logo-heading

รู้สึกเสียวสันหลังขึ้นมาทันทีสำหรับแฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อแข้งตัวหลักของทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ ได้ทิ้งปริศนาก้อนใหญ่ให้ต้องสงสัย ภายหลังเจ้าตัวให้สัมภาษณ์ถึงความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตของเขากับทัพ "เรือใบสีฟ้า"

"ผมกำลังเฝ้ารอในเรื่องนี้อยู่ สโมสรบอกกับพวกเราว่า ได้ยื่นอุทธรณ์ และมั่นใจเกือบจะ 100 เปอร์เซนต์ว่าพวกเขาเป็นฝ่ายถูก" "ซึ่งนั้นแหละคือเหตุผลที่ทำให้ตัวของผมยังรอดู ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ผมเชื่อมั่นในทีมของผม, ไว้ให้สโมสรแถลงข่าวแล้วผมจะกลับมาทบทวนทุกอย่าง 2 ปีมันยาวนานเกินไป แต่ถ้าในกรณี 1 ปี ผมอาจต้องรอดูก่อน"  ทั้งหมดคือคำพูดล่าสุดของมิดฟิลด์ทีมชาติเบลเยี่ยม ที่เริ่มลังเลเกี่ยวกับอนาคตของต้นสังกัดว่าจะได้ลงเล่นในบอลถ้วยยุโรปหรือไม่ ภายหลังไปทำผิดกฎ "ไฟแนนเชี่ยล แฟร์เพลย์" และโดนสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ลงโทษแบนห้ามลงเล่นเกมยุโรปเป็นจำนวน 2 ฤดูกาล ซึ่งในตอนนี้ทางสโมสรกำลังรอลุ้นการตัดสินของศาลกีฬาโลกอีกครั้ง เพราะทีมได้ทำการยื่นยื่นอุทธรณ์ไป แล้วเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งเมื่อ เดอ บรอยน์ ออกมาพูดเป็นนัยๆ แบบนี้ทำให้โอกาสในการย้ายทีมของเขานั้นมีความน่าสนใจมากขึ้นเลยทีเดียว ว่าแล้ว ขอบสนาม ของเราเลยทำการวิเคราะห์ถึงความเป็นไปได้เกี่ยวกับสโมสรต่อไปของเจ้าตัว ว่าอาจจะไปที่ไหนบ้าง ... ปารีส แซงต์-แชร์กแมง หนึ่งในตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่พร้อมยื่นข้อเสนออย่างงามประเคนให้กับ เดอ บรอยน์ อย่างแน่นอน ในกรณีที่ดาวเตะชาวเบลเยี่ยมแสดงความต้องการจะย้ายออกจากถิ่น "เรือใบสีฟ้า" ซึ่งจะว่าไป เปแอสเช ก็มีครบ ทุกองค์ประกอบในการที่จะดึงตัว เดอ บรอยน์ ไปร่วมทัพ รวมไปถึงความมุ่งมั่นที่จะไปให้ไกลถึงการเอื้อมมือไปคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก มาครอบครองให้ ซึ่งนั้นมันก็คือเจตนาเดียวกับตัวนักเตะที่อยากจะลงเล่น และประสบความสำเร็จในรายการดังกล่าว ในส่วนของตำแหน่งการเล่น รวมไปถึงโอกาสลงสนามนั้นบอกได้เลยว่าเจ้าตัวแทบการันตีการเป็น 11 ผู้เล่นตัวจริง และเมื่อต้องมาผสมผสานกับแนวรุกที่เข้าขั้นยอดเยี่ยมอย่าง เนย์มาร์ หรือเอ็มบัปเป้ แล้วละก็ไม่ต่างอะไรกับหน่วยทำลายล้างประตูคู่แข่ง ไม่เชื่อลองนึกภาพตามมันคงเป็นอะไรที่เพอร์เฟคไม่ใช่น้อย เดอ บรอยน์ จ่าย, เอ็มบัปเป้ ยิง! สะเด่าไม่ใช่น้อยเลยแหละ ยูเวนตุส บางทีการโยกย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆ ในลีกประเทศอิตาลีคงเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย และเมื่อทีมนั้นคือ ยูเวนตุส ยังทวีคูณความน่าสนใจเพิ่มมากขึ้นไปอีก นอกจากนั้นถ้า เดอ บรอยน์ เลือกที่จะย้ายไปค้าแข้งที่เมือง ตูริน เจ้าตัวจะได้ลงเล่นเคียงข้างกับ 1 ในนักเตะที่เขาเคยพูดออกมาจากปากว่าอยากร่วมงานด้วยมากที่สุดอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ "สำหรับผมในฐานะผู้เล่นที่คอยสร้างสรรค์เกม  ผมต้องการบางคนที่รวดเร็ว และช่วยผมได้ในสิ่งที่ผมทำ การมี คริสเตียโน่ ผมสามารถเปิดบอลโด่งขึ้นอีก 3 เมตร และรู้ว่าเขาก็จะขึ้นโหม่งได้อยู่ดี" แน่นอนการได้ร่วมเล่นกับ CR7 นั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยที่จะดึงดูด เดอ บรอยน์ ให้จรดปากกาย้ายมาร่วมทีม ส่วนอีกหนึ่งปัจจัยนั้นก็คือความทะเยอทะยานของสโมสรในการที่จะก้าวขึ้นไปหยิบโทรฟี่เจ้ายุโรปมาครอบครองให้ได้อีกครั้ง ซึ่งนี่แหละคือความท้าทายที่รอ เดอ บรอยน์ มาเติบเต็มในการพาทีมประสบความสำเร็จของพลพรรคทัพ "ม้าลาย" อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เดอ บรอยน์ พูดเป็นนัยอาจอำลาทัพ ‘เรือใบ’ ถ้าโดนแบนลงเล่นถ้วยุโรป 2 ปี เรอัล มาดริด ชื่อของ เดอ บรอยน์ ถูกจับมาโยงกับ เรอัล มาดริด บ่อยมากพอสมควร และมันยิ่งเพิ่มความน่าจะเป็นมากขึ้นเมื่อเจ้าตัวได้ออกมาพูดเป็นนัยว่ามีโอกาสในการย้ายทีม ซึ่งจะว่าไปมันประจวบเหมาะพอดีกับทางที่ "ราชันชุดขาว" กำลังจะทำการโมดิฟายทีมยกเครื่องกันยกใหญ่ สร้าง กาลาติกอส ภาคล่าสุด ทำให้ เดอ บรอยน์ กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายเบอร์ต้นๆ ในลิสต์รายชื่อแข้งใหม่อย่างแน่นอน และเมื่อนำมาบวกกับตัวผู้เล่นเก่าอย่าง เอเด็น อาซาร์, โทนี่ โครส หรืออิสโก้ หรือแข้งวัยรุ่นฟอร์มแรงอย่าง เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้, วินิซิอุส จูเนียส์ เข้าไปแล้ว การรวมกันของแข้งที่กล่าวมาคงสร้างความยอดเยี่ยมให้กับทีมไม่ใช่น้อย ซึ่งถ้าเปรียบเป็นอาหารคงรสชาติกลมกล่อม และน่าลิ้มรสเป็นอย่างมากเลยทีเดียว บาเยิร์น มิวนิค ย้อนกลับไปสมัยที่ยังเป็นดาวรุ่งขึ้นมาใหม่ๆ เดอ บรอยน์ ในการดูแลของต้นสังกัดแม่อย่าง เชลซี ปล่อยตัวเขาย้ายร่วมทัพกับ แวร์เดอร์ เบรเมน ในสัญญายืมตัว ก่อนที่จะขายขาดให้กับ โวร์ฟบวร์ก ในเวลาต่อมา ซึ่งฟอร์มของ เดอ บรอยน์ เมื่อครั้งค้าแข้งในศึกบุนเดสลีกา เยอรมัน ถือว่ายอดเยี่ยมไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะในสีเสื้อของ โวร์ฟบวร์ก ที่เขาเป็นกำลังสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล เมื่อปี 2015 ซึงถ้าการจะที่จะย้ายกลับมาที่เยอรมันอีกครั้งในตอนนี้ มันคงไม่มีทีมไหนที่จะเหมาะสมกับ เดอ บรอยน์ ไปมากกว่า บาเยิร์น มิวนิค อีกแล้ว บวกกับผู้เล่นในตำแหน่งเพลย์เมคเกอร์ที่ทัพ "เสือใต้" มีใช้อย่างจำกัด ตัวหลักๆ ก็มีเพียงแค่ โธมัส มุลเลอร์ คนเดียวเท่านั้น ทำให้ เดอ บรอยน์ เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในการจะนำตัวมาเป็นแกนหลัก และต่อยอดความสำเร็จในประเทศ และไขว้คว้าถ้วยแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยรส์ลีก ในอนาคตอันใกล้นี้ ติดตามไลน์ขอบสนามเพิ่มเติม เพิ่มเพื่อน
logoline