ศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรกผ่านไปอีก 1 วัน (4 เมษายน) คู่ของ บาร์เซโลน่า กับ โรม่า นั้นอาจจะดูไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคอบอลเทียบเท่ากับคู่ ลิเวอร์พูล และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่าไหร่ แต่ผลการแข่งขันที่เกิดขึ้นออกมานั้นก็เป็นสกอร์ที่น่าตื่นตาตื่นใจไม่แพ้กัน
ชัยชนะของ บาร์เซโลน่า 4-1 มีการทำเข้าประตูตัวเองถึง 2 ลูกโดยผู้เล่นของ โรม่า จาก ดานิเอเล่ เด รอสซี่ และ คอสตาส มาโนลาส ก่อน เคราร์ด ปิเก้ และ หลุยส์ ซัวเรซ จะมากดกันอีกคนละประตู ส่วนทาง โรม่า ก็ได้ประตูอเวย์โกล์ปลอบใจไปเหมือนกันจาก เอดิน เชโก้ จากสกอร์ที่เกิดขึ้นทำให้ บาร์เซโลน่า กุมความได้เปรียบเอาไว้มากในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และขณะเดียวกันก็นำมาซึ่งสถิติต่างๆ และเรื่องที่น่ารู้มากมาย
- บาร์เซโลน่า เอาชนะได้ถึง 20 จาก 21 เกมหลังสุดในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ คัมป์ นู
- โรม่า เสียไปถึง 11 ประตูจากเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 นัดหลังสุดที่บุกไปเยือน บาร์เซโลน่า ที่ คัมป์ นู ซึ่งมากกว่าทุกๆ ทีมที่อยู่ในการแข่งขันเดียวกัน
- โรม่า เป็น 1 ใน 3 ทีมที่สามารถเจาะตาข่าย บาร์เซโลน่า ได้ที่ คัมป์ นู ในช่วงการลงเล่น 10 นัดหลังสุดร่วมกับ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง และ โอลิมเปียกอส
- การทำเข้าประตูตัวเองของ คอสตาส มาโนลาส นับเป็นประตูที่ 13 ที่ บาร์เซโลน่า ได้ผลพวงจากคู่แข่งใน แชมเปี้ยนส์ ลีก มีเพียงแค่ เรอัล มาดริด เท่านั้นที่ได้ผลพวงมากกว่าที่ 15 ประตู
- โรม่า สร้างสถิติเป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาสตร์ แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ทำเข้าประตูตัวเอง 2 ลูกใน 1 เกม และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ กาลาตาซาราย ทำได้ในเกมกับ แอสตาน่า ช่วงเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2015
- อันเดรส อิเนียสต้า ได้ลงเล่นในเกม แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้ายเป็นครั้งที่ 21 ทำสถิติเทียบเท่ากับ ไรอัน กิ๊กส์ และ ชาบี เอร์นานเดซ
- จากประตูของ เคราร์ด ปิเก้ ที่เกิดขึ้นนั้นทำให้เขาเป็นกองหลังที่ยิงประตูไปแล้ว 12 ลูกใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งมีเพียงแค่ โรแบร์โต้ คาร์ลอส และ อิบัน เอลเกร่า ที่ทำได้มากกว่าที่ 16 และ 15 ประตูตามลำดับ
- เอดิน เชโก้ มีส่วนร่วมถึง 58 เปอร์เซนต์ จาก 12 ประตูที่ โรม่า ยิงได้ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลนี้ (ยิงได้ 5 แอสซิสต์ 2)
- ประตูของ หลุยส์ ซัวเรซ นั้นนับเป็นการยิงได้ใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ลูกแรกจากโอกาสการยิงก่อนหน้านี้ 30 ครั้งที่ไม่เข้าเลย
