การแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ถือเป็นบอลรายการเมเจอร์ ระดับสโมสรที่ใหญ่สุดของเอเชีย คลับลูกหนังแถวหน้าจากชาติชั้นนำในเอเชีย ต่างเผชิญหน้าช่วงชิงความเป็นเบอร์ 1 ทวีป
โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส ในฐานะแชมป์เจลีก ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันในรายการนี้ พวกเขามีนักเตะชาวไทยหมายเลข 5
ธีราทร บุญมาทัน ได้รับโอกาสสำคัญเป็นผู้เล่นโควต้าเอเชีย 1 ใน 4 รายที่ถูกใส่ชื่อลงแข่งacl 2020 โดยทัพกะลาสีเหลือแห่งคานากาวะ Fโดยอยู่ร่วมสายกับชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส, เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี และซิดนี่ย์ เอฟซี
ทว่าเขาไม่ใช่คนไทยรายที่ 2 ที่ได้ลงเตะฟุตบอลสโมสรเอเชียถ้วยใหญ่ ต่อจากสุรัตน์ สุขะ เพราะในอดีตก็มีแข้งไทยมีชื่อมากมายที่ได้สัมผัสทัวร์นาเมนต์นี้
ผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลเนื้อหาทั้งหมดโดยที่รายละเอียดอยู่ด้านล่างเชิญเลื่อนเมาท์ไปอ่านได้ตามอัธยาศัย
1.เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง, ดุสิต เฉลิมแสน, ตะวัน ศรีปาน, สมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร, ศักดา เจิมดี, ชูเกียรติ หนูสลุง (ฮองอันห์ยาลาย) ปี 2004, 2005
HAGL Group กลุ่มทุนซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เหมืองแร่ ยางพารา และธุรกิจพลังงานรายใหญ่ของเวียดนาม ที่มีเจ้าของคือ ด่วน เหงียน ดึก ตัดสินใจเทคโอเวอร์ทีมจังหวัดเปล็ยกูเพื่อทำทีมฟุตบอลอาชีพ โดยมีเป้าหมายคือเลื่อนชั้นจากดิวิชั่น 2 ขึ้นลีกสูงสุดของประเทศในเวลาแค่ 1 ปี เขาจึงตัดสินใจมาเจรจากับ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ในงานแต่งงานและนั้นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้นักบอลไทยได้รับความสนใจจากวีลีก เวียดนาม
ซิโก้ นำพาเพื่อนและพี่น้องทีมชาติไทย 5-6 ชีวิตไปค้าแข้งที่ฮองอันยาลาย พาทีมคว้าแชมป์วีลีกในปี 2003, 2004 ก่อนจะสิทธิ์ลงแข่งเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ในซีซั่น 2004 และ 2005 โดยแกนหลักคือนักเตะไทย ดุสิต เฉลิมแสน, ตะวัน ศรีปาน, สมฤทธิ์ อ่อนสมจิตร, ศักดา เจิมดี, ชูเกียรติ หนูสลุง
2.นิรุจน์ สุระเสียง (บินห์ เดือง)
การจบด้วยรองแชมป์เอเอฟซี แชมเปี้ยนลีก 2003 ของบีอีซี เทโรศาสน โดยที่ตัวหลักและสำรองเป็นตัวทีมชาติไทยกว่าครึ่งทีม เหมือนเป็นการสิ้นสุดลง เมื่อนักเตะซีเนียร์ รู้สึกอิ่มตัวและอยากไปโกยเงินช่วงโค้งสุดท้ายในชีวิตการค้าแข้ง เช่นเดียวกับ”ตั้ม” นิรุจน์ สุระเสียง แม้เวลานั้นจะอายุแค่ 24 ปี แต่เงินเดือนที่ได้รับจากเทโรในเวลานั้นมันไม่มากพอ สเกาต์ของบินห์ เดือง เห็นฟอร์มในเกมถ้วยใหญ่ของเอเชียพอดี นั้นจึงทำให้เขาเป็นอีก 1 แข้งที่ได้ไปล่าเงินดองที่เวียดนาม มูลค่าที่ได้รับร่วม1 แสนบาท ในปี 2004 โดยที่มีโอกาสลงเล่นเกมสโมสรเอเชียถ้วยใหญ่กับต้นสังกัดใหม่ถึง 2 ฤดูกาล ปี 2004 และ 2005
3.เทิดศักดิ์ ใจมั่น (สิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ)
อดีตนักเตะยอดเยี่ยมเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ปี 2003 แม้เทโรจะได้รองแชมป์ แต่”เดอะป็อป” แห่งเมืองสุพรรณบุรี ก็ได้รับการผายมือคารวะไปทั่วเอเชีย จากผลงานอันอุกอาจเช่นนี้ แต่หลังจากที่ดุสิต เฉลิมแสน, วรวุธ ศรีมะฆะ แข้งซีเนียร์รุ่นใหญ่ขออำลาทีมเพื่อไปลาเงินก้อนสุดท้ายในการเล่นบอลอาชีพ เขาจึงตัดสินแบบเดียวกัน เพื่อมุ่งหน้าไปยังสิงคโปร์ อาร์ม ฟอร์ซ เขากลายเป็นเทพเจ้าแห่งบอลแดนลอดช่องทั้งยิงทั้งจ่ายจนทีมได้แชมป์ลีกเป็นว่าเล่น ก่อนที่ทีมจะผ่านเข้ารอบเพลย์ออฟ ACL 2009 ปราบการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และเดมโป่ ทีมจากอินเดีย จนได้ไปเล่นรอบแบ่งกลุ่ม
4.สุรัตน์ สุขะ (เมลเบิร์ค วิคตอรี่)
กองกลางตัวรับจากสกลนครที่หอบเสื้อผ้ามายังเมืองน้ำเค็มพร้อมๆกับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล เขาคือคีย์แมนคนสำคัญตรงกลางสนามช่วยฉลามชลเป็นแชมป์ไทยลีกปี 2007 และเป็นนักเตะที่ผลงานไฉไลในการแข่งขันเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2008 กลางปี2009 เมลเบิร์น วิคตอรี่ ทุ่มเงินไป 1 ล้าน 5 แสนบาท เขาอยู่กับสโมสร3 ปี ได้ลงเล่นบอลสโมสรเอเชียถ้วยใหญ่ 2 ปีติดต่อกัน 2010,2011 แม้จะเป็นตัวหลักของสโมสรตัวเกมก่อนถึงหน้าแผงหลัง แต่ด้วยปัญหาการใช้ชีวิตของครอบครัวในออสเตรเลีย สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจละทิ้งความฝันกลับเมืองไทยมาค้าแข้งกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
เอ็มเร่
[email protected]
