แฟน ลิเวอร์พูล ยังมีความหวังได้ เห็น คีเลียน เอ็มบัปเป้ ย้ายมาร่วมทีม หลังจากสตาร์ฝรั่งเศสของ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ตกเป็นข่าวกับ ลิเวอร์พูล ในช่วที่ผ่านมา
ช่วงที่ผ่านมาข่าวการย้ายทีมของ
คีเลียน เอ็มบัปเป้ ทำให้หัวใจสาวก
ลิเวอร์พูล เต้นรัวได้ไม่น้อย เมื่อมีการเปิดเผยจากสื่อฝรั่งเศสอย่าง เล 10 สปอร์ต ว่าทางด้าน
เจอร์เก้น คล็อปป์ ยกหูโทรศัพท์ต่อถึงพ่อของ คีเลียน เอ็มบัปเป้ ให้ความสนใจในการดึงตัวมาเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่จะถึง กลายเป็นข่าวที่สร้างความฮือฮาและเรียกความสนใจจากบรรดาแฟนบอลเป็นวงกว้าง อย่างไรก็ตามหากวิเคราะห์สถานการณ์ปัจจุบันจากผลกระทบของ โควิด-19 และมีโอกาสมากน้อยขนาดไหนที่ คีเลียน เอ็มบัปเป้ จะย้ายมาสวม ยูนิฟอร์ม ลิเวอร์พูล มาติดตามกันได้เลย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
>>> 5 เหตุผล มาเน่ อาจหนีหงส์แดง ซบตัก มาดริด
>>> โควิดทำพิษ! ลิเวอร์พูล อาจชวดได้นักเตะเสริมทัพในปีนี้
>>> สื่อฝรั่งเศส ตีข่าว คล็อปป์ โทรหาพ่อ เอ็มบัปเป้ หวังดึงร่วมทีม
1. ปล่อย มาเน่ ออกจากทีม
ซาดิโอ มาเน่ ตกเป็นประเด็นข่าวย้ายทีมในช่วงที่ผ่านมา โดยผลงานของแข้ง เซเนกัล นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีล่าสุดของทวีปแอฟริกา กลายเป็นเป้าหมายของ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่แห่ง ลาลีกา สเปน ที่ต้องการคว้าตัวเขาไปเสริมทัพ และเป็นที่แน่นอนว่า หาก ลิเวอร์พูล ปล่อยเขาออกจากทีมก็ต้องเป็นการปล่อยด้วยค่าตัวที่ไม่น้อย หาก ลิเวอร์พูล ปล่อยมา มาเน่ ออกจากทีมก็จะได้เงินจำนวนมาก ซึ่งเพียงพอต่อการคว้าตัว เอ็มบัปเป้ มาร่วมทัพ ดังนั้นโอกาสที่จะ คว้า เอ็มบัปเป้ คือ ลิเวอร์พูล อาจต้องเสีย มาเน่ ไปนั่นเอง ซึ่งเชื่อว่า แฟน ลิเวอร์พูล ส่วนใหญ่อยากเห็น เอ็มบัปเป้ มาสวมเสื้อ ลิเวอร์พูล แต่ก็ไม่อยากเสีย มาเน่ ไป และเลือกที่จะให้ มาเน่ อยู่ต่อสร้างตำนานกับทีม มากกว่า
2. การเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ของ ไนกี้
ลิเวอร์พูล เพิ่งเซ็นสัญญากับ ไนกี้ แบรนด์กีฬาระดับโลกเข้ามาเป็นสปอนเซอร์ผลิตชุดแข่งขันระยะยาวตั้งแต่ฤดูกาล 2020/21 เป็นต้นไป ซึ่ง ไนกี้ เองก็เป็นสปอนเซอร์ให้กับ เอ็มบัปเป้ ด้วย จากรายงาน ลิเวอร์พูล จะได้เงินจาก ไนกี้ สูงถึงปีละ 100 ล้านปอนด์ทีเดียว เมื่อรวมกับผลประกอบการที่ ลิเวอร์พูล ทำได้ในช่วงที่ผ่านมา จากผลงานของทีมที่ยอดเยี่ยมทำให้ ลิเวอร์พูล มีเงินก้อนโตในการเสริมทัพ ประกอบกับการที่ ไนกี้ เป็นสปอนเซอร์ของ เอ็มบัปเป้ อยู่แล้ว อาจเป็นสะพานช่วยให้ ลิเวอร์พูล มีโอกาสมากขึ้นในการคว้าเขามาร่วมทีม แต่ก็เชื่อว่าด้วยผลจากพิษโควิด-19 ลิเวอร์พูล ต้องการสภาพคล่องทางการเงิน แม้จะได้เงินจาก ไนกี้ ก้อนโต ก็ตาม เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เสียนักเตะออกจากทีม เพราะพวกเขายังคงต้องเซฟเงินไว้สำหรับจ่ายค่าเหนื่อยของ เอ็มบัปเป้ อีกด้วย
3. การบริหารงานของ เอฟเอสจี
แม้ว่า ลิเวอร์พูล เองจะมีผลประกอบการ และรายได้ที่มากมายในช่วงที่ผ่านมา แต่ทว่าการบริหารของ เฟนเวย์ สปอร์ตส์ กรุ๊ป หรือ เอฟเอสจี เป็นไปอย่างรัดกุม รายจ่ายต้องสอดคล้องกับรายได้ รวมถึงแนวคิดของ ของ ไมเคิ่ล เอ็ดเวิร์ดส์ ผู้อำนวยการกีฬา ลิเวอร์พูล ก็จะค่อนข้างรัดกุมเสมอ หาก ลิเวอร์พูล จะคว้าใครมาร่วมทีมก็มักจะเป็นเพราะ เจอร์เก้น คล็อปป์ อยากได้จริง ๆ และต้องแบ่งเบาภาระด้วยการปล่อยนักเตะออกจากทีมด้วย เช่นตอนขาย ฟิลิปเป้ คูตินโญ่ ออกไปให้ บาร์เซโลน่า ด้วยจำนวนเงินมหาศาล ก่อนไปกระชากตัว เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ จาก เซาธ์แฮมป์ตัน และ อลิสซอน เบ็คเกอร์ จาก โรม่า มาร่วมทัพ ซึ่งหากมองในมุมมองนี้ก็ไม่พ้น เอฟเอสจี จะยอมอนุมัติเรื่องการซื้อ เอ็มบัปเป้ ก็ต่อเมื่อมันจำเป็นนั่นคือเสียนักเตะตัวหลักไปเท่านั้น
4. แผนการขยายสนามและพิษโควิด-19
จากการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในปัจจุบัน ทำให้หลายสโมสรขาดรายได้จากที่พวกเขาจะได้ในวันแข่งขัน ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจการเงินไม่น้อย ล่าสุด เดอะ มิร์เรอร์ วิเคราะห์ว่าด้วยสภาพคล่องทางการเงิน ลิเวอร์พูล เองอาจไม่ใช้เงินเสริมทัพโดยไม่จำเป็น หรืออาจจะไม่ได้ใครมาเสริมทัพเลย ซึ่งสิ่งที่พวกเขาต้องทำคือรั้งนักเตะตัวหลักไว้ให้ได้ นอกจากนี้พวกเขายังต้องวางแผนการเงินระยะยาวในเรื่องของการมีขยายสนามแอนฟิลด์ฝั่งทางด้านอัฒจันทร์ แอนฟิลด์ โร้ด ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล ที่ล่าสุดทางบอร์ดบริหารตัดสินใจเลื่อนแผนการขยายสนามออกไป 1 ปี ดูแล้ว ลิเวอร์พูล คงไม่อยากลงทุนกับการซื้อตัวนักเตะค่าตัวแพงมหาศาล และภาระค่าเหนื่อยที่ต้องแบกรับโดยไม่จำเป็น เอาไปคว้านักเตะที่ราคาเหมาะสมรายอื่นดูน่าจะสมเหตุสมผลกว่า ซึ่งแม้ว่าจะมีบทวิเคราะห์ค่าตัว เอ็มบัปเป้ อาจจะถูกลงครึ่งหนึ่ง แต่หากมอง เปแอสเช ที่ร่ำรวยและยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัญหา โควิด-19 จนต้องประกาศลดค่าเหนื่อยนักเตะ พวกเขาก็ไม่มีทางขาย เอ็มบัปเป้ ออกจากทีมในราคาต่ำกว่า 100 ล้านปอนด์แน่นอน
ทั้งหมดคือบทวิเคราะห์โอกาสที่ จะได้เห็น เอ็มบัปเป้ ย้ายมาสวมยูนิฟอร์ม ลิเวอร์พูล ถ้าไม่เสีย มาเน่ หรือใครคนหนึ่งไปก็เป็นไปได้น้อยมากในเวลานี้ ซึ่งทางด้าน คล็อปป์ เองเคยให้สัมภาษณ์ดับเทียนไปแล้วว่าแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ ลิเวอร์พูล จะคว้า เอ็มบัปเป้ มาเสริมทัพ ปะกอบกับช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสที่ส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงินและเศรษฐกิจแบบนี้ ดูเหมือนว่าเส้นทางของ เอ็มบัปเป้ กับ ลิเวอร์พูล จะเป็นได้เพียงเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบกันในอนาคตอันใกล้นี้
- เปี๊ยกบางใหญ่ -
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมทางไลน์ขอบสนาม
