logo-heading

ในทีแรกผมไม่ได้สนใจดูหนังเรื่องนี้ เหตุผลหลักๆคือผัวเมียทะเลาะกัน และไม่คิดจะดูตามกระแสหลังจากคว้าออสการ์เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาด้วย ทว่าหลังจากช่วงหยุดโควิด 19 ผมกดหาหนังดูไปเรื่อยจนไม่รู้จะดูอะไรแล้ว ปรากฏว่าเห้ยทำไมมันดีเกินกว่าที่คาดคิดเอาไว้เนี่ย

. Marriage Story อาจเป็นหนังที่พล๊อตดูธรรมดาไม่ได้มีอะไรพิเศษ เพราะมันแค่เรื่อง ผัวเมียมีปัญหาในชีวิตคู่จนนำพาไปสู่การแตกหักและทะเลาะกันธรรมดาทั่วไป . แต่ความพิเศษของ Marriage Story คือชั้นเชิงในการเล่าเรื่อง ที่ทุกซีน ทุกอารมณ์ของตัวละคร การเถียงกัน การทะเลาะกัน การปรึกษากับทนาย การใส่เรื่องข้อกฎหมายเข้าไป มีผลต่อเรื่องราว มีความสำคัญ และดูน่าจดจำ เอาอารมณ์คนดูอยู่หมัดแบบหมดทุกซีนจริงๆ คือคนมีแผลสดๆอย่างผม คือนั่งน้ำตาแตกไปหลายฉากเลย ไอ้บ้าเอ้ย นั่งดูทิวีอยู่ห้องร้องไห้อยู่คนเดียวกับแมวหนึ่งตัว คือเป็นโมเม้นที่สุดพิเศษและจำไม่ลืมเลยจริงๆ . หนังมีหลายๆซีนที่นำเสนอการต่อเนื่องของอารมณ์แบบลองเทค มันดูเหมือนธรรมดาทั่วไปนะ สำหรับหนังดราม่า แต่พออารมณ์มันไปสุด คือมันได้อารมณ์ไม่ต่างจากหนังแอคชั่นเดือดๆเรื่องหนึ่งเลยให้ตาย มึงทำกรูจุกอกมาก ไอ้หนังเรื่องนี้ . อีกหนึ่งข้อที่เรียกได้ว่าเป็นข้อดีของมัน คือ การแสดงของนักแสดงหลักทั้งสอง ไม่ว่าจะเป็น อดัม ไดรเวอร์ ที่ต้องบอกได้เลย ไอ้หนุ่มคนนี้แม่งโคตรมีของ คือการแสดงในเรื่องคือที่สุดแล้ว ฉากร้องเพลงคือฉากเดอะเบสเลย ส่วนสการ์เลตต์ โจแฮนส์สัน นานๆจะได้เห็นเธอกลับมาซีนอารมณ์อีกครั้ง ก็ดีงามไม่แพ้กัน อือหือฉากคุยกับทนาย เธอแสดงหรือว่าเธออินว่าชีวิตเธอจริงๆ คือมันดีงามมากๆ น้ำตาสั่งได้ตลอดเวลา ทำได้ไงเนีย สรุป  คุณมีแอป NETFLIX กันใช่ไหม อยากดูหนังดีๆสักเรื่องไหม ไปดูสิ รออะไร Marriage Story นี่แหละ ที่สุดแล้ว เอาเลย 10/10 ไม่รู้จะหักอะไรแล้ววววว 10/10
logoline