logo-heading

บาเยิร์น มิวนิค คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน 2017/2018 มาครองเรียบร้อย

"เสือใต้" บาเยิร์น มิวนิค ภายใต้การนำทีมของ ยุ๊ปป์ ไฮย์เกส เถลิงบัลลังก์คว้าแชมป์ บุนเดสลีกา เยอรมัน เป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันได้สำเร็จ และเป็นสมัยที่ 28 ของสโมสร หลังบุกไปถล่ม เอาก์สบวร์ก ไปได้ 4-1 ในศึก บุนเดสลีกา เยอรมัน คืนวันเสาร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้วทีมแกร่งแห่งเมืองเบียร์ยังคงอยู่ในเส้นทางลุ้น แชมป์ เดเอฟเบ-โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกด้วย วันนี้จะพาทุกท่านย้อนกลับไปตั้งแต่จุดเริ่มต้นฤดูกาลจนกระทั่งคว้าแชมป์บุนเดสลีกา ว่ากว่าจะคว้าแชมป์ต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง ผลงานฤดูกาลที่ผ่านมา ฤดูกาลที่ผ่านมา บาเยิร์น มิวนิค ภายใต้การนำทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ จบด้วยการคว้าแชมป์ บุนเดสลีกา สมัยที่ 27 และแชมป์ เดเอฟแอล-ซูเปอร์คัพ ด้วยการชนะดอร์ทมุนด์ อย่างไรก็ตามพวกเขาพลาดคว้าแชมป์ เดเอฟเบ-โพคาล ตกรอบรองชนะเลิศ เนื่องจากโดน โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ยัดเยียดความพ่ายแพ้ให้ และ พลาดตกรอบ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เพราะสกอร์รวม 2 นัด พ่ายแพ้ต่อ เรอัล มาดริด การเสริมทัพตลาดซัมเมอร์ คาร์โล อันเชล็อตติ จัดการเสริมทีมโดย การประกาศเซ็น นิคลาส ซูเล่ และ เซบาสเตียน รูดี้ 2 แข้งจาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ ร่วมทัพล่วงหน้าในเดือนมกราคม ซึ่งสัญญามีผลหลังจบฤดูกาล 2015/2016 จากนั้น บาเยิร์น มิวนิค ได้ทำการเซ็นสัญญากับ แซร์จ นาบรี้ อดีตเด็กปั้นปืนใหญ่ อาร์เซน่อล จาก แวร์เดอร์ เบรเมน มาเสริมทัพ โดยไม่เปิดเผยค่าตัว เมื่อ 11 มิถุนายน 2017 ถัดมาอีกเพียง 3 วันถัดมา อันเชล็อตติ ก็จัดการ โกร็องแต็ง โตลิสโซ่ มาร่วมทัพด้วยราคา 41.5 ล้านยูโร จาก โอลิมปิก ลียง เดือนเมษายน 2017 บาเยิร์น มิวนิค จัดการเซ็นคว้าตัว คิงส์ลี่ย์ โคมัน มาร่วมทีมถาวร หลังจากยืมตัวจาก ยูเวนตุส มาร่วมเล่นถึง 2 ฤดูกาล ก่อนเดือนกรกฎาคม อันเชล็อตติ ตัดสินใจเซ็นยืม ฮาเมส โรดริเกซ ที่ต้องนั่งตูด้านเป็นสำรองอยู่ เรอัล มาดริด มาร่วมทัพด้วยสัญญายืมตัว 2 ปี และเป็นผู้เล่นคนสุดท้ายที่เข้าสู่ทีมก่อนจะเปิดฤดูกาล 2017/2018 ผลงานต้นฤดูกาล บาเยิร์น เปิดฉากฤดูกาลได้ดี เอาชนะ ไบเออร์ เลเวอร์ คูเซ่น ไปได้ 3-1 แต่ทว่าเมื่อเวลาผ่านไปจนเข้าเดือนกันยายน แม้ผลงานในลีกอาจจะไม่ได้ขี้เหร่ มีหลุดแพ้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในช่วงต้นเดือนกันยายน และมีหลุดเสมอบ้าง แต่โดยรวมก็ไม่ได้แย่ เพียงแต่รูปเกมกลับถูกวิจารณ์อย่างหนัก ซึ่งขาดความดุดัน และขาดความเป็นเอกลักษณ์ที่ บาเยิร์น มิวนิค เคยมี จนกระทั่งถึงจุดแตกหักเมื่อ คาร์โล อันเชล็อตติ พาลูกทีมบุกไปบุกไปพ่ายแพ้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ถึง 0-3 แบบหมดสภาพความเป็นบาเยิร์น ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ทำให้สโมสรตัดสินใจประกาศแยกทางกับ กุนซือจอมเก๋าอย่าง คาร์โล อันเชล็อตติ เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2017 ก่อนตั้ง วิลลี่ ซาญอล คุมทีมแทน การกลับมาของ ยุ๊ปป์ ไฮย์เกส หลังจาก วิลลี่ ซาญอล ถูกแต่งตันขึ้นมานั่งขัดตาทัพ ก็พาบาเยิร์นบุกไปเสมอ แฮร์ธ่า เบอร์ลิน ก่อนวันที่ 6 ตุลาคม 2017 สโมสรตัดสินใจเรียก ปู่ยุ๊ปป์ ไฮย์เกส กุนซือระดับตำนาน อดีตแข้งอินทรีเหล็กชุดแชมป์โลก 1974 และกุนซือระดับตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค กลับมากุมบังเหียนทีมอีกครั้ง โดยจะคุมทัพไปจนจบฤดูกาลนี้ เพื่อรอหากุนซือที่เหมาะสมของทีม การกลับมากุมบังเหียนของเขาในครั้งนี้ก็มาปลุกเสือหลับให้ตื่นอีกครั้ง แมตช์สำคัญก็คงเป็นการล้างแค้น ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ด้วยการถล่มไป 3-1 เสริมทีมตลาดหน้าหนาว บาเยิร์น มิวนิค ตัดสินใจดึง ซานโดร ว้ากเนอร์ จาก ฮอฟเฟ่นไฮม์ กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง ในช่วงตลาดเดือนมกราคม และเมื่อเขาได้ลงเล่นก็ช่วยผลิตสกอร์แบ่งเบาภาระ เลวานดอฟสกี้ ได้ดีไม่น้อย บาเยิร์น มิวนิค สไตล์ นับตั้งแต่ที่ ยุ๊ปป์ ไฮย์เกส กลับเข้ามาคุมทีม บาเยิร์น มิวนิค เก็บชัยชนะรวดในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ติดต่อกัน 12 นัด (รวมเมื่อครั้งนั่งแท่นกุนซือรอบก่อน) ส่วนในลีกก็ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม มีสะดุดเสมอ และ แพ้ 2 นัด แต่ทว่า ยุ๊ปป์ ไฮย์เกส ก็ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค แข็งแกร่งพอที่จะรั้งอันดับ 1 แบบเหนียวแน่น และนำขาดลอย ไฮย์เกส ทำให้ บาเยิร์น มิวนิค กลับมาเป็นทีม "เสือใต้" ผู้ดุดันอีกครั้ง พร้อมทั้งกลับมาอัดคู่ปรับร่วมลีกอย่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ทั้งไปและกลับ โดยนัดล่าสุด เมื่อ 31 มีนาคม 2018 ที่ผ่านมา ก็เปิดรังถล่ม ดอร์ทมุนด์ ไปถึง 6-0 ชนิดที่แข้ง ดอร์ทมุนด์ หาทางกลับบ้านไม่เจอ การดึงศักยภาพทีมและนักเตะ ก่อนหน้าที่ ไฮย์เกส จะเข้ามาคุมทัพ ฮาเมส โรดริเกซ มีปัญหากับการค้าแข้งในเยอรมันเป็นอย่างมาก ด้วยภาษาและการปรับตัวเข้าทีมไม่ได้ ซึ่งแม้ว่าเขาจะมีโอกาสได้ลงเล่นบ้างแต่ก็ดูเหมือนไม่เข้าระบบแต่ทว่าพอ ยุ๊ปป์ เข้ามาคุมทีม เขาได้ใช้วิธีการ ทักษะประสบการณ์ทำให้ปัจจุบัน ฮาเมส โรดริเกซ เป็นหนึ่งในนักเตะตัวหลัก คีย์แมนคนสำคัญของทีม ทั้งนี้ บาเยิร์น มิวนิค ก็จ่อจะเซ็นสัญญาถาวรกับเขาในซัมเมอร์นี้ รวมไปถึงเจ้าตัวก็มีความสุขมากขึ้นกับการใช้ชีวิตใน อัลลิอันซ์ สเตเดี้ยม นอกจาก ฮาเมส แล้ว โตลิสโซ่ ก็เป็นอีกแข้งที่ดูดีมีอนาคต ฉลองแชมป์บุนเดสลีกา สมัยที่ 28 การออกไปเยือน เอาก์สบวร์ก ในเกมล่าสุด เป็นงานยากของ เสือใต้ ไม่น้อย อีกทั้งโดนนำไปก่อน แต่ทว่าท้ายที่สุด ด้วยการแก้เกม และความนิ่ง ประสบการณ์นักเตะ พวกเขาก็คว้าชัยเหนือ เอาก์สบวร์ก ด้วยการถลุงไป 4-1 ฉลองแชมป์ จากการแข่งไปเพียง 29 นัด จาก 34 นัด เก็บได้ 72 คะแนน นำห่างอันดับที่ 2 อย่าง ชาลเก้ ถึง 20 แต้ม เป็นแชมป์บุนเดลีกา สมัยที่ 28 ของทีม และเป็นสมัยที่ 6 ติดต่อกันแล้ว และทั้งหมดนี่ คือเส้นทางว้าแชมป์ ของ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งพวกเขายังคงมีลุ้นคว้า ทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาลนี้ โดยเหลือแข่งขันรายการบอลถ้วย เดเอฟเบ-โพคาล และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ซึ่งบนเวที ยุโรป ก็ดูท่าทางว่าหนทางเข้ารอบรองจะสดใสเมื่อบุกไปเชือด เซบีย่า 2-1 ได้อเวย์โกลกลับออกมา 2 ประตู คงต้องติดตามต่อไปว่า ฤดูกาลนี้พวกเขาจะจบลงด้วยการคว้ากี่แชมป์ แต่ไม่ปฏิเสธเลยว่าปู่ ยุ๊ปป์ ไฮย์เกส กลับมาทำให้ "เสือใต้" เป็นที่น่ากลัวของคู่ต่อสู้อย่างแท้จริง
logoline