logo-heading

ศึกใหญ่ แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้แมตช์ ในวันเสาร์นี้ (7 เม.ย.) เป็นการพบกันของยอดกุนซือระดับโลกอย่าง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โชเซ่ มูรินโญ่ ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และที่สำคัญคือการเถลิงบัลลังก์แชมป์ของพลพรรค "เรือใบสีฟ้า" ถ้าเกิดวันนี้สามารถหยิบ 3 คะแนนได้ก็จะเป็นแชมป์ พรีเมียร์ลีก สมัยที่ 3 ทันที

สำหรับประเด็นหลักที่น่าสนใจอันดับแรกเลยก็คือการดวลกันระหว่างยอดกุนซือทั้ง 2 คน เพราะนี่จะเป็นครั้งที่ 21 แล้ว โดยก่อนหน้านี้ดวลฝีไม้ลายมือกันมา 20 ครั้งต้องบอกว่าสถิติของ เป๊ป นั้นข่มกว่ามิด เพราะเอาชนะได้ถึง 9 นัด ส่วน มูรินโญ่ เอาชนะได้ 4 นัด ที่เหลือนอกนั้นคือเสมอกันทั้งหมด - รายละเอียดเกมที่ เป๊ป และ มูรินโญ่ เคยดวลกันมา 16/09/09 อินเตอร์ มิลาน 0-0 บาร์เซโลน่า - ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 24/11/09 บาร์เซโลน่า 2-0 อินเตอร์ มิลาน - ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม 20/04/10 อินเตอร์ มิลาน 3-1 บาร์เซโลน่า - ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก 28/04/10 บาร์เซโลน่า 1-0 อินเตอร์ มิลาน - ยูฟา แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง (อินเตอร์ เข้ารอบด้วยสกอร์รวม 3-2) 29/11/10 บาร์เซโลน่า 5-0 เรอัล มาดริด - ลา ลีกา สเปน 16/04/11 เรอัล มาดริด 1-1 บาร์เซโลน่า - ลา ลีกา สเปน 20/04/11 บาร์เซโลน่า 0-1 เรอัล มาดริด - โกปา เดล เรย์ รอบชิงชนะเลิศ 27/04/11 เรอัล มาดริด 0-2 บาร์เซโลน่า - ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดแรก 03/05/11 บาร์เซโลน่า 1-1 เรอัล มาดริด - ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดสอง (บาร์ซ่า เข้ารอบด้วยสกอร์ 3-1) 14/08/11 เรอัล มาดริด 2-2 บาร์เซโลน่า - สแปนิช ซูเปอร์ คัพ นัดแรก 17/08/11 บาร์เซโลน่า 3-2 เรอัล มาดริด - สแปนิช ซูเปอร์ คัพ นัดสอง 10/12/11 เรอัล มาดริด 3-1 บาร์เซโลน่า - ลา ลีกา สเปน 18/01/12 เรอัล มาดริด 1-2 บาร์เซโลน่า - โกปา เดล เรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดแรก 25/01/12 บาร์เซโลน่า 2-2 เรอัล มาดริด - โกปา เดล เรย์ รอบก่อนรองชนะเลิศ นัดสอง (บาร์ซ่า เข้ารอบด้วยสกอร์ 4-3) 21/04/12 บาร์เซโลน่า 1-2 เรอัล มาดริด - ลา ลีกา สเปน 30/08/13 บาเยิร์น มิวนิค 2-2 เชลซี - ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ (บาเยิร์น ชนะจุดโทษ) 10/09/16 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ - พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 26/09/16 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-0 - ลีก คัพ 27/04/17 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด - พรีเมียร์ลีก อังกฤษ 10/12/17 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เรื่องของความสำเร็จนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นยอดกุนซือแล้วสิ่งเหล่านี้จะเป็นเครื่องยืนยันชั้นดี นั่นหมายถึงการมีถ้วยแชมป์มาประดับไว้นั่นเอง เป๊ป กวาร์ดิโอล่า - บาร์เซโลน่า (14 โทรฟี่) : ลา ลีกา 3 สมัย, โกปา เดล เรย์ 2 สมัย, สแปนิช ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และ สโมสรโลก 2 สมัย - บาเยิร์น มิวนิค (7 โทรฟี่) : บุนเดสลีกา 3 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 1 สมัย และ สโมสรโลก 1 สมัย - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (1 โทรฟี่) : คาราบาว คัพ 1 สมัย โชเซ่ มูรินโญ่ ปอร์โต้ (6 โทรฟี่) : พรีเมร่า ลีกา 2 สมัย, ตากา เด โปรตุเกส 1 สมัย, ซูเปอร์ตากา คานดิโด้ เด โอลิเวีร่า 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย และ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก 1 สมัย เชลซี (8 โทรฟี่) : พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย, ลีก คัพ 3 สมัย และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย อินเตอร์ มิลาน (5 โทรฟี่) : เซเรีย อา 2 สมัย, โคปปา อิตาเลีย 1 สมัย, ซูเปอร์โคปปา อิตาเลียน่า 1 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 1 สมัย เรอัล มาดริด (3 โทรฟี่) : ลา ลีกา, โกปา เดล เรย์ และ สแปนิช ซูเปอร์ คัพ อย่างละ 1 สมัย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (3 โทรฟี่) : ลีก คัพ, ยูฟ่า ยูโรปา ลีก และ คอมมูนิตี้ ชิลด์ อย่างละ 1 สมัย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ต่างก็เป็นทีมระดับบิ๊กเนมดังนั้นการเสริมทัพกว่าจะดึงนักเตะมาได้สักคนก็ต้องใช้เงินเยอะหน่อย และนี่คือการเปรียบเทียบการใช้เงินของกุนซือทั้ง 2 คนนี้ โชเซ่ มูรินโญ่ ฤดูกาล 2016-17 ใช้เงินไป 145.3 ล้านปอนด์ ฤดูกาล 2017-18 ใช้เงินไป 146 ล้านปอนด์ รวม : 291.3 ล้านปอนด์ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ฤดูกาล 2016-17 ใช้เงินไป 167.15 ล้านปอนด์ ฤดูกาล 2017-18 ใช้เงินไป 198.7 ล้านปอนด์ รวม : 365.85 ล้านปอนด์ ผลงานในเกม พรีเมียร์ลีก ประจำฤดูกาล 2017-18 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ : แข่ง 31 นัด ชนะ 27 เสมอ 3 แพ้ 1 - เปอร์เซนต์ชนะอยู่ที่ 83.7 ยิงได้ 88 เสีย 21 - เฉลี่ยยิงได้ 2.83 ประตูต่อ 1 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : แข่ง 31 นัด ชนะ 21 เสมอ 5 แพ้ 5 - เปอร์เซนต์ชนะอยู่ที่ 66.1 ยิงได้ 60 เสีย 23 - เฉลี่ยยิงได้ 1.93 ประตูต่อ 1 นัด ทิ้งท้ายที่เรื่องของความสัมพันธ์ระหว่าง เป๊ป กับ มูรินโญ่ พวกเขาทั้งคู่เคยร่วมงานกันที่ บาร์เซโลน่า โดย เป๊ป ยังเป็นนักเตะ และ มูรินโญ่ เป็นล่ามแปลภาษาให้กับ บ็อบบี้ ร็อบสัน ช่วงปลายยุค 90 จาก ณ เวลานั้นจนถึงปัจจุบันอะไรก็เปลี่ยนไปจนตอนนี้ทั้งคู่ได้เป็นกุนซือระดับโลกทั้งคู่ และจากคนสนิทชิดเชื้อกันได้กลายเป็นคู่กันกัดเสียแล้ว และแน่อนเมื่อถึงเวลาที่โลกโคจรให้ทั้งคู่มาพบกันก็มักจะมีวาทะเด็ดเกิดขึ้นเสมอๆ และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นคร่าวๆ - โชเซ่ มูรินโญ่ เคยพูดเอาไว้ตอนยังคุม เชลซี ในปี 2015 เหมือนจะแอบแซะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่พา บาเยิร์น มิวนิค เป็นแชมป์ติดๆ กัน โดยมองว่าเลือกคุมแต่ทีมที่เก่งและมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมอยู่แล้ว "ผมไม่ใช่คนที่ฉลาดที่สุดหรอกในการเลือกสโมสรและลีกที่จะไปทำงาน ผมสามารถเลือกทีมอื่นก็ได้ ในประเทศอื่นก็ได้ ที่มันง่ายกว่านี้ถ้าอยากเป็นแชมป์ บางทีผมอาจจะไปคุมทีมในลีกที่แม้แต่เอาคนดูแลชุดแข่งมาคุมทีมก็ยังเป็นแชมป์ได้ก็เป็นได้นะ" - เมื่อปี 2014 ทั้ง เป๊ป และ มูรินโญ่ เคยไปออกงานสุดยอดโค้ชที่ "ยูฟ่า" ได้จัดขึ้นและก็ได้มีการถกเถียงกันเรื่องความยาวของหญ้าในสนามฟุตบอล โดย เป๊ป อยากให้หญ้าสั้นลงอีกนิด เพื่อที่ลูกฟุตบอลจะได้เคลื่อนที่ไวขึ้น แต่ทาง มูรินโญ่ ไม่เห็นด้วย มูรินโญ่ กล่าวว่า "แต่ละคนมีสไตล์ของตัวเองทั้งนั้น แน่นอนว่าต้องให้ความเคารพกับเรื่องนี้ แต่โลกของของฟุตบอลนั้นสามารถสร้างความยอดเยี่ยมและความประทับใจได้ในหลากหลายวิธี" เป๊ป กล่าวว่า "ความงามของฟุตบอลขึ้นอยู่กับโค้ช นี่คือสิ่งที่ผมคิด แต่สำหรับ มูรินโญ่ ดูเหมือนเขาจะชอบเน้นผลการเเข่งขันเป็นใหญ่มากกว่า" ก่อนที่ มูรินโญ่ จะสวนขึ้นมาว่า "ถ้าคุณสนุกกับสิ่งที่คุณทำอยู่ ผมของคุณคงไม่ร่วงหรอกนะ และที่ กวาร์ดิโอล่า หัวล้านผมว่าก็คงไม่ต่างกัน นั่นเป็นเพราะเขาคงไม่สนุกกับฟุตบอลมากกว่า" - เมื่อปี 2011 สมัย มูรินโญ่ คุม เรอัล มาดริด และ เป๊ป ยังคุม บาร์เซโลน่า ในเกมที่ทั้ง 2 ทีมที่พบกัน แต่ชัยชนะจบลงที่ บาร์ซ่า ชนะ 2-0 โดยเกมนั้น เรอัล มาดริด เหลือ 10 คน เพราะ เปเป้ โดนไล่ออก และตัวของ มูรินโญ่ โดนไล่ขึ้นไปบนอัฒจันทร์ ซึ่งหลังจบเกมกุนซือชาวโปรตุกีสได้ออกมาด่า บาร์ซ่า ว่า 'ไอ้ขี้โกง' พร้อมกับเหน็บเหล่าผู้ตัดสินว่าชอบเข้าข้างคู่แข่ง "ผมก็หวังว่าซักวันนึง กวาร์ดิโอล่า จะสามารถเป็นแชมป์ที่ขาวสะอาดโดยไม่มีข้อครหา" มูรินโญ่ กล่าว - การพบกันครั้งล่าสุดช่วงเดือนช่วง ธันวาคม ปี 2017 ที่ผ่านมาชัยชนะจบที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ บุกมาอัดถึง โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 2-1 ซึ่งเกมนั้น มูรินโญ่ ได้โวยถึงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินใจว่า ตัดสินใจเข้าข้าง "เรือใบสีฟ้า" หลังไม่ยอมให้จุดโทษจากจังหวะ อันเดร์ เอร์เรร่า ถูกทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนที่ เป๊ป จะออกมาส่วนกลับว่า "ฤดูกาลที่แล้วก็เป็นแบบนี้เลย เราชนะได้ที่นี่ แล้วเขาก็พูดถึงผู้ตัดสิน วันนี้ก็เหมือนกันเมื่อวานเขาก็พูดถึงผู้ตัดสิน เราเป็นทีมที่ซื่อสัตย์ เราครองบอลได้ 75% ซึ่งนั่นหมายความว่า เราอยากจะเล่นฟุตบอล เรามาที่นี่เพื่อทำแบบนั้น ไม่จริงหรอกที่ผู้เล่นของผมล้มง่าย มันไม่ใช่ข้อโต้แย้งที่ผมเชื่อ"  

-HaMuDosSantos-

logoline