logo-heading

ถ้าพูดถึงสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตอนนี้แฟนบอลหลายคนคงพุ่งเป้าไปที่ความเก่งกาจ และความสำเร็จที่ในยุค 10 ปีหลังสุดที่พวกเขาครองความสำเร็จในเกาะอังกฤษไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงเหล่าแข้งชื่อดังที่เข้ามามีส่วนร่วมกับความยิ่งใหญ่ของสโมสร

แต่ทว่าเมื่อมองย้อนกลับไปก่อนที่ "เรือใบสีฟ้า" ลำนี้จะโลดแล่นได้อย่างฉลุย และมียอดนักฟุตบอลในทีมแบบตอนนี้ พวกเขาเคยผ่านการคัดกรองเหล่าแข้งชื่อดังมาแล้วหลายคน มีทั้งแจ้งเกิดได้ และต้องเก็บกระเป๋าออกจากทีมไป ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราในวันนี้เลยจะนำเสนอ 8 แข้งชื่อดังที่แฟนบอล (อาจจะ) ไม่เคยรู้มาก่อนว่าครั้งนึงเคยเป็นสมาชิกของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งจะมีใครกันบ้าง ไปติดตามกันได้เลย

ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

หัวหอกวัย 30 ปี เคยผ่านการค้าแข้งกับทัพ "เรือใบสีฟ้า" มาแล้วในช่วงปี 2006-09 ซึ่งถือว่าเป็นทีมสโมสรระดับอาชีพทีมแรกของเจ้าตัวอีกด้วย โดย สเตอร์ริดจ์ ย้ายมาเป็นสมาชิกของ แมนฯ ซิตี้ เมื่อปี 2003 ด้วยวัยเพียง 14 ปี เท่านั้น ก่อนที่จะค่อยๆ ไต่เต้าขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ได้ในที่สุด ซึ่งผลงานของเจ้าตัวกับทีมนั้นลงสนามไปทั้งสิ้น 32 นัด ซัด 6 ประตู กับทำอีก 4 แอสซิสต์ ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพ เชลซี ในช่วงปี 2009 และประสบความสำเร็จคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 1 สมัย และเอฟเอคัพ 2 สมัย นอกจากนั้นเจ้าตัวยังคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครองได้อีก 2 สมัย ในฤดูกาล 2011-12 กับ เชลซี และล่าสุดซีซั่น 2018-19 กับ ลิเวอร์พูล โดยปัจจุบันเจ้าตัวย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับสโมสร แทร็บซอนสปอร์ ในลีกประเทศตุรกี และยังคงมีผลงานที่ยอดเยี่ยมจากการยิงไปแล้ว 7 ประตู จากการลงสนามทุกรายการ 16 นัด 8 แข้งที่คุณ (อาจจะ) ไม่รู้ว่าเคยร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ มาก่อน

แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล

จะบอกว่านี่เป็นนายทวารที่ แมนฯ ซิตี้ ปลุกปั้นขึ้นมาเลยก็ว่า เพราะได้ย้ายมาร่วมทีมเมื่อปี 2002 ด้วยวัยเพียง 16 ปี เท่านั้น จากสโมสร เอสโตริล ในประเทศโปรตุเกส ก่อนที่จะถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2005 แต่ทว่าก็ไม่ได้รับโอกาสมากนัก จึงถูกปล่อยยืมไปสู่หลายสโมสรไม่ว่าจะเป็น ดาร์ลิ่งตัน, บิวรี่, ฟัลเคิร์ก, คาร์ดิฟฟ์ และโคเวนทรี ก่อนที่จะถูกปล่อยออกจากทีมแบบถาวรในปี 2009 รวมแล้วลงสนามในสีเสื้อ "เรือใบสีฟ้า" ไปทั้งสิ้น 10 นัด ซึ่งภายหลังออกจาก ซิตี้ เจ้าตัวก็ย้ายไปค้าแข้งกับ น็อต เคาน์ตี้ และลีดส์ ยูไนเต็ด ก่อนจะมาร่วมทัพ เลสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาล 2011-12 และประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก สมัยแรกของสโมสรเมื่อซีซั่น 2015-16 และคว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในปีถัดมา นับจนถึงตรงนี้เจ้าตัวก็ยังคงค้าแข้งกับทัพ "สุนัขจิ้งจอก" อยู่เหมือนเดิม และเข้าขั้นเป็น 1 ในตำนานของสโมสรไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

เดนิส ซัวเรซ

เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนไม่รู้ว่า เดนิส ซัวเรซ เคยเป็นหนึ่งในขุนพลของ แมนฯ ซิตี้ มาก่อน โดยเรื่องดังกล่าวมันเกิดขึ้นเมื่อปี 2011 ที่ทาง "เรือใบสีฟ้า" ไปดึงตัวดาวเตะชาวสเปนมาจาก เซลต้า บีโก้ ด้วยความหวังที่จะนำมาปลุกปั้นให้กลายเป็นมิดฟิลด์ที่ยอดเยี่ยมให้ได้ แต่ทว่าในช่วงเวลา 2 ปี ที่ แมนเชสเตอร์ มิดฟิลด์รายนี้แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย โดยมีเวลาอยู่ในสนามเพียง 85 นาที ในบอลถ้วยอย่างลีก คัพ ก่อนที่จะย้ายกลับไปเล่นในสเปนร่วมทัพ บาร์เซโลน่า ซึ่งภายหลังจากนั้นเจ้าตัวก็ย้ายไปเล่นให้กับ เซบีย่า (ยืมตัว), บียาร์เรอัล, บาร์เซโลน่า และถูกปล่อยยืมมาร่วมทัพ อาร์เซน่อล เมื่อช่วงฤดูกาลที่ผ่าน ส่วนล่าสุดเจ้าตัวย้ายกลับไปร่วทัพอดีตสโมสรเก่าอย่าง เซลต้า บีโก้  เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยค่าตัว 12.9 ล้านยูโร และได้กลายเป็นกองกลางตัวหลักของทีมเป็นที่เรียบร้อย 

อาเดรียง ราบิโอต์

น้อยคนมากจะรู้ว่าเส้นทางการค้าแข้งของ ราบิโอต์ สมัยเป็นนักเตะเยาวชนเคยแวะเวียนมาร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ แต่ทว่ามันเป็นเพียงช่วงเวลาที่สั้นเอามากๆ ในช่วงขวบปี 2008 ก่อนที่จะถูกปล่อยออกไปจากทีม และไม่ได้ถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่แต่อย่าง ก่อนที่จะไปแจ้งเกิดกับ เปแอสเช ในช่วงปี 2012 คว้าแชมป์ลีก เอิง 6 สมัย, เฟร้นช์ คัพ  4 สมัย และเฟร้นช์ ลีกคัพ 5 สมัย ปัจจุบันเจ้าตัวย้ายไปร่วมทัพ ยูเวนตุส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภายหลังหมดสัญญากับทางแชมป์จากแดนน้ำหอม รวมแล้วฤดูกาลนี้ ราบิโอต์ ลงสนามให้ทัพ "ม้าลาย" ไปแล้วทั้งสิ้น 24 นัด (ตัวจริง 14 นัด) แต่ยังไม่สามารถเบิกสกอร์แรกกับทีมใหม่ของเขาได้เลย 8 แข้งที่คุณ (อาจจะ) ไม่รู้ว่าเคยร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ มาก่อน

ลอริส คาริอุส

หนึ่งในผลผลิตเยาวชนของ "เรือใบสีฟ้า" ภายหลังฉกตัวมาร่วมทัพด้วยวัยเพียง 16 ปี จาก สตุ๊ดการ์ด โดยทีมเอามาปลุกปั้นอยู่นานถึง 2 ปี แต่ทว่าไม่อาจพุ่งทะยานขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้ ทำให้ต้องย้ายกลับไปที่เยอรมันกับ ไมนซ์ 05 และที่นั้นเองที่ทำให้เจ้าตัวได้รับโอกาสลงสนามในทีมชุดใหญ่ ก่อนจะเป็นที่รู้จักของแฟนบอลมากขึ้นเมื่อได้ย้ายมาร่วมทัพ ลิเวอร์พูล เมื่อปี 2016 โดยปัจจุบัน คาริอุส ถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับ เบซิคตัส ทีมในลีกตุรกียืมตัวเป็นจำนวน 2 ฤดูกาลติดแล้ว และยังคงเป็นเครื่องหมายคำถามว่าถ้าหมดสัญญายืมตัว จะกลับมายังต้นสังกัดแม่อย่าง ลิเวอร์พูล หรือย้ายไปร่วมทีมไหนเป็นสถานีต่อไป

คีแรน ทริปเปียร์

เด็กฝึกหัดของ แมนฯ ซิตี้ ขนานแท้ตั้งแต่ครั้งวัยเยาว์ โดย ทริปเปียร์ ได้ย้ายเข้าสู่อคาเดมี่ของทีมตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี ก่อนที่จะฝึกปรือจนฝีเท้าพัฒนาขึ้นมา แต่ทว่าไม่อาจแทรกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ เลยทำให้ต้องถูกปล่อยยืมตัวออกไป 3 ฤดูกาลติดต่อกัน โดยเป็น เบิร์นลี่ย์ ที่ได้สัมปทานยาวทั้ง 3 ปี ก่อนที่จะได้ตัวไปร่วมทัพแบบถาวรในปี 2012 ซึ่งสามารถพูดได้เต็มปากเช่นกันว่า ทริปเปีย เติบโตจาก แมนฯ ซิตี้ แต่แจ้งเกิดกับทาง เบิร์นลี่ย์ โดยเจ้าตัวค้าแข้งกับทีมอยู่นานถึง 5 ปี รวมในรูปแบบยืมตัว ก่อนที่จะได้ย้ายไปยังสโมสรที่ใหญ่กว่าอย่าง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทำให้เส้นทางของเขาดูเหมือนจะยอดเยี่ยมมากขึ้น ทั้งก้าวไปติดทีมชาติอังกฤษ และกลายเป็นแบ็คขวาเบอร์ต้นๆ ของลีกอังกฤษ ล่าสุดเจ้าตัวได้ย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆ กับ แอต.มาดริด ในลาลีกา สเปน และสถาปนาตัวเองเป็นแบ็คขวาตัวจริงของทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ปาโบล มารี

ปราการหลังใหม่ป้ายแดงของ อาร์เซน่อล ที่ครั้งนึงเคยแวะเวียนมาสวมเสื้อของ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งก็แค่แวะมาสวมเสื้อจริงๆ เพราะไม่ได้โอกาสลงสนามเลยสักวินาทีเดียวนับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีมในช่วงปี 2016-19 โดยก่อนหน้าที่จะมาย้ายอังกฤษ มารี ค้าแข้งอยู่ในสเปนกับ เรอัล มายอร์ก้า, กิมนาสติก และด้วยฟอร์มที่ยอดเยี่ยมทำให้ไปเตะตาแมวมองของทีมจึงได้ย้ายมาเป็นสมาชิก "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งระหว่างอยู่ในสัญญากับทาง แมนฯ ซิตี นั้นก็ถูกปล่อยยืมตัวไป คิโรน่า, เอ็นเอซี เบรด้า และลา คอรุนญ่า  ก่อนย้ายกลับบราซิลไปร่วมทัพ ฟลาเมงโก้ และย้ายกลับมาที่ดินแดนผู้ดีอีกครั้งในรูปแบบยืมตัวกับ "ไอ้ปืนใหญ่" 8 แข้งที่คุณ (อาจจะ) ไม่รู้ว่าเคยร่วมทัพ แมนฯ ซิตี้ มาก่อน

จาดอน ซานโช่

ต้องบอกว่านี้เป็นหนึ่งในแข้งที่ แมนฯ ซิตี้ อาจจะต้องเสียดายที่สุดที่ปล่อยให้หลุดออกจากเงื้อมมือของพวกเขาไป เพราะผลงานในตอนนี้ของ ซานโช่ กับ ดอร์ทมุนด์ เรียกได้ว่าร้อนแรงเกินห้ามใจ และสุดในเหล่าบรรดาแข่งรุ่นราวคราวเดียวกันทั้งหมด โดยครั้งนึงแข้งวัย 20 ปี เคยเป็นเด็กฝึกหัดของ แมนฯ ซิตี้ มาก่อนในช่วงระหว่างปี 2015-17 ภายหลังไปดึงมาจากอคาเดมี่ของ วัตฟอร์ด แต่ทว่าด้วยความที่สตาร์ของพวกเขาล้นทีมทำให้โอกาสในทีมชุดใหญ่ไม่อาจตกมาถึง ซานโช่ เพราะฉะนั้นการย้ายทีมจึงเกิดขึ้น ค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ที่ ดอร์ทุมนด์ ควักกระเป๋าจ่ายไปในตอนนั้นอาจดูแพงกับเด็กอายุเพียง 17 ปี ที่ยังไม่ได้มีผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ผลงานในสนาม ณ ตอนนี้ และที่ผ่านมา มันสามารถบ่งบอกได้เลยว่าราคาดังกล่าวนั้นมันถูกอย่างกับได้ฟรีๆ และไม่ใช่เรื่องแปลกที่ถ้าสมมติมีการย้ายสโมสรครั้งต่อไปของเขาค่าตัวจะพุ่งทะยานไปแตะระดับโลก เพราะจากฝีเท้าระดับพรสวรรค์แบบนี้ทีมไหนก็อยากจะได้ตัวไปครอบครอง
logoline