในประวัติศาสตร์ชาติ 170 นัด และ เป็นนักเตะที่เก็บชัยให้กับทัพ "กระทิงดุ" ได้มากที่สุด 124 นัด เรียบร้อย ฉะนั้นด้วยผลงานแบบนี้ บอกเลยว่า รามอส รักษามาตรฐานได้ดีจริงๆ โดยฤดูกาลนี้ก็พา เรอัล มาดริด รั้งรองจ่าฝูง ต้องดูว่าจะโค่นบัลลังค์แชมป์ ลา ลีกา จาก บาร์เซโลน่า ได้หรือไม่

2. มัทไธส์ เดอ ลิกต์ - ยูเวนตุส

ชุดเด็กนรกแตก อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ที่ทำเซอร์ไพรส์ทะลุเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลก่อน ต่างมีชื่อเสียงแซ่ซ่องไปทั่วทุกสารทิศ โดยเฉพาะ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ปราการหลังวัย 19 ปี ที่มีสถานะเป็นกัปตันทีมเด็กสุดในประวัติศาสตร์ อาแจ็กซ์ มัทไธส์ เดอ ลิกต์ ทำผลงานได้อย่างโดดเด่น ฟอร์มการเล่นของเขาไม่ได้น้อยตามอายุ เป็นกำลังสำคัญทั้งในสโมสรและทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ถึงขั้นที่ยักษ์ใหญ่ยุโรปรุมตอมกันยกใหญ่ สุดท้ายเลือกย้ายไปอยู่กับ ยูเวนตุส ถึงแม้ว่าช่วงแรกจะมีผลงานไม่ค่อยดีนัก แต่พอได้ปรับตัว ได้ลงสม่ำเสมอ บอกเลยว่า เดอ ลิกต์ ก็โชว์ศักยภาพให้เห็นว่าดีพอ มิเช่นนั้นรางวัล "โกลเด้น บอย 2019" คงไม่การันตี

1. เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ - ลิเวอร์พูล

ปี 2019 ต้องยกให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ เป็นหนึ่งในโลกล้าแห่งสุดยอดกองหลังยุคปัจจุบันเลยล่ะครับ เพราะเซ็นเตอร์แบ็กชาวดัตช์ เข้ามาเปลี่ยน "หงส์แดง" ให้มีสถานะกลายเป็นทีมที่มีเกมรับอันสุดยอด ถึงขั้นที่ฤดูกาล 2018-19 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ไม่มีใครลากเลื้อยผ่านเขาได้เลย จึงไม่แปลกเลยสักนิดที่ ฟาน ไดค์ จะกลายเป็นคีย์แมนพา ลิเวอร์พูล ประกาศศักดาซิวแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมไปถึง ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ พ่วงด้วยตำแหน่ง แข้งยอดเยี่ยมแห่งปี ของ ยูฟ่า เอาชนะทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ กับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ อีกทั้งมีสถานะเป็นพระรองทั้ง บัลลง ดอร์ และ "ฟีฟ่า เดอะ เบสต์" ฉะนั้นการเป็นเบอร์ 1 ในตำแหน่งกองหลัง แห่งปี 2019 ต้องมอบให้กับชายที่ชื่อว่า เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ ไปจริงๆ