บอลไทยเดอะ ซีรีย์ ในสัปดาห์นี้ ทีมงานขอบสนามบอลไทย ขอโหมโรงก่อนไทยลีก 2020 จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง โดยวันนี้ขอนำเสนอฟีเจอร์ 10 แข้งที่ดีที่สุดของ "บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด"
เชื่อว่าแฟนคลับของ ปราสาทสายฟ้า น่าจะมีแข้งในดวงใจหลายต่อหลายคนแน่นอน แต่ทาง ขอบสนามบอลไทย จะเลือกใครเข้ามาติดโผกันบ้างไปดูกันได้เลย ...
ธีราทร บุญมาทัน อดีตแบ็กซ้ายตัวเก่งของทีมที่ปัจจุบันเล่นอยู่ในเจลีกกับ โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส และคว้าแชมป์เจลีกมาได้เชยชมได้แล้ว แม้ว่าตอนแยกย้ายจะทำให้แฟนๆ เสียใจอยู่บ้างกับการย้ายไปร่วมทีม เอสซีจี เมืองทอง แต่ต้องยอมรับว่าผลงานของ "โก๋อุ้ม" กับ "สายฟ้า" มันคือที่สุดจริงๆ เพราะเขาอยู่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในช่วงที่ทีมครองประเทศและครองความยิ่งใหญ่กับฟุตบอลได้อย่างต่อเนื่องหลายปี และถูกยกให้เป็นแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดของเมืองไทยอีกด้วย
คาร์เมโล่ กอนซาเลซ มิดฟิลด์ชาวสเปนที่กลายไปเป็นกองหน้าของ บุรีรัมย์ รายนี้ย้ายมาร่วมทีม บุรีรัมย์ ในปี 2013 และด้วยความที่ต้องมาแทนที่ โออ็องด์ซ่า และ อาเชียมปง ทำให้ความกดดันค่อนข้างสูง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ทำให้แฟนๆ ต้องผิดหวัง เมื่อพาทีมคว้าทั้งแชมป์ ไทยลีก, เอฟ เอคัพ, ลีกคัพ ได้ทันที แถมยังคว้าตำแหน่งดาวซัลโวไทยลีก 2013 ได้อีกด้วย (ยิงไป 23 ลูก) จากนั้นในปี 2014 ก็ยังพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีกได้อีก 1 สมัย อีกด้วย
ออสมาร์ อิบันเญซ กองหลังชาวสเปนรายนี้ถือเป็นแข้งตำนานของ บุรีรัมย์ อีกคนนึง โดยเขาย้ายมาร่วมทีม บุรีรัมย์ ในเลกที่ 2 ของปี 2012 แม้จะเล่นไทยลีกในปีนั้นไม่ได้ แต่เขาถูกส่งชื่อเล่นในบอลถ้วย ซึ่งก็ไม่ทำให้แฟนบอลต้องผิดหวังเมื่อจัดการคว้าแชมป์ทั้ง ลีก คัพ และ เอฟเอ คัพ ก่อนที่ในปี 2013 เขาจะถูกส่งชื่อเล่นไทยลีก และเขาก็พาทีมเถลิงบัลลังก์แชมป์ลีกสูงสุดได้สำเร็จ แถมยังทำได้ดีในบอลถ้วยเหมือนเดิมด้วยการคว้าทั้ง 2 ถ้วยอีกครั้ง บวกกับผลงานในฟุตบอลเอเชียอย่าง รายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก ที่ทำได้ดีด้วยการพาทีมเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกของสโมสรอีกด้วย
โก ซุล กิ คือแข้งเอเชียที่ประสบความสำเร็จที่สุดคนนึงของไทยลีก โดยกองกลางชาวเกาหลีใต้คนนี้ย้ายมาร่วมทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2015 ซึ่งตั้งแต่ปีนั้นเขากลายเป็นกำลังสำคัญของทีมทันที พาทีมคว้าแชมป์ได้มากมายทั้ง ไทยลีก, เอฟเอคัพ, ลีกคัพ, ถ้วย ก. ก่อนที่ นายโก จะปิดฉาก 3 ฤดูกาลกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (2015-2017) ด้วยสถิติอันยอดเยี่ยมลงสนาม 94 นัดทำไป 17 ประตู 11 แอสซิสต์ เรียกได้ว่าในช่วงที่เขาเล่นให้กับ บุรีรัมย์ นั้น ปราสาทสายฟ้า จะขาดเขาไม่ได้เลยจริงๆ
แฟรงค์ อาเชียมปง ปีกกึ่งกองหน้าชาวกาน่าถือเป็นแข้งต่างชาติที่เข้ามาเล่นในไทยลีกยุคใหม่ โดยย้ายมาร่วมทีม บุรีรัมย์ ในปี 2011 ด้วยวัย เพียงแค่ 18 ปีเท่านั้น แม้จะเข้ามาเล่นตอนยังวัยรุ่น แต่เขาสามารถคว้าแชมป์กับทีม 5 รายการ ประกอบด้วย โตโยต้า ไทยลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ โตโยต้า ลีกคัพ 2 สมัย ก่อนย้ายไปค้าแข้งที่ยุโรปกับ อันเดอร์เลชท์ ด้วยค่าตัวสถิติไทยลีกขณะนั้น 1 ล้านยูโร หรือ 39 ล้านบาท จากนั้นปัจจุบัน มาอยู่กับ เทียนจิน เทด้า และ ปัจจุบัน ติดทีมชาติกานาชุดใหญ่ เป็นที่เรียบร้อย
อันเดรส ตูเนซ สำหรับกองหลังชาวเวเนซุเอล่ารายนี้ คือนักเตะต่างชาติรายสุดท้ายที่ออกจากทีมไปเมื่อไม่นานนี้ โดยเขาย้ายมาร่วมทีม บุรีรัมย์ ในเลกที่ 2 ของปี 2014 และยึดตำแหน่งนักเตะตัวหลักของทีมได้ทันทีที่ลงเล่น แม้ในช่วงปี 2017 จะถูกปล่อยยืมตัวไปให้กับ เอลเช่ ในสเปน แต่เพียงแค่เลกเดียวเขาก็กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง โดย ตูเนซ คว้าแชมป์กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มาหมดแล้วทุกรายการ โดยเฉพาะปี 2015 ปีที่สร้างชื่อให้กับตัวเองด้วยการคุมแผงหลังให้กับ บุรีรัมย์ จนคว้าแชมป์ทุกรายการในประเทศมาแล้ว
ดิโอโก้ หลุยส์ ซานโต สำหรับกองหน้าชาวบราซิลรายนี้ย้ายจาก พัลไมรัส มาอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2015 ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตัวเขาและ บุรีรัมย์ เพราะหลังจากย้ายมาเล่นในเมืองไทยจนถึงปีที่เขาย้ายทีม เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลคนนึง ด้วยการพาทีมคว้าแชมป์ไป 11 รายการ พ่วงด้วยสถิติอีกมากมายทั้งเป็นนักเตะต่างชาติคนแรกที่ยิงได้ 100 ประตู กับ 1 สโมสร, เป็นนักเตะคนที่ 6 ที่ยิงเกิน 100 ประตูในไทยลีก, เป็นดาวซัลโวตลอดกาลของ บุรีรัมย์, เป็นนักเตะคนแรกที่ยิงได้ 30 ประตูถึง 2 ฤดูกาล, เป็นนักเตะที่ยิงแฮตทริกได้เยอะที่สุดในไทยลีกทำไปได้ 8 ครั้ง, สุดท้ายเขายังเป็นเจ้าของสถิติยิงติดต่อกันนานที่สุดในไทยลีกอยู่ที่จำนวน 10 นัด
จักรพันธ์ แก้วพรม กัปตันทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คนปัจจุบันในถิ่น ช้าง อารีนา เป็นนักเตะที่สามารถคว้าแชมป์ไทยลีกได้สูงที่สุด รวมทั้งสิ้น
7 สมัย โดยเป็นการคว้าแชมป์ร่วมกับ เอสซีจี เมืองทอง
1 ครั้ง ก่อนที่จะย้ายมาร่วมทัพ ปราสาทสายฟ้า และสามารถคว้าแชมป์ลีกออีก
6 ครั้ง แม้ว่าปีที่ผ่านมาจะเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวนแบบออดๆ แอดๆ แต่ผลงานก่อนหน้านี้ทั้งในนามสโมสร และ การเล่นให้กับทีมชาติ
“เจ้าโน๊ต
” พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเป็นมิดฟิลด์ในแบบฉบับที่ดีทั้ง
“บู๋
” และ
“บุ๋น
” เป็นยังไง
ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน รองกัปตันทีมของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และเป็นมือหนึ่งของทีมมาอย่างยาวนาน โดย ศิวรักษ์ นั้นอยู่กับ บุรีรัมย์ มาตั้งแต่แรกเริ่มในปี 2010 โดยเขาเฝ้าเสาให้ทีมตั้งแต่ยังใช้ชื่อว่า บุรีรัมย์ พีอีเอ จนล่าสุดใช้ชื่อทีมว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พร้อมกับผ่านมาแล้วทุกช่วงเวลาของสโมสรไม่ว่าจะเป็นการขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดด้วยการเป็นแชมป์ทุกรายการในประเทศ หรือ ในช่วงที่ตกต่ำที่สุดไม่ได้แชมป์อะไรเลย เรียกว่าได้ "แชมป์" เป็นหนึ่งในไอคอนของ ปราสาทสายฟ้า ไปแล้วด้วย
สุเชาว์ นุชนุ่ม อดีตกัปตันทีมของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เล่นให้กับทีมมาอย่างยาวนานกว่า 9 ปี ตั้งแต่ปี 2009 โดย "กัปตันกบ" ผ่านจุดสูงสุดกับพลพรรคสายฟ้า โดยเฉพาะการคว้าแชมป์ไทยลีก 6 สมัย , เอฟเอ คัพ 4 สมัย , ลีก คัพ 5 สมัย , ถ้วย ก. หรือ ไทยแลนด์ แชมเปี้ยนส์ คัพ ในปัจจุบันอีก 4 สมัย , โตโยต้า พรีเมียร์คัพ 4 สมัย และ แม่โขง คลับฯ อีก 1 สมัย รวมทั้งสิ้น 24 ถ้วยในระยะเวลา 9 ปี
ติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ไลน์ขอบสนาม
