logo-heading

เวลานี้ ธีรศิลป์ แดงดา กำลังเข้าใกล้การเป็นนักเตะคนใหม่ชิมิสุ เอส-พัลส์ แม้ในความเป็นจริงมีการจ่ายเงินค่าฉีกสัญญาออกจากอ้อมอกเมืองทอง ยูไนเต็ด แล้ว และ”มุ้ยซัง” ได้เข้าแคมป์ฝึกซ้อมปรีซีซั่นกับทีมใหม่ ณ แคมป์โอกินาว่า ทางตอนใต้ญี่ปุ่น แต่เมื่อยังไม่มีการประกาศย้ายทีมอย่างเป็นทางการของออฟฟิเชียลของทีมสีส้มแห่งชิซูโอกะ นั้นทำให้ต้องรอกันต่อไป

ก่อนหน้านี้ เจลีก 2020 มีนักเตะไทย 2 คนที่ได้รับสัญญาถาวร พร้อมกับการเป็นกำลังสำคัญของสโมสร คือ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กับคอนซาโดเล ซัปโปโร และ ธีราทร บุญมาทัน กับโยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ซึ่งถ้าหาก”มุ้ย” ได้รับการยืนยันเมื่อไหร่ เขาจะกลายเป็นคนที่ 3 ซึ่งจะเจริญรอยตามซีซั่น 2018 ที่ 3 หน่อตัวหลักทีมชาติได้มีโลดแล่นพร้อมหน้าพร้อมตากัน แม้ว่าเจลีกจะจำกัดในเรื่องของอายุนักเตะต่างชาติที่มาค้าแข้ง นักเตะ 30 อัพจะไม่ค่อยได้รับการชายตามอง หรือให้อยู่ค้าแข้ง แต่ต้องยอมรับว่า ถ้าหากแข้งต่างชาติไม่มีคุณภาพจริง สโมสรในญี่ปุ่นก็ไม่กล้าซื้อมาร่วมทีม เพราะการดึงใครสักคนมาร่วมทีมมันที่อายุการใช้งานเหลือน้อย มันไม่คุ้มเสี่ยงสักเท่าไหร่ แต่เมื่อชิมิสุ ตัดสินใจพรากตัว TD 10 มาสู่เมืองชิซูโอกะ ปิดฉากชีวิต10 ปีในถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม ย่อมพิสูจน์ให้เห็นว่า พวกเขามีความจริงจังที่จะนำตัวกองหน้าหมายเลข 1 ของเมืองไทย มาวาดลวดลายอีกครั้ง ขอบสนามจึงสรุปปัจจัยที่ทำให้ ธีรศิลป์ แดงดา ได้หวนกลับมาล่าฝันในการแข่งขันฟุตบอลอาชีพในญี่ปุ่นอีกคำรบ1 1.ทึ่งกับความสามารถนักบอลอายุเยอะในญี่ปุ่นที่ไร้วี่แววเลิกเล่น ต้องยอมรับว่าอายุ 31 ปี ถ้าหากเป็นนักบอลระดับสูงในยุโรป มันคือช่วงบั้นปลายใกล้วัยแขวนสตั๊ด แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่วัยคนกำลังเลิกเล่น การออกไปเล่นในเจลีกในปี 2018 สร้างความประหลาดใจให้ ธีรศิลป์ แดงดา หลายสโมสรที่มีนักเตะอายุเยอะที่สภาพร่างกายฟิตกว่าเด็กรุ่นใหม่ แถมเป็นกำลังสำคัญให้สโมสร ทั้ง เคนโงะ นางามูระ, ยาสุฮิโตะ เอ็นโดะ, ยูจิ นากาซาว่า หรือแม้แต่หัวหอกนอกที่วัยเตะเลข 4 อย่าง เจย์ โบธรอยด์ ทั้งหมดวาดลวดลายในสนามได้ตลอด 90 นาทีไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยล้า มันแสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้เหมาะไฟ ถ้าเป็นที่อื่นคงจับไปซ้อมหรือนั่งสำรอง แต่ที่ญี่ปุ่นไม่ บอลอาชีพที่นี้แข่งขันกันสูง ถ้าไม่มีฝีมือจริง ไม่มีวินัย ก็ต้องลดระดับไปเล่นในเจ 2 ซึ่งสิ่งนี้ทำให้มุ้ยซัง ประทับใจกับทัศนคติความเป็นมืออาชีพของผู้เล่นที่นี้ หมดแพชชั่น! ไขปัจจัย"มุ้ย" ธีรศิลป์ รีเทิร์นเจลีก 2.อิ่มตัวในไทยลีก ธีรศิลป์ แดงดา เดินทางมาถึงจุดที่ต้องเรียกว่าอิ่มตัวกับสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด และการแข่งขันในเมืองไทยมาสักพักใหญ่ๆแล้ว เขาได้มาเกือบทุกแชมป์ทั้งสโมสรและทีมชาติ สร้างเกียรติยศไว้มากมาย เพียงแต่ไม่ค่อยมีคนรู้สักเท่าไหร่ เอล แดงดา ถูกปล่อยไปเล่นกับซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า ในปี 2018 แม้จะยิงประตูไม่ได้เป็นกอบเป็นกำ เพราะระบบทีมไม่เอื้ออำนวย แต่เขาสามารถปรับตัวเขากับเพื่อนร่วมทีมได้ทุกคน จริงๆเขาอยากจะอยู่กับทีมต่อในซีซั่น 2019 และมีการขอยืมตัวต่อ แต่เมืองทอง ตั้งราคาขายให้ทีมธนูม่วงเกินความเป็นจริง นั้นทำให้ดีลล่มไป และมุ้ยซังกลับมาต่อสัญญากับทีมไปอีก 2 ปี ซึ่งในปีที่ผ่านมาภาษากายของtd10 ก็ชัดเจนแล้วว่าเขาไร้แรงบันดาลใจแถมยังมาเจอเรื่องอาการบาดเจ็บอีก ทำให้ มุ้ยช่วยทีมได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเหมือนคนอยู่ไปวันๆ และท้ายที่สุดเขาจึงทำเรื่องกับบอร์ดบริหารว่าต้องการย้ายไปเล่นในเจลีกอีกครั้งเพื่อที่จะได้กลับไปพิสูจน์ตัวเองสร้างแรงจูงใจให้ตัวเองใหม่ หมดแพชชั่น! ไขปัจจัย"มุ้ย" ธีรศิลป์ รีเทิร์นเจลีก 3.ล่าเงินก่อนสุดท้าย การเป็นนักบอลอาชีพ เมื่อมีการย้ายทีม นักเตะจะได้รับค่าเหนื่อย ค่าเซ็นสัญญา และค่าจิปาถะ ส่วนค่าตัวการย้ายทีมสโมสรที่ซื้อสัญญานักเตะจะเป็นคนจ่ายเงินให้ต้นสังกัดเดิม ชิมิสุ จ่ายเงินให้เมืองทอง ตัวธีรศิลป์ แดงดา นั้นรู้ดีว่าการไปเล่นในญี่ปุ่น มันไม่ได้สบายเหมือนอยู่ในไทย แถมโดนหักภาษีคนต่างชาติอีกราวๆ 15 เปอร์เซนต์ แต่เขาเลือกที่จะไปเก็บเงินก้อนสุดท้าย เนื่องจากอยู่ที่ญี่ปุ่น สโมสรดูแลหมดแทบทุกอย่างสำหรับแข้งต่างชาติ บ้านพัก, รถยนต์ กินอาหารกับสโมสร ได้เบี้ยเลี้ยงซ้อม ได้เงินเดือน และตัวธีรศิลป์เป็นคนเก็บเงินเก่งไม่ฟุ่มเฟื่อย เรียกว่าเงินเยนที่เข้าบัญชีคงเหลือบานแน่ๆ 4.ครอบครัวสนับสนุน จ่าประสิทธ์ แดงดา บิดาของ”มุ้ย” ธีรศิลป์ เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อไว้เมื่อ 2 ปีก่อนว่า ลูกชายอยากล่าฝันในลีกญี่ปุ่นอย่างน้อย 2-3 ปี คือเล่นใจลีก 2 ปีและลงไปเล่นในเจ 2 อีก 1 ปีและตามด้วยการไปเรียนโค้ชชิ่งอีก 1 ปี แม้แผนที่วางเอาไว้จะไม่เป็นจริง หลังการกลับมาจากซานเฟรซเซ่ ฮิโรชิม่า “มุ้ยซัง” บอกเล่าสิ่งดีๆที่ได้จากเจลีกให้ครอบครัวรับรู้ มันย่อมดีกว่าที่จะออกไปหาความท้าท้ายใหม่ เมื่อได้เห็นนักเตะอายุเยอะลงเล่นในเจลีกได้สบาย พ่อแม่น้องสาว และภรรยามุ้ยสนับสนุนและเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ดีลนี้เกิดขึ้น 5.บอลแพ้แฟนบอลสต๊าฟฟ์โค้ชเพื่อนร่วมทีมไม่มาด่าหลังเกม วัฒนธรรมฟุตบอลในญี่ปุ่น ค่อนข้างจริงจังตั้งแต่การฝึกซ้อมในสนามไปจนถึงวันลงทำการแข่งขันผู้เล่นภายในทีมทุกคนช่วงชิงกันเป็น 11 ผู้เล่นผิดกับไทยลีก บางคนรู้ว่าไม่ได้เล่นมาสาย ขาดซ้อม ทำตัวเป็นซุปตาร์โพสต์เฟส,ไอจี แต่ที่ญี่ปุ่นทุกคนมองว่าเป็นเรื่องรอง แถมเมื่อจบเกมการแข่งขันหากบอลแพ้ ไม่มีนักเตะภายในทีมมานั่งตำหนิโทษกันเองว่า มึงเล่นพลาดมึงคือจุดอ่อน แถมไม่ต้องมาเจอเจ้าของทีมเจ้าของเงินหรือแฟนบอลทีมตัวเองมานั่งด่าท้อเสียๆหายให้เสียกำลังใจเสียความรู้สึกตัวเองอีก จบเกมก็จบกัน ไม่มีใครมานั่งต่อความยาวสาวความยืดกันอีก “มุ้ย” ธีรศิลป์ ชอบในจุดๆนี้ เขาเคยบอกกับล่ามส่วนตัวและนักข่าวที่ไปทำข่าวเขาเมื่อปี 2018 เขาชอบตรงนี้มาก

เอ็มเร่

[email protected]

logoline