logo-heading

มาส่อง 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 ว่ามีลีกไหนบ้างกัน

9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 9 บราซิล เซเรีย เอ (22 ล้านปอนด์) ตลาดรอบนี้ ลีกที่แข็งแกร่งที่สุดในอเมริกาใต้ อย่างบราซิล เซเรีย เอ กลับคึกคักในตลาดนักเตะ อย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งน่าจะเป็นผลมาจากทีมชาติของพวกเขาทำผลงานได้ดี รวมถึงทีมยักษ์ใหญ่ในลีก มีผลงานที่ดีในฟุตบอลถ้วย โคปาลิเบอร์ตาตอเรส ทำให้มีนักเตะดัง ตบเท้าเข้าสู่ลีกบราซิล ทั้ง กาเบียล บาร์โบซ่า หรือ กาบิโกล อดีตดาวรุ่งชื่อดัง ที่ย้ายกลับแบบยืมตัว ด้วยค่ายืม 1.5 ล้านปอนด์ จากอินเตอร์ มิลาน สู่รังเก่า อย่าง ซานโตส ส่วน เนเน่ อดีตดาวเตะที่เคยลงเล่นให้ทีมดังทั้งโมนาโก และปารีส แชงต์ แชร์กแมงต์ ก็ย้ายไปอยู่กับ เซา เปาโล ทำให้ลีกบราซิล ในการเปิดตลาดรอบนี้ มียอดใช้จ่ายรวมถึง 22 ล้านปอนด์เลยทีเดียว 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 8 เดอะแชมเปี้ยนส์ชิพ อังกฤษ (25 ล้านปอนด์) ไม่น่าเชื่อว่า ลีกรองของอังกฤษ จะมียอดใช้จ่ายแซงหน้า ลีกสูงสุด ลีกอื่นๆของยุโรป ทำให้เห็นว่าความเข้มข้น ของเดอะแชมเปี้ยนส์ชิพ ที่แต่ละทีมต่างต้องการขึ้นไปเล่นในพรีเมียร์ลีก นั้นสำคัญขนาดไหน เริ่มต้นด้วย อดัม ฟอร์ชอว์ กองกลางของโบโร่ ที่ย้ายสู่ลีดส์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวที่สูงที่สุดของเดอะแชมเปี้ยนส์ชิพ ที่ราคา 5 ล้านปอนด์ ส่วน ไซรัส คริสตี้ แบ็คขวาจาก โบโร่ เช่นกัน ก็ย้ายไปฟูแล่ม ด้วยราคา 3.5 ล้านปอนด์ หรือจะดาวรุ่งอย่าง ราฟาเอล เมียร์ กองหน้าชาวสเปน ที่วูล์ฟ แย่งตัวมาจาก เรอัล มาดริด ได้สำเร็จ ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ น่าจะบ่งบอกได้ว่าลีกรองของอังกฤษนั้น เข้มข้นไม่น้อย 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 7 กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี (25 ล้านปอนด์) ค่อนข้างเงียบเหงา สำหรับกัลโช่เซเรีย อา ในการเปิดตลาดรอบนี้ โดยเฉพาะทีมยักษ์ใหญ่ ที่ไม่ทุ่มเงินดึงแข้งบิ๊กเนมซักเท่าไหร่ จะมีแค่ ปิเอร์โตร เปเญกรี กองหน้าดาวรุ่งของเจนัว ที่ย้ายออกไปโมนาโก ด้วยค่าตัวสูงถึง 16 ล้านปอนด์ เท่านั้น แต่ก็เป็นการขายออกไปซะมากกว่า ด้านแบ็คญี่ปุ่น ยูโตะ นากาโตโมะ ของอินเตอร์ ก็ย้ายไปยืมตัวกับกาลาตาซาราย ส่วนนักเตะเข้า ก็ไม่บิ๊กเนมเท่าไหร่ เมื่อ อินเตอร์ ดึง 2 แข้งแบบยืมตัว ทั้ง ราฟินญ่า อคันทาร่า ที่ยืมมาจากบาร์ซ่าฯ กับ ลิซานโดร โลเปซ เซ็นเตอร์ดาวรุ่งจากเบนฟิก้า เท่านั้น ที่พอจะคุ้นหูบ้าง 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 6 ปรีเมร่า ลีกา อาร์เจนติน่า (40 ล้านปอนด์) ลีกของ อเมริกาใต้ ยังมาแรงจริงๆ เพราะพรีเมียร่า ลีกา ของอาร์เจนติน่า รอบนี้ ใช้เงินกันถึง 40 ล้านปอนด์ นำโดย ลูคัส พราตโต้ ดาวยิงที่เคยติดทีมชาติฟ้า ขาวชุดใหญ่มาแล้ว ที่ย้ายกลับมาจากเซา เปาโล ในบราซิล มาร่วมทีม ริเวอร์เพลท ด้วยค่าตัวถึง 8 ล้านปอนด์ แพงที่สุด ในปีนี้ ต่อด้วย บรูโน่ ซูคูลืนี่ ที่ริเวอร์เพลท ดึงกลับมาจาก ฮัลลาส เวโรน่า ด้วยค่าตัว 2 ล้านปอนด์ ส่วน ลูคัส บาริออส อดีตดาวยิงดอร์ทมุนด์ ก็มาร่วมทัพ อาร์เจนติโนส จูเนียร์ ทำให้ลีกอาร์เจนติน่า ปีนี้ น่าติดตามสุดๆ 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 5 ลีก เอิง ฝรั่งเศส (50 ล้านปอนด์) ค่อนข้างเงียบเหงา ผิดหูผิดตา เมื่อลีก เอิง ที่นำโดยปารีส แซงต์ แชร์กแมงต์ ทีมจอมทุ่ม เปิดตลาดรอบนี้ ทั้งลีก กลับใช้เงินไปแค่ 50 ล้านปอนด์เท่านั้น โดยคนที่ดูแพงก็คือ ปิเอโตร เปเญกรี ที่โมนาโก ซื้อมาจาก เจนัว ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์ ส่วน ลาสซาน่า ดิยาร์ร่า ย้ายมาเปแอสเช แบบฟรี ๆ แรนส์ ก็ดึง ดิยาฟรา ซาโก้ จากเวสต์แฮม มาร่วมทัพ ที่ราคา 8 ล้านปอนด์ และที่ฮือฮา คือ 3 นักเตะดัง อย่าง มาติเยอ เดบูชี่ ,เนเว่น ซูโบติช และยานน์ เอ็มวีล่า ย้ายมา แซงก์ เอเตียน แบบฟรีๆ ไม่น่าเชื่อ 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 4 ไชนีซ ซุปเปอร์ลีก จีน (54 ล้านปอนด์) ลีกจอมทุ่มอยู่แล้วในระยะหลัง สำหรับไชนีซ ซุปเปอร์ลีก ที่เปิดตลาดหนาวนี้ ทะยานมารั้งอันดับ 4 แบบไม่น่าแปลกใจ ทั้งยอดทุ่มซื้อ เซเดริก บากัมบู ที่ได้มาจากบียาร์เรอัล ด้วยราคาถึง 35 ล้านปอนด์ มาเล่นให้ปักกิ่ง กั๋วอัน พร้อมออปชั่นต่าง ๆ ที่จะทำให้ค่าตัวพุ่งขึ้นอีกเท่าตัว หรือ บิ๊กเนมอย่าง ฮาเวียร์ มาสเชราโน่ ที่ย้ายจากบาร์ซ่า ตรงมาที่ เหอเป่ย ไชน่า ในราคา 4 ล้านปอนด์ อากุสโต้ เฟอนานเดซ ย้ายจาก แอต.มาดริด มาปักกิ่ง เรินเหอ 3 ล้านปอนด์ และแฟรงค์ อาเชียมปง อดีตดาวเตะบุรีรัมย์ ก็ย้ายจากอันเดอร์เลช ในเบลเยียม มาร่วมทัพ เทียนจิน แบบถาวร ด้วยราคา 3.5 ล้านปอนด์ ทำให้ลีกจีน ทะยานมียอดใช้จ่ายแซง กัลโช่ อิตาลี และลีกเอิง ฝรั่งเศส ไปแล้ว 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 3 บุนเดสลีกา เยอรมัน (64 ล้านปอนด์) ยังรักษามาตรฐานไว้ได้ สำหรับลีกสูงสุดของเยอรมัน เมื่อรวมกันทุ่มซื้อนักเตะถึง 64 ล้านปอนด์ นำโดย บาเยิร์น ที่ดึง ซานโดร ว๊ากเนอร์ มาจากฮอฟเฟ่นไฮม์ ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ หรือ ดอร์ทมุนด์ ที่ดึง มานูเอล อคานจิ มาจากบาเซิ่ล ด้วยสนนราคา 18 ล้านปอนด์ สวนทางด้วยการปล่อย ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง ไปอาร์เซ่น่อล ด้วยสถิติขายแพงสุดในสโมสร ที่ราคา 56 ล้านปอนด์ พร้อมยืม มิชชี่ บาตชัวญี่ ดาวยิงจากเชลซี มาแทนที่ ปิดท้ายด้วย มาริโอโกเมซ ที่ย้ายกับไปอยู่กับสตุ๊ทการ์ท ทีมแจ้งเกิด ด้วยราคา 3 ล้านปอนด์ เท่ายอดรวม ใช้จ่ายกันไปประมาณ 64 ล้านปอนด์ ด้วยกัน 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 2 ลา ลีกา สเปน (243 ล้านปอนด์) ทิ้งขาดอันดับ 3 แบบชัดเจน และสูงแบบไม่เคยเป็นมาก่อน สำหรับตลาดช่วงกลางฤดูกาล สำหรับ ลาลีกา สเปน ทีมยักษ์ใหญ่ประจำลีก บาร์เซโลน่า ทุ่มไม่ยั้ง ดึง ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ มาจากลิเวอร์พูล ด้วยราคา 142 ล้านปอนด์ บวกกับ เยอร์รี่ มิน่า กองหลังเท้าเปล่า จากพัลไมรัส ที่ราคา 10 ล้านปอนด์ ทำให้ยอดซื้อพุ่งสูงที่สุด ส่วน บาเลนเซีย ซื้อ ฟรองซิส โกเกแล็ง มาจากอาร์เซน่อล ที่ราคา 12 ล้านปอนด์ หรือจะเป็น แอธเลติก บิลเบา ดึง อินิโก้ มาร์ติเนซ มาจากเรอัล โซเซียดาด เพื่อนร่วมลีก ที่ราคา 28 ล้านปอนด์ ปิดท้ายที่เรอัล เบติส ดึง มาร์ก บราตร้า กลับมาสเปน อีกครั้ง ด้วยค่าตัว 9 ล้านปอนด์ เกือบทั้งหมดนี้ ทำให้ลาลีกา สเปน ใช้จ่ายเงินเป็นอันดับ 2 แบบไม่มีข้อโต้แย้ง 9 อันดับลีกจอมทุ่ม ประจำตลาดหน้าหนาว 2018 อันดับ 1 พรีเมียร์ลีก อังกฤษ (419 ล้านปอนด์) แน่นอนอันดับ 1 ต้องเป็นพรีเมียร์ลีก อย่างแน่นอน การใช้เงินรวม 419 ล้านปอนด์ เป็นปรากฎการณ์แบบที่ ต้องบันทึกไว้ และไม่น่าจะมีตลาดรจากลีกใดๆในโลกนี้ มาเทียบได้แล้ว ค่าตัวของ เฟอร์จิล ฟานไดค์ ที่ลิเวอร์พูล ดึงมาจาก เซาธ์แฮมป์ตัน ในราคา 75 ล้านปอนด์ ยังคงเป็นราคาของกองหลังที่แพงที่สุดในโลกไปอีกนานแสนนาน หรือจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดึง อายเมอริค ลาปอร์เต้ มาจากบิลเบา ด้วยราคาค่าฉีกสัญญา 57 ล้านปอนด์ อาร์เซน่อล ดึง ปิแอร์ เอเมริก โอบาเมยอง จากดอร์ทมุนด์ ที่ราคา 56 ล้านปอนด์ แพงที่สุดของสโมสร ส่วนเชลซี ก็ซื้อ โอลิวิเย่ ชิรูด์ ที่ราคา 18 ล้านปอนด์ กัล รอสส์ บาร์คลี่ย์ อีก 15 ล้านปอนด์ เอฟเวอร์ตัน ดึง เซ็งก์ โทซุน กับ ธีโอ วัลคอตต์ 2 คนรวมกัน 50 ล้านปอนด์ ปิดท้ายที่สเปอร์ส กับดีล ลูคัส มูร่า และที่ลืมไม่ได้ ดีลสลับขั้วระหว่าง อเล็กซิส ซานเชซ กับ เฮนริค มคิตาร์ยาน ทำให้เกิดกระแสที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะฉะนั้น ทั้งการทุ่มเงินระดับเกือบ 500 ล้านของทุกทีมในพรีเมียร์ลีก รวมถึงฟอร์มของนักเตะใหม่ๆที่น่าติดตาม ทำให้พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เป็นลีกที่ สนุกที่สุดในโลก
logoline