10 นายทวารดาวรุ่งที่น่าจับตามองในยุคนี้

ถ้าจะพูดถึงแข้งดาวรุ่งที่น่าจับตามองในปัจจุบันเชื่อว่าแฟนบอลหลายท่านคงชายตามองไปที่นักเตะในแผนกเกมรุกเสียเป็นส่วนใหญ่ เพราะตำแหน่งดังกล่าวมันมักจะสร้างชื่อได้ง่ายกว่าในตำแหน่งอื่นๆ โดยเฉพาะผู้รักษาประตู

ซึ่งจะว่าไปในยุคนี้เราก็ได้เห็นนายทวารดาวรุ่งฝีมือดีกันหลายคน ที่กำลังรอวันขึ้นมาเฉิดฉายในวงการ ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราจะพาไปชมกันว่าในยุคนี้พอจะมีผู้รักษาประตูคนไหนบ้างที่พอจะน่าติดตามฟอร์มการเล่น กาเบรียล บราเซา (Gabriel Brazao) นายทวารชาวบราซิล วัยเพียง 19 ปี ที่ก้าวกระโดดมาค้าแข้งในยุโรปเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา โดยเป็น ปาร์ม่า ที่คว้าตัวมาจากสโมสร ครูไซโร่ ในลีกประเทศบ้านเกิดด้วยค่าตัว 2.6 ล้านยูโร ก่อนที่เมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา อินเตอร์  มิลาน จะมองเห็นแววที่โดดเด่นของนายทวารอนาคตไกลรายนี้ถึงยอมควักกระเป๋า 6 ล้านยูโร ซื้อตัวมาร่วมทัพ ก่อนที่ในซีซั่นนี้จะปล่อยไปให้ อัลบาเซเต้ ทีมในสเปนยืมตัวไปใช้งาน ส่วนผลงานกับทีมชาติเจ้าตัวอยู่ในชุดที่คว้าอันดับ 3 ในศึกฟุตบอลโลกชุดยู-17 เมื่อปี 2017 นอกจากนั้นยังถูกเรียกตัวไปติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย ในเกมอุ่นเครื่อง 2 นัด ที่พบกับ อุรุกวัย และแคเมอรูน เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2018 และด้วยผลงานที่ฉายแววทำให้กูรูหลายท่านต่างพูดไปในทิศทางเดียวกันว่า ถ้าหมดยุค อลิสซอน กับเอเดอร์ซอน เมื่อไหร่ บราเซา ก็พร้อมเสียบแทนในทันที คริสเตียน ฟรุคเทิล (Christian Fruchtl) บาเยิร์น มิวนิค ไม่เคยขาดหายนายประตูชั้นดี และ ฟรุคเทิล คือหนึ่งในตัวเลือกชั้นเยี่ยมในอนาคตอันใกล้นี้ โดยในปัจจุบันเจ้าตัวเพิ่งมีอายุครบ 20 ปี เมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา  ซึ่ง ฟรุคเทิล เป็นหนึ่งผลผลิตของอคาเดมี่ "เสือใต้" อย่างแท้จริง เพราะทีมไปดึงตัวมาร่วมทีมตั้งแต่อายุ 14 ปี จากสโมสรเยาวนชนสมัครเล่นอย่าง กรุนไวส์ ดักเกนดอร์ฟ ก่อนที่จะได้รับโอกาสในทีมสำรองของ บาเยิร์น ในศึกลีกา 3 เมื่อช่วงปี 2017 ถือว่าเป็นการเสริมประสบการณ์ และสร้างกระดูกได้เป็นอย่างดี ส่วนในเวทีระดับทีมชาติเยอรมัน ฟรุคเทิล ติดมาแทบจะครบทุกชุดแล้วไล่มาตั้งแต่ ยู-15, 16, 17, 18 ,19 และ 20 ปี และด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ถึง 193 เซนติเมตร และการใช้เท้าครองบอลได้อย่างเหนียวแน่นทำให้รุ่นพี่อย่าง มานูเอล นอยเออร์ ถึงขนาดต้องเอยปากชมว่ามีอนาคตที่สดใส และก้าวไกลอย่างแน่นอน อิลัน เมลิแยร์ (Illan Meslier) นายทวารสูงยาวเข่าดี วัย 20 ปี จากประเทศฝรั่งเศส ถือว่าเป็นผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่น่าสนใจไม่น้อย โดยจุดเริ่มต้นของ เมลิแยร์ เกิดขึ้นจากทีมสมัครเล่นที่มีชื่อว่า เมอเลเวนเซ่ ก่อนที่อายุจะครบ 9 ขวบ ก็ถูกสโมสรอาชีพอย่าง ลอริยองต์ ดึงตัวเข้าสู่อคาเดมี่ของสโมสร และฝึกปรือฝีมืออยู่นานก่อนที่ในปี 2017 จะได้เริ่มเทิร์นโปรกับทีมสำรอง และได้เลื่อนขึ้นมาเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่ในปี 2018 รวมแล้วถึงตรงนี้เจ้าตัวลงสนามให้ ลอริยองต์ ไปแล้ว 30 นัด เก็บคลีนชีตไปได้ 11 นัด โดยปัจจุบัน เมลิแยร์ โยกย้ายมาค้าแข้งกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด ทีมในศึกเดอะ แชมเปี้ยนส์ชิพ อังกฤษ ในรูปแบบยืมตัว แต่ทว่าก็เป็นได้เพียงนายทวารมือ 2 ของทีมเท่านั้น ได้รับโอกาสลงสนามไปเพียง 3 นัด ส่วนผลงานกับทีมชาติฝรั่งเศส เจ้าตัวถูกเรียกติดมาแล้วด้วยกัน 4 ชุด ไล่ตั้งแต่ยู-18, 19, 20 และล่าสุดกับชุดยู-21 แต่ก็ยังไม่อาจเบียดขึ้นมาเป็นมือ 1 ของทีมได้ อัลบ็อง ลาฟงต์ (Alban Lafont) อีกหนึ่งนายทวารดาวรุ่งที่พุ่งแรงเป็นอย่างมาก โดยเจ้า ลาฟงต์ ยังพกสถิติเป็นผู้รักษาประตูอายุน้อยที่สุดที่ลงสนามในลีก เอิง ด้วย ซึ่งตอนนั้นเจ้าตัวเพิ่งมีอายุเพียง 16 ปี 10 เดือน ลงเฝ้าเสาในเกมที่ต้นสังกัดของเขาอย่าง ตูลูส พบกับ นีซ รวมแล้วลงสนามให้กับ ตูลูส ไปทั้งสิ้น 106 นัด เก็บไป 35 คลีนชีต ก่อนที่จะโบยบินไปเล่นต่างแดนกับ ฟิออเรนติน่า ในช่วงซัมเมอร์ 2018 ด้วยค่าตัว 8 ล้านยูโร ซึ่งชีวิตที่อิตาลีเจ้าตัวถือว่าทำได้อย่างยอดเยี่ยม ไปแล้วก็สามารถยึดเป็นมือ 1 ของทัพ "ม่วงมหากาฬ" ได้ในทันที ซึ่งสถิติในซีซั่น 2018-19 ลงสนามไป 38 นัด เก็บคลีนชีตได้ 10 นัด โดยในปัจจุบัน ลงฟงต์ ย้ายกลับมาเล่นที่ฝรั่งเศสอีกครั้งกับ น็องต์ ในรูปแบบยืมตัว และก็ถือว่ายังคงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม และด้วยอายุที่เพิ่ง 21 ปี เชื่อเหลือเกินว่าอนาคตของเจ้าหนูคนนี้คงไปได้ไกลกว่านี้มาก และแน่นอนเขากำลังถูกจับตามองว่านี้คือว่าที่นายทวารมือ 1 ของทีมชาติฝรั่งเศสในอนาคตอันใกล้นี้ มิลเล่ สวิลาร์ (Mile Svilar) เชื่อว่าแฟนบอลหลายคนน่าจะคุ้นหูกับชื่อของนายทวารดาวรุ่งผู้นี้เป็นอย่างดี เพราะเจ้าสร้างชื่อจากจากเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ต้นสังกัดของเขาอย่าง เบนฟิก้า พบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด โดยในเกมดังกล่าว สวิลาร์ ทำผิดพลาดจนทีมเสียประตู จนชื่อของเขาโด่งดังเพียงชั่วข้ามคืน แต่ทว่าความผิดพลาดครั้งนั้นมันไม่ได้เป็นเครื่องบ่งบอกว่าฝีมือของนายทวารชาวเบลเยี่ยมผู้นี้ไร้ไม่มีฝีมือ ซึ่งแท้จริงแล้วมันตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง เพราะผลงานของเจ้าตัวกับต้นสังกัด เบนฟิก้า ถือว่าสม่ำเสมอ และได้รับโอกาสกับทีมชุดใหญ่อยู่บ่อยครั้ง แม้อายุจะเพิ่ง 20 ปี เท่านั้น โดย สวิลาร์ ย้ายมาร่วมทัพ เบนฟิก้า ตั้งแต่ปี 2017 ได้โอกาสลงสนามไปแล้วทั้งสิ้น 20 นัด เก็บไป 6 คลีนชีต ส่วนในนามทีมชาติด้วยอายุ และตัวเลือกของทีมชุดใหญ่ที่มากพอควร มันจึงไม่แปลกที่จะถูกเรียกติดทีม แต่ถ้ามองไปที่ชุดเล็ก สวิลาร์ เก็บเวลมาหมดแล้วไล่ตั้งแต่ชุดยู-15 ถึง ยู-21 เรียกได้ว่าเพราะบ่มฝีมืออีกหน่อยอนาคตคงได้เห็นเขายืนเฝ้าเสาให้กับทีมใหญ่ในยุโรปอย่างแน่นอน จานลุยจิ ดอนนารุมม่า (Gianluigi Donnarumma) นายทวารวัย 21 ปี ที่เติบโตบนเส้นทางสายฟุตบอลได้อย่างรวดเร็ว โดยเจ้าตัวย้ายมาร่วมทัพ เอซี มิลาน เมื่อช่วงปี 2013 ด้วยวัยเพียง 14 ปีเท่านั้น แต่ด้วยฝีมือที่มีเกินกว่าอายุ ทำให้เมื่ออายุ 16 ปี 242 วัน เจ้าตัวได้โอกาสประเดิมสนามในเซเรีย อา เป็นนัดแรก ก่อนที่หลังจากนั้นจะยึดมือ 1 ทัพ "ปีศาจแดง-ดำ" ถาวรจนมาถึง ณ ตอนนี้ ส่วนผลงานกับทีมชาติอิตาลี ดอนนารุมม่า ก้าวขึ้นไปติดทีมชุดใหญ่ครั้งแรก และลงสนามด้วยวัยเพียง 17 ปี 6 เดือน ในเกมอุ่นเครื่องที่พบกับ ฝรั่งเศส เมื่อเดือนมกราคม 2016 รวมแล้วเก็บประสบการณ์จากเกมทีมชาติไปแล้วทั้งสิ้น 16 นัด เก็บไป 7 คลีนชีตด้วยกัน และด้วยอายุที่ยังน้อยนิดทำให้อนาคตของเขายังคงโลดแล่นในวงการได้อีกนาน เพราะฉะนั้นเชื่อเหลือเกินว่าอีกไม่นานการออกไปหาประสบการณ์ยังต่างแดนคงเกิดอย่างแน่นอน อันดรีย์ ลูนิน (Andriy Lunin) หนึ่งในนายทวารที่ถูกจับตามองไม่ใช่น้อย เนื่องจากเจ้าตัวกลายเป็นเด็กในสังกัดของ เรอัล มาดริด ตั้งแต่อายุเพียง 19 ปี เท่านั้น แต่ทว่าด้วยอายุ บวกประสบการณ์ที่ยังน้อยนิดทำให้เขาถูกปล่อยยืมตัวไปแล้ว 3 สโมสร ประกอบไปด้วย เลกาเนส, เรอัล บายาโดลิด และปัจจุบันกับ เรอัล โอเบียโด้ ซึ่งดูเหมือนการออกไปเก็บประสบการณ์ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะโอกาสลงสนามที่ไม่ได้เยอะมากมาย แต่อย่างไรก็ตามด้วยดีกรีแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เมื่อปี 2019 ทำให้กูรูทั้งหลายยังเชื่อว่า ลูนิน ยังคงมีอนาคตในถิ่น ซานติอาโก้ เบร์นาเบว อย่างแน่นอน แต่รอเพียงโอกาส และเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น ซึ่งตัวนักเตะเองก็ดูจะรักสโมสรแห่งนี้มากพอควร เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่าหลายทีมในยุโรปสนใจดึงตัวไปร่วมทีม แต่เจ้าตัวก็ปฎิเสธพร้อมอยู่สู้กับ "ราชันชุดขาว" ต่อไป ดีน เฮนเดอร์สัน (Dean Henderson) หลายคนอาจคิดว่า เฮนเดอร์สัน คงไม่ใช่ดาวรุ่งอีกต่อไปแล้ว เพราะด้วยชื่อเสียงที่แฟนบอลได้ยินมานานพอสมควร แต่ทว่านายทวารชาวอังกฤษผู้นี้เพิ่งมีอายุเพียง 23 ปี เท่านั้น และถือว่าเจ้าตัวก็พัฒนาฝีมือขึ้นมาได้ดีกว่าอายุของตัวเองเป็นอย่างมาก โดยผลงานเด่นๆ ของเจ้าตัวก็เป็นหนึ่งในขุนพลที่ช่วยให้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด กลับมาขึ้นมาเล่นยังศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ อีกครั้ง นอกจากนั้นในซีซั่นนี้ เฮนเดอร์สัน ก็ยังคงรักษามาตรฐานไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการเก็บคลีนชีตในลีกไปแล้วทั้งสิ้น 10 ครั้ง และเสียประตูไปเพียง 25 ประตูเท่านั้น เป็นรอง อลิสซอน เบ็คเกอร์ นายทวาร ลิเวอร์พูล คนเดียวเท่านั้น และด้วยฟอร์มที่โคตรจะโดดเด่นมันเลยไม่แปลกที่มีแฟนบอลบางกลุ่มยกมือว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดที่แท้จริงของเขาควรดึงตัวกลับไปเป็นมือ 1 ของทีมได้แล้ว เพราะนอกจากผลงานในสนามที่ยอดเยี่ยมแล้ว อายุการใช้งานยังคงมีอีกมากโข ขืนให้ เฮนเดอร์สัน รอนานๆ มันอาจจะบั่นทอนหัวใจ จนเจ้าตัวคิดย้ายทีมไป แล้วจะมาคิดเสียดายภายหลัง หลุยส์ มักซิเมียโน่ (Luis Maximiano) นายทวารดาวรุ่งวัย 21 ปี เริ่มถูกจับตามองมากยิ่งเมื่อได้โอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่ของ สปอร์ติ้ง ลิสบอน มากขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา โดย มักซิเมียโน่ ย้ายมาร่วมทัพ ลิสบอน เมื่อปี 2017 จากสโมสร บราก้า ในลีกประเทศโปรตุเกสเช่นกัน ก่อนที่ค่อยๆ ไตเต้าจากทีมชุดสำรองขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ และสามารถยึดตัวจริงได้ในที่สุด โดยในฤดูกาลนี้เจ้าตัวได้โอกาสลงเฝ้าเสาไปแล้วทั้งสิ้น 23 นัด เก็บไป 7 คลีนชีต ส่วนผลงานกับทีมชาติโปรตุเกส ก็เก็บประสบการณ์มาอย่างมากโขไล่ตั้งแต่ชุดอายุ 16 ปี มาจนถึง 21 ปี ขาดก็แค่เพียงโอกาสกับทีมชุดใหญ่ ซึ่งดูแล้วอนาคตอันใกล้นี้คงจะสมหวังอย่างแน่นอน ดิโอโก้ คอสต้า (Diogo Costa) ชื่ออาจจะคล้ายกับดาวของ แอต.มาดริด แต่ต้องบอกกันก่อนว่ามันคนละคนกันนะครับ โดย คอสต้า ผู้นี้คือนายทวารดาวรุ่งวัย 20 ปี ชาวโปรตุเกส สังกัด เอฟซี ปอร์โต้ โดยเจ้าตัวย้ายมาร่วมทีมตั้งแต่ปี 2011 ก่อนที่จะฝึกวิชากับทีมอคาเดมี่ จนได้รับโอกาสลงเล่นกับทีม ปอร์โต้ บี และถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปี 2019 นี่เอง ส่วนผลงานกับทีมชาติต้องบอกว่าไล่เรี่ยมากับเจ้า หลุยส์ มักซิเมียโน่ คนก่อนหน้านี้เลยก็ว่า เพราะ คอสต้า ติดทัพ "ฝอยทอง" มาตั้งแต่ชุดยู-15 ปี ไล่มาถึง ยู-21 ผ่านการคว้าแชมป์ยุโรปของ 2 ชุดด้วยกันนั้นก็คือชุด ยู-17 และยู-19 เพราะฉะนั้นในอนาคตดูแล้วโอกาสในทีมชาติชุดใหญ่อาจจะต้องเบียดกับ หลุยส์ มักซิเมียโน่ เพื่อร่วมรุ่น ซึ่งถ้าเป็นเช่นนั้นบอกเลยว่า โปรตุเกส จะมีนายทวารชั้นดีถึง 2 คน ในห้วงเวลาเดียวกัน