logo-heading

ส่องเรตติ้งแข้ง ลิเวอร์พูล เปิดรังถล่ม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 3-0 ในศึกชปล.รอบ 8 ทีมนัดแรก

"หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ฟอร์มร้อนแรง เปิดรังแอนฟิลด์ ถล่มเต็ง 2 (จากการจับเจอ ลิเวอร์พูล ทำให้ร่วงมาเป็นเต็ง 2 ) ในรายการนี้อย่าง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปถึง 3-0 โดยที่ทีมเยือนไม่ได้โอกาสยิงเข้ากรอบเลยสักลูกเดียว ลิเวอร์พูล โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เบิกร่อง ก่อน อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน และ ซาดิโอ มาเน่ จะรัวกระสุนใส่เรือใบแบบไม่ยั้ง ปิดกล่องให้ ลิเวอร์พูล คว้าความได้เปรียบมาก่อนในนัดแรก มาดูกันว่าผลสอบของแข้งแต่ละคนในวันนี้จะได้เท่าไหร่กันบ้าง ลิเวอร์พูล โลริส คาริอุส (7) : เกมนี้งานสบาย ลงมายืนทำหน้าหล่อ มีจังหวะออกมาตะครุบบอลให้เห็นบาง ตลอด 90 นาที เรือใบสีฟ้า ไม่สามารถยิงตรงกรอบได้เลย​ ได้คะแนนจิตพิสัยจากการเตะบอลขึ้นหน้าได้ดีหลายจังหวะ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (9) : ได้รับเสียงชื่นชมท่วมท้นในเกมนี้ ความขยันของเจ้าหนูลูกหม้อของทีมรายนี้โดดเด่นสุด ๆ รับมือจัดการลักพาตัว ซาเน่ ได้อย่างอยู่หมัด แก้ตัวได้สำเร็จจากการที่โดนวิจารณ์หนักในเกมที่ผ่านมา วันนี้เขาได้รับการโหวตจากแฟนบอล ลิเวอร์พูล ให้คว้าแมนออฟเดอะแมตช์ ไปครองอีกด้วย เดยัน ลอฟเรน (8) : พบกับงานสบายในครึ่งแรกและเริ่มมีบทบาทมากขึ้นในครึ่งหลัง แต่ก็สามารถป้องกันได้อย่างแข็งแกร่งทำให้แนวรุกของ ซิตี้ ไม่อาจเจาะแดนกลางเข้ามาได้จนต้องถ่างไปขึ้นที่ริมเส้น เฟอร์จิล ฟาน ไดจ์ค (8) : ทำหน้าที่ที่คาดหวังได้อย่างยอดเยี่ยมคู่กับ ลอฟเรน ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค มีจังหวะโหม่งเคลียร์ลูกอันตรายให้เห็น แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (8) : เล่นเกมรับอย่างแข็งแกร่งไม่แสดงอาการเกรงกลัวแนวรุกที่ดุดันของ เรือใบสีฟ้า ให้เห็นเลย แถมยังมีจังหวะกระชากลากเลื้อยพาบอลขึ้นไปยังแดน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้สะเด่าเร้าใจจริง ๆ เจมส์ มิลเนอร์ (9) : ผู้ปิดทองหลังพระแท้จริง ประสบการณ์และความเก๋าของเขาในการช่วยตัดบอล ทำให้ ลิเวอร์พูล มีเกมแดนกลางที่ดูดีกว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เขารับบทผึ้งงานประสานงานร่วมกับ เฮนเดอร์สัน ในแดนกลางได้อย่างโดดเด่น ยืนยันได้จากสถิติการเป็นผู้เล่น หงส์แดง ที่เบียดแย่งบอลเอาชนะได้มากที่สุดของทีมที่ 5 ครั้งและยังทำได้ 1 แอสซิสต์อีกด้วย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน (8) : ต้องยกนิ้วให้กับจังหวะแย่งบอลจาก เดอ บรอยน์ ช่วงต้นเกม ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ปัดกวาดก่อนบอลจะไปถึงแดนหลังซึ่งทำได้ไร้ที่ติ ทว่าใบเหลืองจากเกมนี้ต้องทำให้เขาติดโทษแบนพลาดลงสนามในเลกที่สอง อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน (8.5) : ได้รับเครดิตเต็ม ๆ จากประตูยิงไกลสุดสวยที่เขาทำได้ชนิดที่ เอแดร์ซอน หมดสิทธิ์เซฟ เป็นส่วนหนึ่งในหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนทีมโดยเฉพาะในครึ่งแรก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (8.5) : ดูจะเครื่องร้อนช้าไปสักนิดแต่เมื่อเข้าที่แล้วก็ไม่มีอะไรจะหยุดเขาได้ เป็นคนเบิกประตูแรกให้กับทีมและแอสซิสต์ลูกปิดท้ายให้กับ มาเน่ ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกในครึ่งหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ (8) : อาจจะไม่ได้รับการพูดถึงเหมือนกับแนวรุกอีกสองคนแต่ ฟีร์มิโน ก็คือหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าชัยชนะอย่างถล่มทลายในเกมนี้ เป็นแข้งที่คอยหาพื้นที่เชื่อมบอลในแดนหน้าและมีส่วนอย่างยิ่งกับประตูแรกของทีม ซาดิโอ มาเน่ (8) : ประตูของเขาอาจจะไม่หวือหวาเท่ากับของ ซาลาห์ หรือของ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่านี่คืออีกหนึ่งเกมที่ยอดยเยี่ยมของ มาเน่ รับภาระหนักในแดนหน้าเมื่อสตาร์ชาว อียิปต์ กับ ฟีร์มิโน่ ถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามและทำเพื่อทีมได้ดี ตัวสำรอง : จอร์จินโญ่ ไวจ์นัลดุม (7) : ต้องใช้เวลาปรับตัวให้เข้ากับสปีดเกมอยู่บ้าง มีข้อผิดพลาดบางจังหวะ แต่โดยรวมทำได้ดี โดมินิค โซลันกี้ (6) : ได้โอกาสสวนกลับเข้าพื้นที่อันตรายได้ 1 ครั้ง และน่าจะผ่านบอลให้ มาเน่ ได้ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตามเวลาในสนามเขาก็น้อยเกินไปที่จะโชว์ผลงาน โดยรวมทำได้ไม่เลว อัลแบร์โต้ โมเรโน่ (N) : ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเพื่อเสริมแนวรับปิดเกม เวลาในสนามน้อยเกินที่จะให้คะแนน
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอแดร์ซอน โมราเอส (6) : วันนี้ทำงานหนักมากกับการต้องรับมือลูกยิงที่คมกริบของแนวรุก ลิเวอร์พูล แม้จะพยายามอย่างเต็มที่ท้ายที่สุดก็โดนไปถึง 3 ประตู ชนิดที่หมดโอกาสเซฟ ก็ไม่ใช่ความผิดของเขาทั้งหมด ช่างน่าสงสารจริง ๆ ที่วันที่แผงหลังปั้นเอา ๆ ไคล์ วอล์คเกอร์ (4) : หวือหวาในช่วง 10 นาทีแรก หลังจากนั้นก็โดนเล่นงาน และพอเวลาขึ้นเกมรุกก็มีหลุดตำแหน่งให้เห็น ไม่ประกบ มาเน่ ทำให้เป็นที่มาของการเสียประตูที่ 3

แวงซองต์ กอมปานี (5) : ประสบการณ์ของเขาไม่มีประโยชน์มากนักในเกมนี้ เปิดช่องว่างให้ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลด ได้ส่องไกลจนเสียประตู แต่ก็ถือได้ว่าทำได้ดีที่สุดแล้วในแนวรับ 

นิโคลัส โอตาเมนดี้ (3) : อาจจะยังคงเป็นคำถามว่า โอตาเมนดี้ นี่เป็นแนวรับที่ดีที่สุดในชุดนี้ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จริง ๆ หรือ วันนี้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน

เอมเมอริค ลาป๊อร์กต์ (4.5) : เอา ซาลาห์ ไม่อยู่ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาไม่สามารถลงเล่นในฐานะแบ็คซ้ายได้ในบิ๊กเกมแบบนี้ เควิน เดอ บรอยน์ (6) : โดนลักพาตัวหายไปจากเกมในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังเขาทำได้ดีขึ้น มีบทบาทขึ้นมา แต่ก็ไม่เพียงพอที่จะช่วยทีมคว้า อเวย์โกล

แฟร์นานดินโญ่ (5) : วันนี้ไม่สามารถเอาชนะ เจมส์ มิลเนอร์ ได้เลย ตลอดทั้งเกมไม่สามารถเก็บบอลได้ มีแค่ช่วงท้ายครึ่งหลัง ที่พอมีบทบาทขึ้นมาบ้าง

ดาบิด ซิลบา (6) : หวือหวาแค่ช่วง 10 นาทีแรก ที่ช่วย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกกดดันใส่ ลิเวอร์พูล เจ้าถิ่นอย่างหนักหน่วง แต่หลังจากนั้น คงเป็นเกมที่ให้เขาหงุดหงิดไม่น้อย ไม่สามารถเล่นเกมที่ตัวเองได้อย่างอิสระแล้ว วันนี้โดนประกบติดเลยทีเดียว

อิลคาย กุนโดกัน (3) : ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะถูกเปลี่ยนออกไปในเกมนี้ ทำอะไรไม่ได้เลย เหมือนลงไปให้ครบ 11 ตัวเท่านั้น

กาเบรียล เชซุส (4.5) : ทำได้ดีในครึ่งหลัง อย่างไรก็ตามประสบการณ์ยังน้อยในเวทีใหญ่ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่จนโดนใบเหลือง

เลรอย ซาเน่ (5.5) : 10 นาทีแรกของเกม เติมเกมรุกได้สะเด่ามาก แต่หลังจากนั้นชื่อของเขาก็ค่อย ๆ หายไป จนถูกลักพาตัวไปในที่สุด วันนี้ไม่ใช่วันของเขาเลย

ตัวสำรอง : ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (5) : ลงมาก็ทำอะไรได้ไม่มาก โดนจับตาย แต่ก็มีจังหวะกระชากลากเลื้อยให้เห็น อย่างน้อยเขาก็มีประโยชน์กว่า กุนโดกัน ที่อยู่ในสนามมากกว่าเขาในเกมนี้  
logoline