เมื่อ ลิเวอร์พูล พลาด แวร์เนอร์ “เสียดาย แต่ไม่เสียใจ”

จบลงไปเรียบร้อยแล้วสำหรับมหากาพย์ดีล ติโม แวร์เนอร์ หัวหอกดังของ แอร์เบ ไลป์ซิก ที่ท้ายที่สุดตัดสินใจเลือกไปสวมยูนิฟอร์มสีน้ำเงินของ เชลซี แทนที่จะเป็นสีแดง ลิเวอร์พูล ถือเป็นมหากาพย์การปาด ที่แฟนบอลต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อ้าว เห้ย ! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า ในช่วงที่ผ่านมา ติโม แวร์เนอร์ ตกเป็นข่าวกับหลายทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป ไม่ว่าจะเป็น ลิเวอร์พูล, บาเยิร์น มิวนิค, เชลซี, บาร์เซโลน่า, อินเตอร์ มิลาน และ ยูเวนตุส แต่ชื่อของ ลิเวอร์พูล กลายเป็นตัวเต็งจากบรรดาทีมทั้งหมดที่กล่าวมา ทั้งข่าวที่ออกมา และการอ่อยของ แวร์เนอร์ เอง ที่อ่อย ลิเวอร์พูล ให้มาดึงไปร่วมทีมเต็มแก่ รวมถึงข่าวที่ คล็อปป์ จีบ แวร์เนอร์ อยู่ตลอด มันทำให้แฟนบอล ลิเวอร์พูล กระชุ่มกระชวยหัวใจ และมั่นใจเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ ที่สถานนีปลายทางของเขาต้องเป็น ลิเวอร์พูล แน่นอน แต่ทว่าแค่คำพูด แค่ข่าว แค่การจดจ้อง ก็ไม่อาจสู้เม็ดเงินได้ สุดท้ายแล้วกลับ เป็น เชลซี ที่ยอมจ่ายค่าฉีกสัญญาราว ๆ 54 ล้านปอนด์ เพื่อดึง ติโม แวร์เนอร์ มาร่วมทีมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จบดีลมหากาพย์ และเป็นอีกหนึ่งดีลที่ เชลซี สามารถปาดหน้าทีมคู่แข้งคว้าตัวนักเตะมาร่วมทีมได้สำเร็จ จากการให้สัมภาษณ์ของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ปัจจัยสำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้ ลิเวอร์พูล อดคว้า ติโม แวร์เนอร์ ในครั้งนี้เป็นเพราะเงินค่าฉีกสัญญาล้วน ๆ ตามรายงาน ลิเวอร์พูล สูญเสียรายได้มหาศาลจากการที่ฟุตบอลไม่สามารถแข่งขันในได้ช่วงดควิด-19 ระบาด และต่อให้กลับมาแข่งได้ ก็อดได้รายรับจากวันที่มีแมตช์เดย์การแข่งขัน เรียกได้ว่าโดนพิษเศรษฐกิจในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสเล่นงานเต็ม ๆ ในมุมมองของแฟน ลิเวอร์พูล แล้วต้องยอมรับเต็มอกว่า เสียดายมากจริง ๆ สำหรับการพลาดได้ตัว แวร์เนอร์ เพราะ ลิเวอร์พูล เองไม่มีหน้าเป้าธรรมชาติที่ยิงประตูเป็นกอบเป็นกำและมีประสบการณ์เหมือน แวร์เนอร์ โดยผลงานขอในฤดูกาลนี้ ลงสนามทุกรายการ 43 นัด ยิง 32 ประตู และแอสซิสต์อีก 13 ครั้ง มีส่วนร่วมกับประตูมากกว่าการลงสนามเสียอีก เชื่อว่าการได้ แวร์เนอร์ เข้ามาเสริมทีม จะช่วยให้ขนาดของทีม ลิเวอร์พูล ใหญ่ขึ้นอีก แกร่งขึ้น และเพิ่มมิติความสร้างสรรค์ในเกมรุกมากขึ้นอย่างแน่นอน เมื่อพิจารณาค่าตัวของเขากับผลงานในสนามก็ต้องบอกว่า ค่าฉีกสัญญาของเขาถือว่าไม่แพงเลยสำหรับโลกของฟุตบอลในปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเหตุผลของ ลิเวอร์พูล ในเรื่องการขาดหายของรายได้ก็ฟังขึ้นอยู่บ้าง เนื่องจาก ลิเวอร์พูล มีแผนการขยายสนามที่ต้องใช้เงินจำนวนมากอีก จากที่มีแผนการเริ่มขยายสนามในปีนี้ ก็ถูกเลื่อนออกไปอีก 1 ปี คงต้องรัดเข็มขัดและเป็นหน้าที่ของผู้บริหารในการวางแผนการเงินอย่างรัดกุม [caption id="attachment_118441" align="aligncenter" width="840"]  [/caption] ทว่าหากมองในอีกมุม การเสริมกองหน้าอาจไม่ใช่เป้าหมายหลักในใจ คล็อปป์ ก็เป็นได้ เพราะนอกจากกองหน้าแล้ว ลิเวอร์พูล ตกเป็นข่าวอย่างหนักในการมองหากองหลังมาเสริมแกร่งหลังบ้าน โดยเฉพาะการหาอะไหล่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ในแบ็กซ้าย ซึ่งในส่วนของกองหน้าเอง สามประสาน โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ ซาดิโอ มาเน่ ยังอยู่กับครบ สำรองยังมี ดิว็อค โอริกี้, เซอร์ดาน ชากิรี่ และ ทาคุมิ มินามิโนะ ที่รอเวลาปรับตัวได้ ดังนั้นเป้าหมายหลักของ คล็อปป์ อาจจะไม่ใช่การหากองหน้าก็เป็นได้ เพราะเชื่อว่าถึงแม้จะโดนพิษเศรษฐกิจเล่นงาน แต่ถ้า คล็อปป์ อยากได้ เพื่อมาเสริมแกร่งทีมจริง ๆ คงเดินหน้าลุยแบบเต็มอัตราศึก ในฐานะแฟน ลิเวอร์พูล ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรก็ตามการไม่ได้ แวร์เนอร์ มาร่วมทัพก็เป็นเรื่องน่าเสียดายสำหรับ เหล่า เดอะ ค็อป มันคงไม่น่าเสียดายขนาดนี้ถ้าไม่เกิดการจีบกันไปมา อาการเหมือนการจีบหญิงแต่ไม่ติด ต้องอกหัก แต่ไม่ตายอะไรแบบนั้น อย่างไรก็ตามถึงจะเสียดายแต่ไม่เสียใจ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ ลิเวอร์พูล พลาดนักเตะทั้งที่ตกเป็นข่าวอย่างหนัก และยังคงเชื่อมั่นในตัว คล็อปป์ ท้ายที่สุดการได้ใครเข้ามาร่วมทีมก็ต้องแล้วแต่ คล็อปป์ ไม่ว่าจะได้ใครเข้ามาก็เชื่อว่าแข้งรายนั้นจะมาเติมเต็มทีมได้ถูกจุด หาก คล็อปป์ หรือ ผู้บริหารเลือกแล้ว แฟนบอลก็ได้แต่ช่วยเชียร์และสนับสนุนกันต่อไป

- เปี๊ยกบางใหญ่ -