logo-heading

มาถึงทีมอันดับที่ 10 กันแล้วกับการวิเคราะห์ผลงาน 4 เกมแรก ซึ่งในวันนี้เป็นคิวของ สิงห์ เชียงราย เจ้าของแชมป์ไทยลีกเมื่อปีที่ผ่านมา แต่ล่าสุดหลังผ่าน 4 เกมรั้งอยู่ครึ่งล่างของตารางคะแนน

ในเมื่อตารางคะแนนไม่เคยโกหกใคร ทำให้ สิงห์ เชียงราย กับคำว่าแชมป์เก่าไทยลีกที่ยังไปไม่เป็นสำหรับการเล่นในปีนี้ ส่วนนึงเพราะทีมมีการเปลี่ยนแปลงตัวสำคัญพร้อมกับมีนักเตะเจ็บในบ้างตำแหน่ง และอีกส่วนนึงคือการต้องเล่นฟุตบอลถ้วย เอเอฟซี ชปล. ควบคู่กับไทยลีกทำให้งานหนักคูณสองไปเลย

เรามาเริ่มวิเคราะห์ฟอร์มของ กว่างโซ้ง ด้วยผลงานการเล่น 4 เกมแรกที่เก็บได้เพียงแค่ 5 แต้มจากการเปิดหัวด้วยการเสมอกับ สมุทรปราการ ซิตี้ 1-1 ต่อด้วยเสมอกับ สุพรรณบุรี เอฟซี 2-2 หลังจากนั้นชนะเกมแรกกับการถล่ม 3 - 0 และแพ้ให้กับ ทรู แบกค็อก 4 - 1 ในเกมล่าสุดก่อนลีกจะเลื่อน 

  "กว่างโซ้ง" กับคำว่าแชมป์เก่าที่ยัง "เล่นไม่เข้าตา" ก่อนจะไปถึงภาพรวมฟอร์มของ "กว่างโซ้ง" เรามาพูดถึงตัวผู้เล่นกันก่อนที่ปีนี้สามารถใช้คำว่า "ทีมเดิมๆ" กับพวกเขาได้เลย ถึงจะมีการซื้อตัวผู้เล่นใหม่เข้ามาประมาณนึง แต่ส่วนใหญ่ตัวใหม่ๆ จะเป็นแนวมาสแตนบายแทนตัวหลักๆ มากกว่า ทำให้ สิงห์ เชียงราย ในปี 2019 กับ สิงห์ เชียงราย ในปี 2020 แทบจะไม่มีอะไรต่างจากเดิมเลย   "กว่างโซ้ง" กับคำว่าแชมป์เก่าที่ยัง "เล่นไม่เข้าตา" มาถึงส่วนสำคัญที่ทำให้ปีนี้ กว่างโซ้ง ออกสตาร์ทได้ไม่ค่อย "มหาภัย" เท่าที่ควร ส่วนนึงขอยกตัวอย่างเกมล่าสุดที่แพ้ ทรู แบงค็อก 4 - 1 ที่เห็นชัดๆ คือพวกเขาขาดทีเด็ดไปพร้อมๆ 2 รายอย่าง วิลเลี่ยม กับ เอกนิษฐ์ ทำให้มีผลต่อเกมรุกทันที เพราะแนวรุกปีนี้ดูติดๆ ขัดๆ จริงๆ ถึงแม้ บิลล์ จะยังเล่นได้อย่างเยี่ยมเหมือนเดิม แต่คู่หูไม่ของเขาไม่เหมือนเดิมเพราะตัวที่ลงมาแทนไม่ว่าจะเป็นไทยหรือเทศยังทำงานร่วมกับ บิลล์ ได้ไม่ดีเหมือนก่อนหน้านี้ และที่สำคัญลูกตีหัวเข้าบ้านของพวกเขาที่เคยทำได้ดีมากๆ เมื่อปีทีแล้วหายไปเลย ดังนั้นปัญหาใหญ่ที่เห็นชัดๆ คือเกมรุกของ กว่าง ที่ดูยังไงก็ยังไม่เหมือนเดิม    "กว่างโซ้ง" กับคำว่าแชมป์เก่าที่ยัง "เล่นไม่เข้าตา" อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญมากๆ ที่ได้ระบุไว้ในช่วงต้นกับการต้องเล่นถ้วย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ในรอบแบ่งกลุ่มของ สิงห์ เชียงราย ซึ่งเป็นครั้กแรกของพวกเขาที่สามารถเข้าไปถึงในรอบนี้ได้ ทำให้โปรแกรมชุกกว่าเดิม นักเตะต้องเดินทางเหนื่อยล้ามากกว่าตามโปรแกรมที่เพิ่มมา ที่ผ่านมาเราเคยเห็นแล้วว่าพวกเขามักใช้ทีมเดิมๆ เล่นติดๆ กัน และพอมี 2 รายการใหญ่ทำให้การใช้ตัวเดิมยิ่งแย่ไปกันใหญ่ และด้วยความที่ กว่าง ไม่มีประสบการณ์กับการเล่นถ้วยใหญ่เอเชียควบคู่กับบอลลีกแบบนี้ ยิ่งทำให้ กว่างโซ้ง พวกเขายังจับทางไม่ถูกและส่งผลให้แย่ในทั้งสองรายการ แต่ในช่วงที่ฟอร์มไม่ดีความโชคดียังเข้าข้าง สิงห์ เชียงราย อยู่บ้าง เพราะลีกต้องมาหยุดเล่นเนื่องจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ทีมได้พักแบบเต็มๆ คงมีเวลาในการปรับจูนอะไรอีกพอสมควร

และคาดว่าหลังจากกลับมาเตะ (2-3 พ.ค.) หนึ่งในนักเตะสำคัญของทีมที่ได้รับบาดเจ็บและพักไปยาวอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา จะกลับมาฟิตสมบูรณ์พร้อมลงสนามอีกครั้ง น่าจะทำให้ กว่างโซ้ง ทีมนี้ดีขึ้นไม่มากก็น้อยแน่นอน 

แต่ถ้าต้องให้คำนิยามกับพวกเขาหลังผ่าน 4 เกมแรก ก็คงต้องขอใช้คำว่า "กว่างโซ้งแชมป์เก่า ที่ยังเล่นไม่เข้าตา" ...

   

บทความโดย : บอลกูรู (เจษดาพร ศรีสรง)

logoline