logo-heading

ในช่วง 3-4 ปีหลังฟุตบอลไทยกับเวทีเจลีกกลายเป็นของใกล้ตัวสำหรับแฟนบอลชาวไทย หลังจากที่มีนักเตะไทยก้าวไปพิสูจน์ตัวเองในลีกซามูไร 4-5 ราย ไม่ว่าจะเป็น ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, ธีราทร บุญมาทัน, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ ฯลฯ รวมถึงแข้งบางรายที่ไปลงเล่นในลีกเจ2 และ เจ 3

เวทีลูกหนังญี่ปุ่นเปิดรับนักเตะไทยมากขึ้น หลังจากที่ผ่านมา นักบอลไทยมักเป็นแค่ข่าวลือ แต่สุดท้ายไม่มีความสนใจที่แท้จริงจากทีมชั้นนำในเจลีก ซึ่งเรามักจะเห็นตามหน้าข่าวทั้งหนังสือพิมพ์และสื่อออนไลน์อยู่ประจำ ก่อนที่ เจ ชนาธิป จะได้ไปค้าแข้งกับคอนซาโดเล ซัปโปโร ในซีซั่น 2017 วันนี้ขอบสนามขอนำเสนอ เหล่านักเตะไทยที่ตกเป็นข่าวกับทีมในเจลีก แต่สุดท้ายไม่มีอะไรในกอไผ่และปักหลักใช้ชีวิตในไทยลีกแทน 1.ธนบูรณ์ เกษารัตน์ แค่มีข่าวเท่านั้น! แข้งไทยแค่เกือบได้ไปเจลีก กองกลางตัวรับที่แจ้งเกิดอย่างรวดเร็ว เจ้าของฉายา "บุสเก็ตต์เมืองไทย" จากนักเรียนโรงเรียนกีฬากรุงเทพมหานคร และถูกดึงตัวไปอยู่กับบีอีซี เทโรศาสน ตั้งแต่อายุไม่ถึง 18 ปี เขาเป็นแข้งพูดน้อยทำงานหนัก จนก้าวกระโดดมาเป็นกำลังสำคัญให้ทีมมังกรไฟ และทีมชาติไทย ก่อนจะจำใจย้ายไปอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2016 ในช่วงเวลานั้น "ตั้ม" กำลังรุ่งโรจน์ ทั้งในระดับสโมสรและทีมชาติ ยึดพื้นที่ 11 ตัวจริงจนไม่มีใครมาเบียดแย่งบทบาทมิดฟิลด์ตัวรับจากเขาไปได้ กลางปี 2016 เอฟซี โตเกียว ทำการติดต่อทาบทามมายังนักเตะและกิเลนผยอง โดยมีข้อเสนอที่ล่อตาล่อใจคือการยืมตัว 18 เดือน ค่าเหนื่อยบ้านพัก รวมถึงโอกาสได้ลงสนามกับผู้เล่นในตำแหน่งกองหลังทีมชาติญี่ปุ่น คือ เซอิ มูโรยะ และ มาซาโตะ โมริชิเกะ แต่สุดท้ายเมืองทอง ตัดสินใจไม่ปล่อยนักเตะและเก็บไว้ใช้งาน รวมถึงธนบูรณ์ เองไม่อยากไปปรับตัวกลางฤดูกาลในเจลีก ใครจะไปคิดละว่ามันคือการปัดโอกาสครั้งสำคัญในการก้าวกระโดดไปในลีกต่างประเทศ และสุดท้ายก็ไม่เคยมีข้อเสนอจากทีมในเจลีกมายัง ธนบูรณ์ อีกเลย 2.ทริสตอง โด แค่มีข่าวเท่านั้น! แข้งไทยแค่เกือบได้ไปเจลีก หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ที่มีเชื้อสายเวียดนาม ที่เริ่มฝึกฟุตบอลจากศูนย์ฝึกแกลร์ฟงแตน สถานที่ที่เคยปลุกปั้น คีเลียน เอ็มบัปเป้, เธียร์รี่ อองรี มาแล้ว โด เริ่มต้นด้วยบทบาทปีกขวา แต่ประสบปัญหาในการขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของลอริยองต์ และ อฌักซิโอ้ ในระหว่างที่กำลังมองหาทีมใหม่ กลางปี 2014 เขาได้รับข้อเสนอจากบีอีซี เทโรศาสน ที่กำลังมองหาแข้งลูกครึ่งไทยมาเสริมทีม นั้นจึงทำให้เขาเดินทางหอบหิ้วสตั๊ดมาทดสอบฝีเท้าแบบที่ไม่มีใครรู้จักชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน และมีชื่อเป็นขุนพลเทโรในช่วงเลก 2  จากนั้นโด มีชื่อติดทีมชาติไทยและถูกปรับบทบาทไปเล่นเป็นแบ็คขวาแทน หลังจากนั้นเขาและนักเตะอีก 5 ชีวิตถูกส่งไปอยู่กับเมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี 2016 ณ รั้วเอสซีจี สเตเดี้ยม โด กลายเป็นตัวเลือกคนสำคัญในบทบาทเกมรับทางฝั่งขวา ด้วยรูปร่างแบบคนต่างชาติ ที่มีความฟิตแข็งแรงแข็งกว่าานักเตะไทยในตำแหน่งเดียวกัน จึงยึดโยง 11 ตัวแรกในนามทีมชาติไทยได้สบาย ช่วงที่รับใช้กิเลนผยอง มี 2 สโมสรในเจลีก ทาบทามเขาไปร่วมทีม คือ มัตซูโมโตะ ยามากะ และคอนซาโดเล ซัปโปโร โดยมีค่าเหนื่อยที่เท่ากับตอนอยู่กิเลนผยอง แต่นักเตะตอบปฏิเสธไป เพราะไม่ต้องการย้ายไปปรับตัวในลีกอื่น แถมเงินที่ได้ก็ไม่ได้สูง สู้อยู่ที่เดิมต่อไปดีกว่า จากนั้นเขาก็ย้ายไปอยู่กับแบงค็อก ยูไนเต็ด 3.วรชิต กนิตศรีบําเพ็ญ แค่มีข่าวเท่านั้น! แข้งไทยแค่เกือบได้ไปเจลีก แนวรุกหน้าตี๋จากเชียงใหม่ เด็กที่เกือบจะถูกชลบุรี เอฟซี คัดตัวออกไปแล้ว แต่สุดท้ายก็อยู่ในระบบเยาวชนของทัพบลูชาร์คในยุคใหม่ วรชิต ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ชลบุรี ก่อนอายุ 18 ปี พร้อมกับความคาดหวังว่าจะเป็นหัวหอกคนสำคัญในยุคเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่ ด้วยเบสิคแท็คนิคที่ดีเยี่ยม ทำให้เขาได้รับโอกาสสำคัญจากโค้ชมากมายในรั้วชลบุรี เอฟซี วรชิต ถูกส่งตัวไปทดสอบฝีเท้ามากมายทั้งเลสเตอร์ ซิตี้ รวมถึงทีมในญี่ปุ่น ทั้ง วิสเซล โกเบ, เอฟซี โตเกียว และโออิตะ ตรินิตะ แต่ไม่มีทีมไหนให้ความสนใจเขาอย่างจริงจัง ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะนักเตะดูไม่มีความกระตือรือร้น ไม่มีความกระหายที่มากพอ นอกจากนี้ วรชิต ยังเหมือนนักบอลที่เหมือนจะเป็นดาวรุ่งตลอดกาล คือเก่งในระดับผู้เล่นวัยเดียวกัน แต่พอเจอรุ่นใหญ่ฝั่งตรงข้าม เขาแกร่งพอที่จะไปสู้รบต่อกรได้ ซึ่งเห็นได้ชัดเลยว่า เวลาผ่านไป 3 ปีแล้ว แม้จะทำผลงานได้ดีในไทยลีก แต่ยังไม่มีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ 4.สรรวัชญ์ เดชมิตร แค่มีข่าวเท่านั้น! แข้งไทยแค่เกือบได้ไปเจลีก แข้งมาดกวนจากกรุงเทพมหานคร อดีตเพื่อนร่วมรุ่นของธีราทร บุญมาทัน ในรั้วโรงเรียนกีฬากทม. เขาแตกต่างจากนักเตะคนอื่น คือเมื่อจบม.ปลาย ออกไปทดสอบฝีเท้าในสิงคโปร์ กับแทมปิเนส โรเวอร์ส ในยุคที่มี"โค้ชป้ำ" ววรวรรณ ชิตะวณิช ก่อนจะกลับเมืองไทย มาลงเล่นให้บางกอกกล๊าส แต่ฟอร์มไม่โดดเด่น และถูกบีอีซี เทโรศาสน ซื้อตัวไปร่วมทีม เขาอยู่ที่นั้นได้ไม่นาน ก็ได้รับการแจ้งว่าไม่อยู่ในแผนการทำทีม และถูกปล่อยตัวมาอยู่กับแบงค็อก ยูไนเต็ด ในปี 2014  4 เดือนแรกเขาเป็นเด็กบอลธรรมดา จนกระทั่งการเข้ามาของมาโน่ โพลกิ้ง ที่ปรุงแต่งหาจุดที่ลงตัว ให้ "แคมป์" ปล่อยให้เป็นนักบอลตัวรุกอิสระ ทำหน้าที่ตามใจตัวเอง ปรากฏว่าเขาฉายแสงแจ้งเกิดตามแนวทางที่มาโน่ มอบให้ กลายเป็นตัวหลักในทีมแข้งเทพ และกลับไปมีชื่อติดทีมชาติไทยอีกครั้ง ช่วงที่อยู่กับบียู "โค้ชเฮง" วิทยา เลาหกุล ประธานพัฒนาเทคนิคสมาคมฟุตบอล เปิดเผยว่ามีทีมในเจลีก อยากได้เขาไปร่วมทีม แต่ทว่าเป็นทางสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ปฏิเสธที่จะปล่อยแข้งมาดกวนออกไป เพราะเป็นคีย์แมนคนสำคัญ 5.สารัช อยู่เย็น แค่มีข่าวเท่านั้น! แข้งไทยแค่เกือบได้ไปเจลีก กองกลางทีมชาติไทย หรือพระเอกเอ็มวีเชือกวิเศษของลาบานูน เจ้าของธุรกิจคาร์แคร์ย่านปทุมธานี จากลูกชายพนักงานบริษัทสยามกีฬา ที่มีใจรักในกีฬาฟุตบอล พัฒนาฝีเท้าจนได้รับสัญญาจากเมืองทอง ยูไนเต็ด และก้าวไปติดทีมชาติไทยในที่สุด เดิมที สารัช กำลังจะถูกปล่อยตัวออกจากเมืองทอง แต่เพราะอาการบาดเจ็บของ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ทำให้เขาก้าวมายึดพื้นที่ตัวจริงทั้งในนามทีมชาติและสโมสร และกลายเป็นแข้งที่ทีมขาดไม่ได้ สารัช มีความฝันอยากไปสัมผัสประสบการณ์ลูกหนังในญี่ปุ่น หลังประสบความสำเร็จมาแทบทุกอย่างในเมืองไทย และในละแวกอาเซียน และมีบางสโมสรในเจลีกสนใจอยากได้ตัวไปยืมตัว แต่ทว่าอุปสรรคคือเรื่องของความแตกต่างที่เขาไม่มีอะไรที่เด่นชัดที่จะสร้างความแตกต่างให้กับทีมในญี่ปุ่นได้ คิลเลอร์พาสในการผ่านบอลก็ไม่แม่นยำ วิ่งน้อย ได้แต่แปะบอลไปมา จุดนี้ทำให้ไม่มีใครสนใจ "ตังค์" อย่างจริงจัง และเรื่องราวของเขาก็หายเงียบไป พร้อมกับการอำลาเมืองทอง ไปอยู่กับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด    
logoline