หลังจากที่มติของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ร่วมกับ ไทยลีก ประกาศให้เลื่อนการการแข่งขันออกไปก่อน เพื่อป้องกันในเรื่องของ ไวรัส โควิด-19
ทำให้นับจากนี้อีกร่วมๆ 50 วัน (ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นจะกลับมาเล่นก่อนกำหนด) กว่าเราจะได้กลับมาดูฟุตบอลไทยลีกที่เพิ่งออกสตาร์ทไปเพียงแค่ 4 เกมเท่านั้น
ดังนั้นในวันที่ไม่มีฟุตบอลเตะแบบนี้ ทีมงานขอบสนามบอลไทย จึงขอผ่าฟอร์มทั้ง 16 ทีมในไทยลีกว่าผ่านมา 4 เกมแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง ???
โดยคิวแรกเราขอยกให้กับ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ครองจ่าฝูงไทยลีกอยู่ในตอนนี้
ผลงานของพวกเขาในการลงสนาม 4 เกมชนะรวด เริ่มด้วยการเอาชนะ พีที ประจวบ 2-0 , บุกชนะ เอสซีจี เมืองทอง 1-2 , บุกชนะ สมุทรปราการ ซิตี้ 1-2 และล่าสุดกับการเปิดบ้านถล่ม สิงห์ เชียงราย แชมป์เก่า 4-1 เก็บได้ 12 คะแนน ยิงได้ 10 ประตู และ เสียไป 3 ลูกเท่านั้น
ภาพรวมของ บียู ในการออกสตาร์ทไทยลีกปีนี้ แม้จะเป็นที่พวกเขามีการเปลี่ยนแปลงทีมน้อยถึงน้อยมากถ้าเทียบกับทีมใหญ่ๆ ทีมอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้หลายคนจำภาพว่าพวกเขาคงจะเป็นเหมือนเดิม ...
แต่การเติมทีมที่น้อยสุดท้ายกลายเป็นมากเป็นเรื่องที่ดีของ บียู ไปเลย เพราะพวกเขาได้สิ่งที่ทำให้ทีมเปลี่ยนไปและดีกว่าเดิมคือการได้
ฮาจิเมะ โฮโซไก มิดฟิลด์โคตรประสบการณ์มาจาก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซึ่งตอนแรกดีลนี้หลายคงไม่คาดคิดว่ากองกลางเจแปนผู้นี้จะทำได้ดีขนาดนี้ เพราะปีแรกที่ลงเล่นให้กับ บุรีรัมย์ ก็ไม่ถึงกับดีมาก แต่มาในปีนี้กับ บียู เขาเล่นเหมือนคนละคนอาจจะเพราะปรับตัวได้แล้ว รวมไปถึงการเล่นให้กับ บียู ในตำแหน่งที่สูงกว่าเมื่อตอนที่เล่นให้ บุรีรัมย์ จึงทำให้ โฮโซไก คายพิษสงออกมาได้เต็มที่และทำให้เขาเป็นจิ๊กซอว์ชิ้นสำคัญที่ขับเคลื่อนให้ ทรู แบงค็อก แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม
อีกหนึ่งจุดสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มพร้อมๆ กับทำทีมแบบผิดวิสัยของ บียู นั่นคือการมอบโอกาสให้กับ ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม กองหน้าดาวรุ่งวัย 22 ปีที่เพิ่งกลับมาจากการยืมตัวกับ เอฟซี โตเกียว โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บียู มักจะไม่ใช้ดาวรุ่งเล่นตั้งแต่ต้นซีซั่น แต่ในปีนี้พวกเขากับใช้ "เจ้าเบียว" ลงสนามทันที ทั้งที่มีต่างชาติอย่าง เบรนเนอร์ หรือแข้งไทยอย่าง ชนานันท์ ป้อมบุปผา รอลงสนาม แต่สุดท้ายการเลือก "ณัฐวุฒิ สุขสุ่ม" มันกลับตอบโจทย์มากๆ เพราะน้องแสดงให้เห็นแล้วว่าทำไมทีมถึงวางใจให้เขาลงเล่น ด้วยการสร้างประโยชน์ทุกๆ เกมที่ลงสนาม และที่สำคัญมี 1 ประตูมาจากแฟนๆ เรียบร้อยแล้วด้วย
และอีกหนึ่งจุดแข็งที่เห็นจากฟอร์มของ บียู ใน 4 เกมแรกคือการหมุนเวียนตัวผู้เล่นที่ทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะแดนกลางที่แม้จะมีตัวเจ็บ , เล่นไม่ออก แต่พวกเขาก็จัดการกับปัญหานี้ได้หมด เพราะตลอด 4 เกมที่ผ่านมา โฮโซไก เคยโรเตชั่นเป็นตัวสำรองมาแล้ว, แอนโธนี่ เจ็บก็มี ทศวรรษ ลงมาสแตนบายแล้วก็เล่นได้ดี หรือแม้แต่บางนัดในช่วงท้ายๆ ยังมี สรรวัชญช์ ที่ลงมาช่วยเพิ่มมิติเกมอีกคน
เรียกได้ว่าตลอด 4 เกมที่ผ่านมา บียู ดูดีขึ้นและดูครบเครื่องมากกว่าเดิม แต่แฟนๆ อย่าเพิ่งดีใจมากไป เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนเรื่องแบบนี้มาแล้ว ...
โดยเฉพาะการลุ้นแชมป์ลีกที่ต้องใช้ความสม่ำเสมอในการเล่นตลอด 30 เกม ซึ่งนี่เพื่งจะผ่านไปแค่ 4 เกมเท่านั้นเองยังมีอีกตั้ง 26 เกมรออยู่ ...
อย่างไรก็ตามด้วยการออกสตาร์ทที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ ทีมงานขอบสนามบอลไทย เชื่อว่า มาโน่ โพลกิ้ง และพลพรรค แข้งเทพ น่าจะมั่นอกมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิมไม่มากก็น้อยสำหรับการไล่ล่าแชมป์ไทยลีกในปีนี้ !!!
บทความโดย : เจษดาพร ศรีสรง (บอลกูรู)