logo-heading

หลังจากที่เราเพิ่งตื่นเต้นกับการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการของ ธีรศิลป์ แดงดา ในการย้ายจาก เอสซีจี เมืองทอง ไปร่วมทัพ ชิมิสุ เอส พัลส์ ทีมในเจลีก

ล่าสุดในค่ำคืนเดียวกันดีลที่หลายคนอยากให้เป็นจริงก็จบลง และก็จบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งด้วยกับดีลของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ที่บรรลุข้อตกลงย้ายจาก โอเอช ลูเวิน ไปร่วมทัพ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร ด้วยสัญญายืมตัว 2 ปีด้วยกัน ซึ่งทำให้เป็นครั้งแรกที่เรามีนักเตะไทยเล่นในลีกสูงสุดแดนอาทิตย์อุทัยพร้อมกันถึง 4 คน

วันนี้ "ทีมงานขอบสนามบอลไทย" ขอมาพูดถึง "ตอง กวินทร์" กับการได้โอกาสโบยบินอีกครั้งที่เจแปน ...

เหตุผลแรกที่ทำให้ "ตอง" ได้ไปโบยบินที่เจลีก เพราะด้วยความที่ คอนซาโดเล่ ซัปโปโร มี กู ซุง ยุน เป็นนายด่านมือหนึ่ง และเขากำลังจะมีอายุครบ 26 ปี (ในปีหน้า) ต้องเข้ากรมไปรายงานตัวเป็น "ทหาร" ตามกฎเหล็กของ เกาหลีใต้ ทำให้ "คอนซะ" ต้องหาผู้รักษาประตูคนใหม่มาสแตนบายไว้ใช้งานในทันที ซึ่ง "หวย" จึงมาตกที่กวินทร์ของเรานี่แหละ

ถึงเวลาของ “กวินทร์" ได้ออกไป "โบยบิน" อีกครั้ง

หลายคนสงสัยว่านอกจาก กู ซุง ยุน ที่เป็นมือหนึ่งแล้ว คอนซะ ไม่มีใครไว้ใจได้อีกเหรอ ??? ตอบได้เลยว่าใช่ครับ เพราะจากข้อมูลที่มี "มือสอง" ของเขาอายุ 35 ปีแล้ว และมีแววว่าจะแขวนถุงมือเร็วๆ นี้ ส่วน "มือสาม" แม้จะยังเด็กด้วยวัย 24 ปีแต่ได้รับบาดเจ็บอยู่ยังไม่พร้อมลงเล่น ทำให้ในที่สุดแล้ว "หวย" จึงมาตกที่ กวินทร์ ของเรานี่แหละ

และหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ผมเชื่อว่าเป็นเหตุผลใหญ่ที่ ซัปโปโร่ มองมาที่ "ตอง" ก็คือเรื่องฝีไม้ลายมือที่น้องเคยทำไว้เมื่อครั้งเป็นมือหนึ่งของ เอสซีจี เมืองทอง และเป็น มือหนึ่งทีมชาติไทย , เรื่องของรูปร่างสรีระที่ไม่ได้เป็นรองกองหน้าคนไหนๆในเจลีกเท่าไหร่นักรวมไปถึงการเป็นเพื่อนที่รู้จักกันดีกับชนาธิปสรงกระสินธ์ซึ่งเชื่อว่าเจคงจะให้คำแนะนำกับซัปโปโร่เกี่ยวกับเพื่อนร่วมชาติคนนี้ไม่มากก็น้อยแน่นอน

ดังนั้นการได้ไปร่วมทีม "ซัปโปโร่" ของ "ตอง" ในครั้งนี้จึงเป็นฤกษ์งามยามดีที่น้องจะได้เรียกความมั่นใจกลับมาอีกครั้งให้สมกับอดีตมือหนึ่งทีมชาติไทยที่เคยได้รับความไว้วางใจ

ถึงเวลาของ “กวินทร์" ได้ออกไป "โบยบิน" อีกครั้ง

และแม้ว่าตองจะยังต้องสู้เพื่อแย่งมือหนึ่งกับกูซังยุนแต่ก็คงไม่ใช่เรื่องเกินกว่าจะสู้เพราะในช่วงเวลาที่น้องอยู่กับลูเวินน้องหาโอกาสลงเล่นได้ยากมากการได้เปลี่ยนบรรยากาศมาเจลีกน่าจะช่วยเพิ่มความท้าทายเสริมไฟในมือที่อยากพิสูจน์ตัวเองได้ไม่มากก็น้อย

ประกอบกับอายุ 30 ปีของน้องนี่คือช่วงเวลาที่กำลังดีมากๆ ในการต้องเฝ้าเสาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาการเล่นของตัวเอง ทำให้การมา เจลีก เปรียบเสมือนการได้โบยบิยอีกครั้งของเจ้าของฉายา "กวินทร์ บินได้" อย่างแท้ทรู

และถ้า กวินทร์ ได้บินอย่างต่อเนื่องผลดีจะตกกับทั้งตัวน้องเองที่น่าจะดีขึ้นตามลำดับ และทีมชาติไทยด้วยที่น่าจะมีการต่อสู้ในการแย่งตำแหน่งมือหนึ่งอย่างสนุกสนามกว่าในตอนนี้แน่นอน

   

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

logoline