อาการบาดเจ็บมักเป็นของคู่กันสำหรับนักฟุตบอล แต่มันเหมือนเป็นฝันร้ายสำหรับผู้เล่น ที่ต้องเจอโรคเดี้ยงอยู่เป็นประจำ จนฝีเท้าที่เก่งกาจไม่สามารถกลับมาได้แบบเดิมอีกแล้ว
เคสแบบนี้เกิดขึ้นมากมายสำหรับนักเตะ เรียกว่าต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล มากกว่ามาลงเตะฟุตบอล ฉะนั้นลองไปจัดทีมจอมเจ็บที่เคยค้าแข้งบนเวที พรีเมียร์ลีก อังกฤษ กันดู
ผู้รักษาประตู : เคร้ก กอร์ดอน
ว่ากันตามตรงผู้รักษาประตูยุคนี้ ต่อให้มีอาการบาดเจ็บ แต่ก็ฟื้นตัวได้เร็วมาก อาทิ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ของ ลิเวอร์พูล เคยเดี้ยงไปช่วงต้นซีซั่่น ก็กลับมาประจำการเฝ้าเสาได้แล้ว หรืออย่าง อูโก้ ยอริส นายทวาร ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ เจอปัญหาเดี้ยงข้อศอกหลุด พักยาวไป 3-4 เดือน ก็กลับมาแล้ว ไม่ได้เจ็บบ่อยอะไรขนาดนั้น
แต่จากการค้นประวัติ ก็พบว่า เคร้ก กอร์ดอน อดีตนายทวาร ซันเดอร์แลนด์ คือผู้รักษาประตูที่มีสถิติบาดเจ็บยาวเหยียดเป็นหางว่าว เพราะตลอด 5 ฤดูกาลที่อยู่กับ "แมวดำ" ได้ลงเฝ้าเสาในศึก พรีเมียร์ลีก แค่ 88 นัด แต่กลับนอนรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ ทั้งแขน, ทั้งศอก และ หัวเข่า รวมแล้ว 913 วัน
กองหลัง
เลดลี่ย์ คิงส์
ไม่มีชื่อ เลดลี่ย์ คิงส์ ถือว่าผิด นี่คือตำนานสโมสร ที่คนจดจำภาพนอนรักษาตัวโรงพยาบาล มากกว่า ฝีเท้าอันเก่งกาจในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ก อาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่าคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ เลดลี่ย์ คิงส์ ต้องเผชิญกับโรคเดี้ยงแบบไม่มีหยุดหย่อน ซึ่งเขามาเปิดเผยภายหลังว่าบาดเจ็บหัวเข่า ตั้งแต่ลงเล่นนัดแรกให้กับ "ไก่เดือยทอง" เมื่อปี 1999
จริงๆแล้วจำนวนการลงสนาม 323 นัด ให้กับ "ไก่เดือยทอง" ไม่ได้น่าเกลียดเลย แต่สำหรับ คิงส์ มันควรจะมากกว่านั้นหลายขุม อาการบาดเจ็บตรงหัวเข่า ส่งผลให้เขาไม่สามารถซ้อมแบบจริงๆ จังๆ กับเพื่อนร่วมทีมได้เลย กลายเป็นถูกจำกัดศักยภาพของเขาไปในตัว สุดท้ายต้องยอมแขวนสตั๊ดในปี 2012 เพราะตัวเลข 1,318 วัน ที่ต้องใช้เวลารักษาตัว คือสถิติที่บ่งบอกว่าเตะบอลไม่ได้อีกต่อไปแล้ว
ฟิล โจนส์
ขอเอาเป็นตัวยุคปัจจุบันบ้างแล้วกัน คนๆนั้นคือ ฟิล โจนส์ นักเตะ ปีศาจแดง ที่ยังหลงเหลือมาจากยุค เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ช่วงแรกกับสโมสร ต้องบอกว่าดูดีมีอนาคต กล้าเล่น กล้าแลก ไม่กลัวการปะทะ และ เป็นความหวังที่จะก้าวขึ้นมาในช่วง ริโอ เฟอร์ดินานด์ กับ เนมานย่า วิดิช อำลาทีมไปแล้ว
แต่ด้วยสไตล์แบบนั้น โจนส์ มีประวัติบาดเจ็บมาทุกซีซั่นกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ไม่เคยมีสภาพสมบูรณ์ไปจนจบฤดูกาลเลย ขนาดบาดแผลคิ้วแตกยังมีมาแล้ว พอเดี้ยงบ่อยๆ หายหน้าหายตาไปราวๆ 2 เดือน / ซีซั่น ฝีเท้าที่เคยฝากผลงานเอาไว้ ก็ค่อยๆจางหาย จากเด็กมีอนาคต กลายเป็นตัวตลก ที่แฟนบอลรอเอารูปหน้าฮาๆไปทำมีมบนโลกโซเชี่ยล
โลร็องต์ กอสเซียลนี่
โลร็องต์ กอสเซียลนี่ กัปตันทีม อาร์เซน่อล นี่เป็นอีกหนึ่งนักเตะฝีเท้าดี แต่ชอบหายหน้าไปบ่อยๆ เพราะอาการบาดเจ็บ จริงอยู่ที่ 9 ฤดูกาลกับ "ไอ้ปืนใหญ่" ได้ลงเล่น 353 นัด แต่กระนั้นมีสถิติบ่งบอกว่าเซ็นเตอร์แบ็กชาวฝรั่งเศส ต้องรักษาอาการบาดเจ็บมากกว่า 30 ครั้ง
ด้วยสไตล์เล่นแบบบู๊ล้างผลาญ ชนได้หมดไม่ว่าใครหน้าไหน ทำให้ปัญหาเดี้ยงตรงบริเวณน่อง และ แผ่นหลังมีปัญหาอย่างหนัก ในช่วงท้ายกับ อาร์เซน่อล เคยหายหน้าไปถึง 7 เดือน เพราะบาดเจ็บเอ็นข้อเท้า และ มันทำให้เขาต้องพลาดไปเล่น ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งครั้งนั้น ฝรั่งเศส เป็นแชมป์เสียด้วย
กองกลาง
อาบู ดิยาบี้
ถ้าไม่มีชื่อของ อาบู ดิยาบี้ ถือว่าผิด .. ชีวิตค้าแข้งกับ อาร์เซน่อล กำลังไปได้สวยแท้ แต่ทุกอย่างก็ต้องพังลง เมื่อสภาพร่างกายของเขา ไม่ได้เอื้ออำนวยต่อการโลดแล่นบนโลกลูกหนังอีกต่อไปแล้ว 2,623 วัน คือตัวเลขที่อดีตแข้ง "ไอ้ปืนใหญ่" ต้องใช้เวลารักษาร่างกาย หรือราวๆ 7 ปี กับทุกสโมสร
ตลอด 10 ปีที่อยู่กับสโมสร อาบู ดิยาบี้ บาดเจ็บไปมากกว่า 40 ครั้ง แต่ละครั้งกินเวลานานหลายเดือน และ ยาวนานถึงหลายปี !! เพราะแทบทุกส่วนของร่างกาย ดิยาบี้ เจ็บมาหมดแล้ว แต่บริเวณกล้ามเนื้อน่องคือสิ่งที่ทำให้เขาต้องทุกข์ทนมากที่สุด ถ้าไม่มีโรคเดี้ยงเข้ามารบกวน ไม่แน่ว่าฝีเท้าอาจจะอยู่ในระดับเดียวกับ ลูก้า โมดริช ก็ได้ ใครจะไปรู้ !
แจ็ค วิลเชียร์
เรื่องของพรสวรรค์ไม่มีใครกล้าเถียงเลยว่า แจ็ค วิลเชียร์ มีสิ่งนั้นเต็มเปี่ยม แต่เรื่องเดียวที่ฉุดเขาไม่ให้ก้าวไปเป็นแข้งระดับโลก นั่นก็คืออาการบาดเจ็บ ตลอด 10 ซีซั่น "หนูแจ็ค" ได้ลงสนามเกิน 20 นัด มีเพียงแค่ 4 ซีซั่น เพราะเวลาส่วนใหญ่ของเขาคือการฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
ปัญหาเดี้ยงตรงหัวเข่าและข้อเท้า คือสิ่งกวนใจที่คอยฉุดเขาไม่ให้ลงไปวาดลวดลายบนผืนฟลอร์หญ้า เจ็บแต่ละครั้งใช้เวลาพักยาวถึง 4-5 เดือน ถึงขั้นที่เขาเคยต้องไปพบจิตแพทย์ เนื่องด้วยอาการบาดเจ็บเกาะกินใจเขาอย่างหนัก ขนาดปัจจุบันย้ายมาอยู่กับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เพิ่งได้ลงไป 16 นัด ตลอด 2 ซีซั่น เพราะปัญหาเดี้ยงที่ยังไม่รู้กำหนดว่าจะคืนดีเมื่อไหร่ ได้เล่น 2-3 นัด แต่เจ็บยาวเป็นเดือนเป็นปี
ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน
กำลังชั่งใจอยู่ว่าควรจะเอานักเตะ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยุคเก่ากึก มารวมไว้ดีไหม แต่ก็คิดว่าจะต้องเอามาอยู่ในดรีมทีมแข้งจอมเจ็บด้วย ย้อนกลับไปช่วงที่ สเปอร์ส ยอมจ่ายเงิน 2 ล้านปอนด์ เมื่อปี 1992 ซื้อแข้งรายนี้เข้ามา ทั้งที่ยังเป็นดาวรุ่ง แต่ก็ห้ามใจไม่ไหว เพราะมีทั้งความเร็ว, เทคนิคโคตรดี และ จ่ายบอลได้อย่างเฉียบคม
ยุคนั้น "ไก่เดือยทอง" ถือว่าน่ากลัว และ ดาร์เรน แอนเดอร์ตัน ก็ทำให้ สเปอร์ส มีมติมากชึ้น ช่วง 3 ซีซั่นแรกเขาไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวนใดๆทั้งสิ้น แต่หลังจากที่เขาบาดเจ็บครั้งแรก ต้องพักไปหลายเดือน จากนั้นก็บาดเจ็บมาเรื่อยๆ สาเหตุเพราะ แอนเดอร์ตัน มีความฟิตแค่ 70-80 % กุนซือก็ส่งลงสนามแล้ว ทำให้หัวเข่าของ แอนเดอร์ตัน สะบักสะบอม จนแทบใช้งานไม่ได้
ความเร็วที่เคยมี กลับวิ่งไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาบาดเจ็บไม่กี่วัน ก็ต้องกลับไปซ้อม ซึ่งมันทำให้บาดแผลหนักลงมากกว่าเดิม จากดาวเด่น กลายเป็นมิดฟิลด์กระดูกยุง โดยมีการวินิจฉัยจากแพทย์พบว่า แอนเดอร์ตัย โคนขาหนีบฉีกขาด 3 ครั้งในสัปดาห์เดียว และ นั่นก็เป็นที่มาทำให้เขาเจ็บออดๆแอดๆตลอดชีวิตค้าแข้ง
ซานติ กาซอร์ล่า
ไม่ต้องตกใจว่าทำไมมีแต่ อาร์เซน่อล เพราะสถานที่แห่งนี้ สามารถตั้งทีมคนเจ็บเพิ่มได้อีก 1 ทีม กันเลยทีเดียว ซึ่ง ซานติ กาซอร์ล่า ก็คือหนึ่งในนั้น นี่คือขวัญใจของสาวก "เดอะ กันเนอร์ส" เป็นตัวความหวังที่คอยขับเคลื่อนพาทีมประสบความสำเร็จ แต่อาการบาดเจ็บก็เกือบทำให้เขาต้องตัดขาทิ้ง !!
กาซอร์ล่า ต้องทุกข์ทนกับอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย นานถึง 636 วัน เรียกว่าไม่ได้สัมผัสบอลเลยเกือบ 2 ปี ซ้ำร้ายแผลบริเวณดังกล่าว กลายเป็นเนื้อแผลเน่า เฉียดจะต้องตัดขาทิ้งเพื่อรักษาชีวิตอยู่แล้ว ยังดีที่แพทย์สามารถนำก้อนเนื้อตรงแขนมารักษาแทนได้ ปัจจุบันได้ย้ายออกจาก อาร์เซน่อล กลับไปสเปน เล่นให้กับ บียาร์เรอัล เรียบร้อย
กองหน้า
แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์
ในยุคหนึ่ง คู่หูถล่มประตูที่ทุกกล่าวขาน ต้องมีชื่อ "SAS" รวมอยู่ในนั้นแน่นอน เพราะมันเป็นการประสานงานหัวหอกหน้าคู่อย่าง หลุยส์ ซัวเรซ กับ แดเนี่ยล สเตอร์ริดจ์ ซึ่งทำให้ ลิเวอร์พูล เคยเฉียดที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ มาแล้ว เมื่อฤดูกาล 2013-14 ซีซั่นนั้นดาวยิงเต้ยโศกซัลโวรวมไป 24 ประตู
ถึงตอนที่ ซัวเรซ ย้ายออกไป สเตอร์ริดจ์ คือดาวยิงตัวความหวัง ที่สาวก "เดอะ ค็อป" ต้องการฝากผีฝากไข้ แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นดั่งเดิมอีกแล้ว เต้ยโศกเจอโรคเดี้ยงรุมเร้า อาการบาดเจ็บเกาะกินทั่วร่างกาย ทั้งสะโพก, โคนขาหนีบ, เอ็นร้อยหวาย, กล้ามเนื้อต้นขา, ข้อเท้า และ หัวเข่า
เคยมีหนึ่งแมตช์ที่ สเตอร์ริดจ์ รักษาอาการบาดเจ็บมาแรมปี ได้กลับมาลงสนามเป็นตัวจริงให้กับ เวสต์บรอมวิช อัลเบี้ยน สมัยไปเล่นแบบยืมตัว ทว่าดันอยู่ในสนามได้แค่ 3 นาที ปัญหาเดี้ยงก็กำเริบ ต้องถูกเปลี่ยออกทันที
ธีโอ วัลค็อตต์
นิว อองรี คือฉายาของดาวรุ่งพรสวรรค์สูง ของไอ้หนุ่มดาวรุ่งตลอดกาลที่มีชื่อว่า ธีโอ วัลค็อตต์ เขาโด่งดังมากๆสมัยที่ สเวน โกรัน-อีริคสัน ไปติดทีมชาติอังกฤษ ชุด 23 คนสุดท้าย ลุยศึก ฟุตบอลโลก 2006 แบบเซอร์ไพรส์ ทำให้เขากลายเป็นที่น่าจับตามองอย่างมาก
วัลค็อตต์ เริ่มต้นได้ดีกับ อาร์เซน่อล และ ทำท่าว่าจะไปได้สวยกับการขึ้นมาเป็นสายเลือดใหม่ให้กับ "ไอ้ปืนใหญ่" และ ทีมาชาติอังกฤษ แต่ด้วยสไตล์การเล่นของ ธีโอ ที่ชอบลากเลื้อยไปกับบอล จึงมักถูกเข้าปะทะอย่างรุนแรง เจออาการบาดเจ็บเล็กๆน้อยๆอยู่ตลอด แต่มันเสมือนแก้วที่มันร้าว เพราะมันค่อยๆแตกละเอียดมากขึ้นเรื่อยๆ
วัลค็อตต์ แทบจะบาดเจ็บทุกซีซั่น เคยรุนแรงตรงบริเวณเอ็นไขว้หัวเข่า เรียกว่าพักนานแรมปี รวมๆแล้ว 1,030 วัน ที่เขาต้องร้างสนาม ซึ่งทุกครั้งที่เขาได้รับบาดเจ็บ ฟอร์มการเล่นก็มักจะขี้หดตดหายไปด้วย ไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้อีกเลย
แดนนี่ เวลเบ็ค
ดาวเตะขวัญใจมหาชน เพราะไม่ว่าคุณจะเชียร์ทีมไหน คุณก็ไม่สามารถเกลียดนักเตะคนนี้ได้ลง นั่นคือ แดนนี่ เวลเบ็ค หรือที่คนไทยเรียกว่า "เทพเวลเบลิอุส" และ เคยมาโชว์ลีลา ที่สนามราชมังคลา กีฬาสถาน มาแล้วด้วย
จริงๆเรื่องฝีเท้า เวลเบ็ค ก็เก่งแหละ แต่คนจะจดจำเรื่องสายฮามากกว่า อย่างไรก็ตามนับตั้งแต่มาอยู่ อาร์เซน่อล ก็เหมือนถูกชักจูงเข้าสู่วงการ เล่น 1 นัด เจ็บ 1 เดือน เขาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่ตลอด ถึงขั้นที่ข้อเท้าเคยหักสยองมาแล้ว พอมาอยู่กับ วัตฟอร์ด โรคเดี้ยงก็ไม่หาย ได้ลงเล่นแค่ 9 นัด ที่เหลือบาดเจ็บยาวๆ
