logo-heading
ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้คอบอลหลายท่านคิดถึงการแข่งขันฟุตบอลเหลือเกิน เป็นเวลาเกือบ 3 สัปดาห์ ที่การแข่งขันฟุตบอลีกดังถูกเลื่อนออกไป และยังไม่รู้ว่าจะกลับมาได้อีกครั้งเมื่อไหร่ ส่วนช่วงนี้ประชาชนก็อยู่ในระว่างการกักตัวตัวเองอยู่กับบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงในกรแพร่ระบาดของไวรัสมากที่สุด ถือเป็นวิกฤตใหญ่ร้ายแรงที่เกิดขึ้นในโลกของเราปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ทุกคน ซึ่งถ้าเกิดไม่มีการแพร่ระบาดของโรคนี้ เราคงยังใช้ชีวิตกันปกติ เช่นเดียวกับการแข่งขันฟุตบอล ซึ่งหากไม่มีไวรัสแต่ละลีกคงยังแข่งขันกันต่อไปและมีเรื่องที่ให้น่าจดจำไม่น้อย วันนี้เราจะพาทุกท่านไปชมกันว่าหากไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัส 5 ลีกใหญ่ของยุโรปในวันนี้จะเป็นอย่างไร 1. ลีกเอิง ฝรั่งเศส ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คงจะนำห่างอันดับที่ 2 อย่าง มาร์กเซย อยู่อย่างน้อย 15 แต้ม ซึ่งในปัจจุบันพวกเขาแข่งน้อยกว่า มาร์กเซย 1 นัด นำห่างอยู่ 12 แต้ม จากการแข่ง 27 เกม ก่อนหน้าที่จะมีการประกาศเลื่อนการแข่งขัน พวกเขามีคิว เปิดรังต้อนรับการมาเยือนของ นีซ, บุกไปเยือน สตราส์บูร์ก รวมถึงตัดแต้มกับ มาร์กเซย หากยังคงแข่งขันกันอยู่ พวกเขาก็น่าจะนำขาดอย่างน้อย 15 แต้ม เพราะดูจากเกมตามคิว ไม่นับตัดแต้มกับ มาร์กเซย ก็ไม่ใช่งานยากที่พวกเขาจะคว้า 1 ถึง 3 แต้ม จากการพบ นีซ และ สตราส์บูร์ก พวกเขาคงขยับเข้าใกล้แชมป์ ลีกเอิง อีกสมัยเข้าไปทุกที นอกเหนือจากการล่าแต้มแล้ว คีเลียน เอ็มบัปเป้ คงทำประตูหนีห่าง วิสซาม เบน เยแดร์ ดาวยิง โมนาโก ไปได้อีก เพื่อโอกาสในการคว้าดาวซัลโวประจำฤดูกาล ซึ่งทั้ง 2 กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ในเวลานี้ โดยทำประตูเท่ากันอยู่ที่ 18 ประตู 2. บุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นอีกปีที่ บุนเดสลีกา สนุกไม่น้อย การขับเขี่ยวอันดับบนตารางคะแนนยังคงเข้มข้น แม้ว่าปัจจุบัน บาเยิร์น มิวนิค จะนำจ่าฝูงตารางคะแนน แต่แต้มยังไม่ขาด อันดับ 2, 3 และ 4 อย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์, เอแบร์ ไลป์ซิก และ โบรุสเซีย มึนเช่นกลัดบัค ยังพร้อมที่จะทำคะแนนจี้ขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ บาเยิร์น มิวนิค นำห่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อันดับ 2 เพียง 4 คะแนนเท่านั้น หากการแข่งขันไม่ถูกเลื่อนออกไป เราอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงของจ่าฝูง รวมถึงจะได้ดู ดาร์บี้ แมตช์ เมืองถ่านหินระหว่าง ดอร์ทมุนด์ และ ชาลเก้ อีกด้วย นอกเหนือจากนั้น เราคงได้เห็นการแข่งขันกันทำประตูระหว่าง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ดาวซัลโวล่าสุดและ ติโม แวร์เนอร์ รองดาวซัลโว ไม่แน่พวกเขาอาจสร้างสถิติใหม่ขึ้นมาเพื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์บุนเดสลีกาอีกครั้ง สำหรับ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เองในฤดูกาลนี้เขามีโอกาสสูงที่จะคว้าดาวซัลโว ยุโรป หลังกดไปแล้วถึง 25 ประตู นำ ติโม แวร์เนอร์ ดาวยิง ไลป์ซิก 4 ประตู 3. กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี อิตาลีกลายเป็นประเทศที่ประสบปัญหาผู้ติดเชื้อมากเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจาก อเมริกา และมีผู้เสียชีวิตมากที่สุดในโลกทะลุ 10,000 คน จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสไปแล้ว ในส่วนของ กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี เป็นลีกแรก ๆ ในลีกใหญ่ของยุโรปที่มีการแข่งขันในสนามปิด แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสได้ มีนักเตะสโมสรดังมากมายติดเชื้อ และพบนักเตะติดเชื้อมากขึ้นทุกวัน หากพูดถึงฟุตบอลในฤดูกาลนี้ กัลโช่ฯ ถือได้ว่าน่าติดตามไม่น้อย เพราะการลุ้นแชมป์ไม่ได้ง่ายสำหรับ ยูเวนตุส เหมือนที่ผ่านมา ฤดูกาลนี้ ลาซิโอ้ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม 5 นัดหลังสุดยังคงไร้พ่าย ล่าสุดก็ไล่จี้ ยูเวนตุส มาเหลือระยะห่างเพียงแค่คะแนนเดียวเท่านั้น นอกเหนือจาก ลาซิโอ้ ก็ยังมี อินเตอร์ มิลาน ที่แม้ว่าผลงานจะแผ่วไปในช่วงหลังแต่ก็พร้อมสร้างความกดดันให้กับจ่าฝูงทุกเมื่อ ซึ่งหากการแข่งขันยังดำเนินต่อ ถึงตอนนี้แฟนบอล อินทรี-ฟ้าขาว อย่าง ลาซิโอ้ อาจจะได้เฮที่แซง ยูเวนตุส ขึ้นไปรั้งจ่าฝูงตารางคะแนนก็เป็นได้ 4. ลาลีกา สเปน ลาลีกา สเปน ยังคงเลื่อนการแข่งขันออกไปอย่างไร้กำหนดหลังการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ซึ่งในปัจจุบัน บาร์เซโลน่า สามารถกลับขึ้นไปนำจ่าฝูงตารางคะแนนได้สำเร็จ มีคะแนนห่างจาก เรอัล มาดริด เพียง 2 แต้มเท่านั้นจากการแข่งขัน 27 นัดเท่ากัน ก่อนที่จะประกาศเลื่อนการแข่งขัน เรอัล มาดริด ดันไปพลาดท่าบุกไปแพ้ เรอัล เบติส 1-2 ทำให้เสียจ่าฝูงตารางคะแนนให้กับคู่ปรับร่วมลีกตลอดกาลอย่าง บาร์ซ่า ทั้งนี้หากการแข่งขันยังคงดำเนินต่อ เราคงได้เห็นการขับเคี่ยวที่เข้มข้นของทั้ง 2 ทีม โดยที่แทบจะพลาดกันไม่ได้อีก ทีมไหนพลาดก็พร้อมที่จะถูกถีบร่วงจากตำแหน่งจ่าฝูงทันที นอกเหนือจากการแข่งขันกันเองระหว่างยักษ์ใหญ่ ลาลีกา แล้ว ก็ประมาททีมอันดับที่ 3 กับ 4 อย่าง เซบีย่า และ เรอัล โซเซียดาด ไม่ได้ เพราะแต้มยังไม่ขาด ต้องยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่พวกเขาทำผลงานได้ดีไม่น้อย ขณะเดียวกันในส่วนของการลุ้นดาวซัลโว ประจำลีก ลิโอเนล เมสซี่ ยังคงนำดาวซัลโว อยู่ถึง 19 ประตู ตามมาด้วย คาริม เบนเซม่า 14 ประตู หากการแข่งขันยังแข่งต่อคอบอลอาจจะได้เห็น เมสซี่ เมจิก วาดลวดลายบนฟลอร์หญ้า สร้างสถิติสุดยอดขึ้นมาอีกก็เป็นได้ แม้อายุที่มากขึ้นแต่เขาก็ยังคงเดินหน้าทำลายสถิติเป็นว่าเล่น ชนิดที่ยากจะหาใครมาทำลายลงได้ในทศวรรษนี้ 5. พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกที่ได้รับความนิยม และมีค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดแพงที่สุดในโลก กลายเป็นลีกที่คอบอลคิดถึง โดยเฉพาะแฟน "หงส์แดง" เพราะหากฟุตบอลยังคงแข่งขันกันต่อ ลิเวอร์พูล คงจะได้ฉลองแชมป์ลีกที่รอคอยมายาวนานกว่า 30 ปี เป็นแชมป์ที่เร็วสุดในประวัติศาสตร์ และแฟนบอลคงได้แห่ฉลองแชมป์กันไปแล้ว เนื่องจากพวกเขาเหลือเก็บชัยชนะเพียง 2 เกม หรือทำอีกเพียง 6 แต้ม เท่านั้น ก็จะการันตีคว้าแชมป์ลีกฤดูกาลนี้ไปครองทันที ถือเป็นปีที่สุดยอดของ ลิเวอร์พูล เลยก็ว่าได้ หลังจากต้องอกหักในฤดูกาลที่ผ่านมาด้วยการพลาดไปเพียงนิดเดียวเท่านั้น ปัจจุบันพวกเขาทิ้งห่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อันดับ 2 ของตารางคะแนนอยู่ถึง 25 แต้ม และทาง เรือใบสีฟ้า เองก็ยกธงขาวไปแล้วเรียบร้อย แต่ทว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ทำให้ แฟนบอลต้องรอกันต่อไป การเลื่อนการแข่งขันออกไปโดยที่ยังไม่รู้ว่าจะกลับมาเล่นได้อีกเมื่อไหร่ ท่ามกลางกระแสข่าวปั่นให้ฤดูกาลนี้เป็นโมฆะ ทำให้แฟน ลิเวอร์พูล เองก็หวั่นใจไม่น้อย เพราะนี่คือสิ่งที่เขารอคอยมานานกว่า 30 ปี แต่เชื่อว่าทุกอย่างจะมีทางออกมากกว่าการให้ทุกอย่างเป็นโมฆะ ต้องยอมรับว่า ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ฤดูกาลนี้ไปแล้วเพียงแค่จะได้ฉลองกันเมื่อไหร่เท่านั้น นอกเหนือจากการคว้าแชมป์ในส่วนของโควต้าฟุตบอลถ้วยยุโรป อันดับ 2 ลงไปก็ยังคงแข่งขันกันอย่างเข้มข้นไม่มีใครยอมใคร ม้ามืดอย่าง เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด เอง ก็กลายเป็นน้องใหม่ไฟแรงที่มีลุ้น โควต้า ยุโรปในปัจจุบัน ส่วนสถานการณ์การลุ้นหนีตกชั้นก็ยังดิ้นรนกันสุดเฮือกไม่แพ้กัน ทั้งหมดน่าจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจบเดือนมีนาคมใน 5 ลีกใหญ่ยุโรป แต่ทว่าทุกอย่างก็ถูกเบรคไปเพราะวิกฤตการระบาดของไวรัส สุขภาพต้องมาก่อน คอบอลเองยังต้องเหงากันต่อไป แต่อย่างน้อย เบลารุส ลีก ยังคงยืนหนึ่งในใต้หล้า ไม่แคร์โควิด-19 เป็นลีกเดียวในยุโรปที่ยังคงเตะกันอยู่ เผื่อคอบอลท่านไหนอยากเปิดประสบการณ์ใหม่แก้เหงาก็ลองไปติดตามลีกนี้ดูได้ หรือไม่ก็เล่น ฟีฟ่า แก้เหงากันไปก่อนนะ

- เปี๊ยกบางใหญ่ -

logoline