logo-heading

แทบจะยกธงขาวประกาศว่าปีนี้แชมป์พรีเมียร์ลีกหน้าเก่าอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั้นถอนสมอการป้องกันแชมป์ไปแล้วก็ว่าได้ เพราะคะแนนที่ตามหลังจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล นั้นมันไกลเกินเอื้อมกว่าที่จะไล่ล่าแล้ว

ว่าแล้ววันนี้ ขอบสนาม ของเราเลยได้ทำการวิเคาระห์สาเหตุที่ทำให้ "เรือใบสีฟ้า" ในฤดูกาลไม่อาจแล่นฉิวได้เหมือนซีซั่นก่อนๆ จะมีเหตุผลอะไรบ้าง ไปติดตามกันได้เลย ปัญหาอาการบาดเจ็บ นี่คือซีซั่นที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องเผชิญกับปัญหาอันหน้าปวดหัวมาตลอดนับตั้งแต่เริ่มต้นฤดูกาล ลากยาวมาจนกระทั่งทุกวันนี้ เพราะเมื่อชายตาไปมองที่โรงหมอก็มักจะพบนักเตะแวะเวียนเปลี่ยนมาใช้บริการกันอยู่เรื่อยๆ ไล่เรียงตั้งแต่ ลีรอย ซาเน่ ที่ประเดิมเจ็บคนแรกตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่รูดม่านเปิดออกมา  พอเปิดซีซั่นมาแนวรับตัวหลักอย่าง เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ก็ขอโบกมือเข้าโรงหมอไปอีกคนพร้อมพักยาวไปอีกคน ซึ่งระหว่างทางนั้นก็มีคนอื่นๆ ที่ทยอยเจ็บไปตามๆ กัน ไม่ว่าจะเป็น จอห์น สโตนส์, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้, เซร์คิโอ อเกวโร่ หรือว่าดาบิด ซิลบา ซึ่งนั้นมันเลยเป็นปัญหาทำให้ทีมขาดสมดุล ไม่อาจมีนักเตะให้ เป๊ป ได้ใช้แบบเต็มมือครบทีมเสียที 5 ปัจจัยพา 'เรือใบ' ไม่แล่นฉิว ในฤดูกาลนี้ ปัญหาเกมรับ ข้อนี้ถือว่าสืบเนื่องมาจากปัญหาด้านบนเลยก็ว่าได้เพราะนับตั้งแต่ที่  เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ ได้รับบาดเจ็บจนต้องพักยาวไป "เรือใบสีฟ้า" ก็มีหลังบ้านที่ไม่แข็งแร่งเหมือนเดิมอีกเลย เพราะต้องพูดกันตามความจริงว่าแนวรับชาวฝรั่งเศสเปรียบเสมือนหัวใจในแนวรับ และพอได้รับบาดเจ็บไปคนหนึ่งมันก็เลยดูเหมือนไม่มีใครคอยประคองแผงหลัง  โดยวิธีแก้ไขของ เป๊ป คือการถอย แฟร์นันดินโญ่ ลงไปเล่นเป็นเซ็นเตอร์ฮาร์ฟ ส่วนนึงเเพราะ เป๊ป มองว่าประสบการณ์ และด้วยตำแหน่งที่เล่นเป็นมิดฟิลด์ตัวรับอาจแก้ไขปัญหานี้ได้ ซึ่งก็ต้องบอกว่ามันแก้ได้จริงๆ ครับ แต่มันก็ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะยังไงก็ตามแต่ตำแหน่งถนัดของแข้งชาวบราซิลคือการตัดเกมในแดนกลาง และด้วยอายุที่ปาเข้าไป 34 แล้ว มันก็มียุบให้เห็นกันบ้าง หรือวิธีอื่นๆ อย่างเช่นถอยแข้งใหม่อย่าง โรดรี้ ไปยืนจับคู่กับ นิโกลัส โอตาเมนตี้ หรือว่าจอห์น สโตนส์ หรือบ้างนัดก็ปรับมาเล่นหลัง 3 เลย โดยรวมมันก็ถือว่าเป็นการแก้ไขสถานการณ์ได้ดี แต่มันก็ไม่อาจยืนระยะได้ตลอด ซึ่งเราก็ได้เห็นกันอยู่บ่อยครั้งเกี่ยวกับความผิดพลาดเรื่องการยืนตำแหน่ง หรือความผิดพลาดส่วนบุคคล จนทำให้แฟนบอลทุกคนต่างเห็น และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าปัญหาในเรื่องเซ็นเตอร์ฮาร์ฟที่มีอยู่ทำไมทีมถึงไม่ลงทุนควักเงินสักก้อนหาแนวรับคนใหม่เข้ามาเสริมทีมทั้งที่นี่มันคือหลุมขนาดใหญ่ที่เป็นช่องโหว่ของทีม ณ ขณะนี้ แข้งสำรองทดแทนไม่ได้ ในช่วง 2 ซีซั่นที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าขุมกำลังของ แมนฯ ซิตี้ นั้นสามารถทดแทนกันได้อย่างยอดเยี่ยม แต่ทว่ากับโฉมของทีมในฤดูกาลนี้ดูเหมือนมันจะแตกต่างออกไป เพราะเหล่าบรรดาแข้งสำรองยังไม่อาจทดแทนตัวจริงได้เลย ไล่มาตั้งแต่แนวรับอย่าง โอตาเมนดี้ หรือสโตนส์ ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครสามารถแบกเกมรับ และน่าไว้ใจได้เลย หรือแดนกลาง ริยาร์ด มาเรซ ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ฟอร์มพีคแบบขั้นสุด ไม่เว้นกระทั่ง กาเบรียล เชซุส ที่ซีซั่นนี้ฟอร์มเก่งยังไม่เข้าฝัก และพึ่งซัดในลีกไปได้เพียง 9 ประตู จากการลงสนาม 21 นัด  ซึ่งนี่คือข้อแตกต่างจากคู่แข่งลุ้นแชมป์อย่าง ลิเวอร์พูล ที่เหล่าบรรดาแข้งสำรองสามารถลงมา และสร้างความแตกต่างในสนาม และบ่อยครั้งที่เหมือนตัวโจ๊กเกอร์ลงมาทำให้ทีมได้ประตูพร้อมกับเก็บผลการแข่งขันที่ต้องการออกจากสนามไปได้  5 ปัจจัยพา 'เรือใบ' ไม่แล่นฉิว ในฤดูกาลนี้ แพ้ภัยตัวเอง ต้องยอมรับว่าที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ปลุกปั้นเหล่าบรรดาแข้ง แมนฯ ซิตี้ ชุดนี้ในรอบ 2-3 ปีที่ผ่านมา นั้นยอดเยี่ยมเป็นอย่างมาก ซึ่งมันดีขนาดที่แข้งบางคนทำได้ดีกว่ามาตรฐานที่เคยทำไว้ ซึ่งนั้นจึงเป็นเหมือนหลุมพลางที่พวกเขาทำ และโดนกับดักของตนเอง เพราะที่ผ่านมา ซิตี้ สามารถก้าวผ่านทุกสถานการณ์บีบบังคับได้ตลอด อย่างเช่นเมื่อฤดูกาลก่อนที่เบียด และแซง ลิเวอร์พูล เข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกไปครองได้  ส่วนนึงเพราะ เป๊ป สามารถรีดศักยภาพของนักเตะออกมาจนหมด จนบางคนมีฟอร์มที่ยอดเยี่ยมได้รับคำชมจากทั่วทุกสารทิศ ซึ่งมันก็เหมือนดาบ 2 คม ที่ย้อนกลับมาเกิดคำถามที่มาว่าบางคนอาจเลยจุดที่ดีที่สุดของตัวเองไปแล้วหรือเปล่า? และฟอร์มที่เห็นกันอยู่ในตอนนี้กลายเป็นมาตรฐานทั่วไป ที่ไม่อาจกลับไปมีฟอร์มที่พีคได้เหมือนเดิมอีกแล้ว ความกระหาย บางทีได้เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกติดต่อกัน 2 สมัย อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ท้าทายเหล่าแข้ง แมฯ ซิตี้ เท่าที่ควรแล้วก็ได้ และยิ่งมีมุดหมายที่ใหญ่กว่า และเป็นที่ต้องการมากกว่าอย่างโทรฟี่ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มันยิ่งเป็นเหมือนแรงบวกเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณในการอยากเอื้อมมือไปชูถ้วยบิ๊กเอีอร์นั้น  แน่นอนว่าเรื่องของความกระหาย และความมุ่งมั่นนั้นมันเป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อยในการจะทำภารกิจอะไรสักอย่างให้สำเร็จลุล่วง และที่ผ่านมา "เรือใบสีฟ้า" พยายามที่จะก้าวผ่านคำว่าสโมสรใหญ่ของยุโรปให้ได้ด้วยการคว้าแชมป์ แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งที่ผ่านมาพวกเขาทำได้แค่เกือบมาตลอด บวกกับแรงขับเคลื่อนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า หมั้นหมายอยากจะกลับไปเป็นเจ้ายุโรปอีกครั้ง เพราะนับตั้งแต่โบกมือลา บาร์เซโลน่า ออกมาเขาก็ยังไม่อาจไปถึงในจุดนั้นอีกเลย และที่สำคัญที่สุดนี่คือถ้วยที่บอร์ดบริหารของทีมต้องการได้มาเฉยชมเหนือกว่าถ้วยรางวัลอื่นๆ อีกด้วย
logoline