logo-heading

ช่วงนี้ข่าวฟุตบอลไทยมีแต่ข่าวลือกันซะเป็นส่วนใหญ่ บ้างก็ว่าทีมดังในอาเซียนอยากได้ตัว บ้างก็ว่าจะมีนักเตะไทยไปค้าแข้งยุโรปในฤดูกาลหน้า ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็นสีสันของข่าวละครับ ส่วนจะจริงไม่จริง ก็รอให้เวลาเป็นคำตอบ

เรื่องของนักเตะไทยจะไปอาเซียน เรายกไว้ก่อนละกัน เพราะพูดถึงโอกาสความเป็นไปได้ มันเป็นไปได้อยู่แล้ว แม้ว่าลีกไทยของเราจะดูแข็งแกร่งกว่าทุกลีกในอาเซียน แต่ถ้าพูดถึงเรื่องค่าเหนื่อยแล้ว ลีกใหญ่ๆ อย่างมาเลเซีย หรือแม้กระทั่งเวียดนาม ก็ดูเหมือนพร้อมจะจ่ายค่าเหนื่อยที่มากกว่านักเตะไทยได้รับอยู่ในไทยลีกเวลานี้

มันก็เหมือนกับที่สโมสรไทยของเราไปเอานักเตะอาเซียนมาเล่นไทยลีกละครับ เราก็จ่ายให้เขามากกว่าที่เขารับอยู่ในประเทศของเขา เขาจึงมา ซึ่งถ้าเป็นสองสามปีก่อน ไทยลีกของเราก็ถือว่ามีทั้งคุณภาพและแพดานเงินเดือนที่สูงกว่าทุกลีก แต่มาถึงวันนี้ ด้วยสภาพเศรษฐกิจอะไรต่างๆ สโมสรในบ้านเราก็เริ่มจะรัดเข็มขัดมากขึ้น ก็เลยทำให้มีความเป็นไปได้ที่เราจะเห็นนักเตะไทยไปเล่นในลีกเพื่อนบ้าน

เรามาว่ากันที่ประเด็นที่น่าสนใจและกำลังพูดถึงกันอยู่ตอนนี้ก่อนดีกว่า ก็คือข่าวที่ว่า กำลังมีการพยายามที่จะทำให้มีนักเตะไทยไปค้าแข้งที่นุโรป โอ้ววววว!!! ฟังครั้งแรกก็เป็นเรื่องน่าตื่นเต้นดีนะครับ และเป็นสิ่งที่แฟนบอลใฝ่ฝันและอยากเห็นมานานแล้ว แต่ถามว่า แล้วถ้าได้ไปจริง มันจะได้เล่นจริงหรือเปล่า และถ้าไปมันจะพัฒนาพวกเขาได้มากแค่ไหน?

พูดถึงโอกาสความเป็นไปได้ก่อนนะครับ เอาที่เป็นข่าวก็มีอย่าง เอกนิษฐ์ ปัญญา ที่มีข่าวว่าจะไปบุนเดสลีกา เยอรมัน อีกคนคือ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่มีข่าวกับเลสเตอร์ ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ บอกก่อนว่าทั้งสองชื่อนี้มาจากข่าวที่เขาลือกันนะครับ

ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นลีกใหญ่ของยุโรปทั้งคู่ เรื่องความเป็นไปได้ ถ้าเอาแบบหยาบๆ เลยคือตัดพรีเมียร์ลีกก่อนได้เลยครับ ถึงจะไปได้จริงก็คงแค่ได้เข้าไปฝึกกับทีมเยาวชน ลงเล่นเกมในทีมเยาวชนเท่านั้น การจะขึ้นชุดใหญ่ มันไม่ง่ายเลย ทุกคนก็รู้กันอยู่ ถ้าใครที่ดูบอลมานาน

ส่วนในบุนเดสลีกา โอเครครับว่ามันมีความเป็นไปได้ แล้วโอกาสที่จะได้ลงเล่นเลยมีมากกว่าพรีอมียร์ลีก เพราะมันไม่มีเรื่องเวิร์คเพอร์มิทที่ซับซ้อนเหมือนในพรีเมียร์ลีก แต่เอาจริงๆ การที่คุณจะไปเป็นนักเตะในทีมชุดใหญ่ของสโมสรในบุนเดสลีกา มันก็อยากอยู่ดี

เท่าที่ผมตามข่าว ประเด็นมันอยู่ที่ว่า เอเย่นต์ของนักเตะเองที่มีความพยายามจะทำให้มันเกิดขึ้น พยายามจะผลักดันให้เรื่องนี้เป็นไปได้ โอเคละว่าถ้ามันเป็นจริงขึ้นมา ก็เป็นอีกหน้าประวัติศาสตร์ของวงการฟุตบอลไทย

แต่เราต้องกลับมามองอีกมุมนึงว่า แล้วสโมสรเขาต้องการตัวจริงๆ หรือเปล่า ครั้งนึง "เจ้าบุ๊ค" ก็เคยมีข่าวกับทีมในลาลีก้า สเปน มาแล้ว ซึ่งผมคิดว่ามันก็คงจะออกมาในทำนองเดียวกันนี้ คือเราพยายามจะดันนักเตะเราไปเล่น แต่สโมสรที่นั่นอาจจะไม่ได้สนใจจริงๆ ก็ได้

ทั้งนี้และทั้งนั้น เมื่อสโมสรเขาไม่ได้กระเสือกกระสนที่เอานักเตะไทยเราไปเล่น แต่เป็นเราที่พยายามจะเอานักเตะไทยไปเอง แบบนี้มันจะส่งผลดีกับนักเตะจริงหรือเปล่า

ยกตัวอย่างกรณีของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ นายทวารทีมชาติไทย ที่ก่อนจะไปเบลเยี่ยมคือผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในประเทศ แต่พอไปเบลเยี่ยมแล้วเป็นยังไงครับ ไม่ได้เล่นเลย ฟอร์มก็ตกลง เสียมือหนึ่งในทีมชาติให้ศิวรักษ์ ซึ่งถ้าย้อนกลับไปตอนที่เซ็นสัญญากันตอนนั้น ทีมโอเอช ลูเวิน ต้องการเจ้าตองจริงๆ หรือเปล่า ซึ่งเราก็ต้องพูดกันตามตรง

ถ้าต้องการจริงทำไมไม่ให้เล่น ซึ่งผมดีใจมากที่สุดท้าย กวินทร์ ได้มาคอนซาโดเล ซัปโปโร ในเจลีก ซึ่งน่าจะมีโอกาสได้ลงเล่นมากกว่า และแฟนบอลไทยก็น่าจะได้ติดตามผลงานได้มากกว่าด้วย

ในอดีตที่ผ่านมามีนักเตะไทยไปเล่นในยุโรปอยู่นะครับ ถ้าเอาสมัยเก่ากึกเลยที่ผมได้เห็นข่าวก็มีโค้ชเฮง วิทยา เลาหกุล ที่ได้ไปลุยบุนเดสลีกา แล้วก็มี โค้ชป้ำ วรวรรณ ชิตะวณิช ที่ไปเล่นลีกนอร์เวย์ แต่ก็ไม่ใช่ลีกสูงสุด

ส่วนที่ฮือฮาและทุกคนน่าจะจำกันได้มากที่สุดก็คือ "เจ้ามุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา กับสโมสรอัลเมเรีย ในลาลีกา สเปน นี่ขนาดกองหน้าเบอร์หนึ่งของไทย ที่ไปเล่นสเปน ก็ยังได้แค่เป็นตัวสำรอง สุดท้ายก็ต้องกลับมาเล่นบ้านเรา และตอนนี้ไปอยู่เจลีก ซึ่งนี่แหละคือจุดที่พวกเขาควรจะอยู่

ไม่ใช่ว่าไม่สนับสนุนให้นักเตะไทยเราไปยุโรปนะครับ แต่ผมมองว่ามันค่อนข้างจะไกลเกินตัวไปนิด คือถ้าสโมสรเขาไม่ได้สนใจจริงๆ การที่เราผลักดันนักเตะไปแบบนี้ มันจะเป็นการตัดโอกาสการพัฒนาฝีเท้าของนักฟุตบอลมากกว่า

จริงอยู่สมมติถ้าได้ไป ขอแค่ได้ซ้อมกับทีมในยุโรปก็เป็นประสบการณ์ที่สุดยอดแล้ว ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะใช่ครับ ที่ฟุตบอลไทยมันยังไม่เป็นอาชีพ ถ้าได้ไปซ้อมกับทีมอาชีพยุโรป มันก็คงจะดีกว่า

แต่มาถึงวันนี้ ถามจริงเถอะว่าถ้าเราไปอยู่ทีมยุโรป เราจะได้ซ้อมกับทีมชุดใหญ่เลยเหรอ เราก็คงต้องไปซ้อมกับทีมสำรอง หรือบางทีไปเริ่มกับทีมเยาวชน กว่าที่เราจะไต่เต้าตัวเองขึ้นมาจากทีมเยาวชน สู่ทีมสำรอง สู่การเป็นสำรองในทีมชุดใหญ่ สู่การเป็น 11 ตัวจริงในทีมชุดใหญ่ มันต้องใช้เวลากี่ปี

แล้วกลับกันถ้าเอาเวลาตอนนั้นมาได้ลงเล่นไทยลีกต่อเนื่อง เผลอๆ อาจจะได้ไปญี่ปุ่น ไปเล่นเจลีกก่อนก็เป็นได้ เพราะถ้าทีมในเจลีกสนใจจริงๆ ละก็ ไปยังไงก็ได้เล่น และเมื่อคุณโดดเด่นจริงๆ ก็คงจะมีแมวมองในยุโรป ดึงตัวคุณไปเอง

ที่ผมกำลังจะสื่อก็คือ มันควรไปตามสเต็ปของมัน อย่างถ้าจะมองว่านักเตะไทยในเวลานี้ ที่กำลังไปตามขั้นตามตอนของมันก็คือให้มองที่เมสซี่เจ เป็นหลัก นี่คือนักเตะที่พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าก้าวผ่านระดับไทยลีก ไปสู่ระดับเอเชีย ด้วยการเป็นแถวหน้าของเจลีก

นี่คือนักเตะระดับท็อปของเจลีกตัวจริง แต่ก็ยังไม่มีทีมในยุโรปแสดงท่าทีที่อยากจะได้ตัวไปเลย ทั้งๆ ที่ ชนาธิป คือนักเตะที่มีศักยภาพมากที่สุดที่จะไปค้าแข้งในยุโรป หรือรองลงมาก็ ธีราทร แต่โก๋อุ้ม ติดตรงเรื่องอายุที่มากขึ้น จึงเป็นเรื่องยากที่ทีมยุโรปจะให้ความสนใจ แต่สำหรับเจ้าอุ้ม ผมว่ายังเล่นในเจลีกได้อีกหลายปี

ดังนั้นที่พูดมาทั้งหมด ก็อย่าเพิ่งไปตื่นตูมอะไรเลยครับ ใครที่มีแนวโน้มจะไปค้าแข้งต่างประเทศได้ ถึงเวลามันจะได้ไปเองครับ นั่นหมายความว่า คุณจะต้องแสดงให้เห็นก่อนว่าฝีเท้าคุณมันก้าวข้ามไทยลีกไปแล้ว

เล่นอยู่ในไทยลีกก็เสียเวลาเปล่า นั่นแหละมันจะมีทีมในเอเชีย โดยเฉพาะเจลีกดึงคุณไปเอง ถ้าคุณเก่งถึงขั้นนั้นจริง และถ้าคุณจะไปยุโรป คุณก็ต้องไปแสดงให้เห็นว่าคุณก้าวข้ามลีกในเอเชียอย่างเจลีกไปแล้ว ถึงวันนั้นมันก็จะมีทีมในยุโรป มองเห็นคุณและเอาคุณไปเล่นเอง

แต่ไปการที่พยายามจะส่งไปแบบที่เอาแค่กระแส หรือหวังว่ามันจะเล่นได้ ผมว่ามันผิดขั้นตอนไปนิดนึง แล้วสุดท้ายเมื่อนักเตะไทยได้ไปจริงๆ แล้วไม่ได้เล่น สุดท้ายก็ต้องกลับมาเล่นที่ไทย และฝีเท้าอาจจะไม่เหมือนเดิมก็เป็นได้

ขออนุญาติหยิบยกเอาคำของคุณเนวิน ที่พูดถึงนักเตะไทยในทีมบุรีรัมย์ ที่จะไปเล่นต่างประเทศ คุณเนวินบอกว่า "ถ้าไปแล้วไม่ได้เป็นตัวจริง ไปแล้วไม่ได้ลงสนาม ก็อยู่ที่นี่ดีกว่า" ผมเห็นด้วยแบบร้อยเปอร์เซ็นต์

เพราะถ้าคุณเก่งจริง เดี๋ยวมันจะมีโอกาสเข้ามาเอง และเมื่อโอกาสมาแล้ว ก็อยู่ที่ว่าคุณจะคว้ามันไว้หรือไม่ ที่ผ่านมาก็เคยมี ที่โอกาสมาแล้ว แต่นักเตะเลือกไม่ได้ หรือโอกาสมาแล้ว แต่ผู่ใหญ่กั๊กเด็กก็มี

แต่มาถึงในยุคปัจจุบันนี้ผมว่าเรื่องพวกนั้นไม่มีแล้วละครับ ใจเย็นๆ ไม่ต้องรีบ ถึงเวลามันได้ไปเองละครับ

logoline