ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ แมนฯ ยูไนเต็ด ในสภาพทีมที่ค่อนข้างพิการจะสามารถบุกไปเอาชนะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ที่มีดีกรีเป็นถึงรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่แล้วได้ถึงถิ่น 2-1 ประตู ชนิดที่ ผีแดง นั้นเล่นได้ดีเกินคาด โดยมาได้ประชัยในช่วงท้ายเกมจากลูกยิงของ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งเกมนี้มีประเด็นอะไรที่น่าสนใจบ้าง เราเก็บมาเล่าให้ท่านฟังกันแล้ว
การจัดทีม
เชื่อเลยว่าแฟนผีเกิน 60% เห็นรายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงแล้วต้องถึงกับสบถออกมา เพราะว่ากันตามตรงดูจากหน้ากระดาษแล้ว โอเล่ กุนนาร์ โซลชา จัดทีมมาเหมือนรอแพ้ ปอล ป็อกบา มิดฟิลด์ดีกรีแชมป์โลกที่น่าจะรู้ไส้รู้พุง เปแอสเช เป็นอย่างดีเพราะเป็นคนฝรั่งเศส ก็ถูกดรอปเป็นตัวสำรองนัดที่ 2 ติดต่อกัน ส่วน ดอนนี่ ฟาน เดอ เบค ที่ทุ่มทุนซื้อมาเกือบ 50 ล้านปอนด์ ก็ยังคงต้องนั่งตบยุงรอโอกาสบนม้านั่งสำรองต่อไปอีกเกมเช่นกัน โซลชา วางหมากมาในระบบ 5-3-2 ดูก็รู้ว่าเน้นรับแล้วโต้ แต่ดูจากสภาพขุมกำลังที่มี มันไม่น่ารอด เพราะทางฝั่ง เปแอสเช เจ้าถิ่นพี่แกเขาจัดหนักจัดเต็มโดยเฉพาะ 3 แผงกองหน้าที่มาครบทั้ง เนย์มาร์, คีเลียน เอ็มบัปเป้ และ อังเคล ดิ มาเรีย
ผี เล่นดีเกินคาด
อย่างไรก็ตาม ลูกทีมของ โซลชา ก็สร้างเซอร์ไพร้ส์พอตัว เพราะเริ่มเกมมารูปเกมไม่ได้เป็นรองอะไรมาก ทรงบอลก็ดีใช้ได้ มารับแล้วโต้ตามหมากที่วางไว้ ซึ่งทำได้ดีแล้วก็มีสวนเสียวๆ เรียกได้ว่ามาดีเกินคาด จนกระทั่งเข้าสู่นาทีที่ 20 ผีแดง ก็มาได้จุดโทษจากจังหวะสวนกลับนี่แหละ อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล โดนเตะร่วงเรียกจุดโทษให้ทีมได้ ซึ่งนี่น่าจะเป็นประโยชน์เดียวของ น้องหมาก ในเกมนี้ เพราะที่เหลือก็มีแต่ถ่วงความเจริญเพื่อน หนำซ้ำยังทำเข้าประตูตัวเองอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นผู้เล่น ผีแดง คนเดียวในเกมนี้ที่เล่นได้น่าผิดหวัง
เอาหละกลับมาที่จังหวะจุดโทษมีดราม่าเบาๆ บรูโน่ ที่พลาดมาในเกมที่แล้ว ยิงทีแรกไปติดเซฟ เคย์เลอร์ นาบาส แต่ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่เพราะ นาบาส ออกมานอกเส้นก่อน ซึ่งการยิงครั้งที่ 2 บรูโน่ ก็นิ่งพอเลือกยิงไปทางเดิมคือทางขวาคราวนี้ นาบาส พุ่งผิด ส่งให้ แมนฯ ยู บุกมาหักปากกาเซียนขึ้นนำก่อน 1-0
พอโดนนำปุ๊ป ปารีส ในฐานะเจ้าถิ่นก็พยายามจะโหมบุกใส่ให้หนักขึ้น แต่นัดนี้ก็ต้องชมเกมรับ รวมถึงแผงมิดฟิลด์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด ว่าทำได้ดีกันมากๆ ไล่ตั้งแต่ ดาบิด เด เคอา นัดนี้โชว์เซฟสวยๆ ไป 4-5 ดอกได้ แถมจริงๆ น่า คลีนชีท ด้วยซ้ำถ้า น้องหมาก ไม่ทะลึ่งบ้องโหม่งเข้าประตูตัวเอง ส่วน วิคตอร์ ลินเดเลิฟ วันนี้ไม่มีพี่ใหญ่อย่าง แม็คไกวร์ คุ้มกะลาหัว แต่เจ้าตัวกลับทำได้ดีมาก ดีกว่าตอนจับคู่กับ แม็คไกวร์ ด้วยซ้ำ ซึ่งคู่หูของพี่แกเกมนี้ก็คือน้องเล็กอย่าง อั๊กเซล ตวนเซเบ้ ที่ได้ลงเล่นเป็นนัดแรกของฤดูกาลก็เจองานใหญ่เลย แต่ไอ้หนูวัย 22 ขวบ ก็ไม่มีกลัวดักจังหวะงามๆ ได้หลายหนโดยเฉพาะจังหวะดัก เอ็มบัปเป้ ในเขตโทษชัดๆ 2 ครั้ง
ขณะที่ทางฝั่งแบ็กขวา เกมรุกสไตล์ลากเลื้อยเลี้ยงจี้เข้าเขตโทษแบบนี้ อารอน วาน-บิสซาก้า บอกเข้าทางกูเลยจ้า โชว์สเต็ปกระโดดเสียบสกัดในจังหวะสุดท้ายได้สวยๆ 5-6 ครั้ง เล่นเอา เอ็มบัปเป้ แหยงไปเลยทีเดียว สมฉายาไอ้แมงมุมจริงๆ ถัดมาที่ เฟร็ด และ แม็คโทมิเนย์ มิดฟิลด์คู่กลางที่เป็นตัวคอยตัดเกม นี่ก็ทำได้แจ่มแจ๋ว โดยเฉพาะ เฟร็ดเต้ ที่ไม่รู้ก่อนเกมแม่งกลืน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ ลงท้องไปรึป่าว วิ่งไล่บ้าเป็นม้าดีด เท่านั้นไม่พอยังเชื่อมบอลทำเกมบุกเปลี่ยนจากรับกลายเป็นรุกได้อย่างสะเด่าชิพหาย
ส่วนแผงเกมรุกไม่ต้องอธิบายอะไรให้มากความ บรูโน่ แฟร์นันเดส เก่งและสำคัญเหมือนเดิม แถมเกมนี้ได้เปิดซิงสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีม ผีแดง ซะด้วย ซึ่งก็ถือว่าทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้านท่าน มาร์คัส แรชฟอร์ด คนนี้ก็ดี ขยันวิ่งไล่หาช่องจ่ายบอลทำทาง อาจจะมีบ้างที่ตัดสินใจผิดพลาดในจังหวะสุดท้าย แต่ท้ายสุดเขาก็คือฮีโร่ผู้ซัดประตูชัยให้ ผีแดง เก็บ 3 คะแนนสำคัญนี้มาครองได้สำเร็จ
อเล็กซ์ เตลลิส
อีกหนึ่งคนที่น่าสนใจในเกมนี้คือ อเล็กซ์ เตลลิส ที่ถูกส่งชื่อลงเล่นเป็นตัวจริงในเกมนี้เลย ในตำแหน่งฟลูแบ็กฝั่งซ้าย และเขาก็เป็นคนแรกในบรรดา 5 แข้งใหม่ที่ แมนฯ ยูไนเต็ด กระชากตัวเข้ามาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาด้วยที่ได้ลงเล่นในถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนสื ลีก กับทีมใหม่ก่อนใครเพื่อน โดยสิ่งนึงที่ผมมั่นใจเลยว่าแฟนผีตื่นเต้นกับการได้เห็น เตลลิส อยู่ในสนามนั่นคือการครอสบอลและเปิดลูกเตะมุมที่ได้ลุ้นซะเหลือเกิน เป็นการเปิดบอลแบบโค้งๆ แต่สุดท้ายก็ย้อยมาเข้าเป้า เรียกได้ว่าเพิ่มมิติในลูกเซ็ตพีทหรือเตะมุมให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ได้มากทีเดียว เพราะ ผีแดง ขาดคนเตะมุมดีๆ แบบนี้มานานแล้ว ไม่งั้นครั้งนึงไม่โง่ไปลองเอา ฟิล โจนส์ ไปเตะหรอก จริงมั้ยหละ?
วนลูป โซลชา
ไม่รู้ว่าบูชาไอ้ไข่ หรือแขวนพระวัดไหนกันแน่สำหรับ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ น้าลูกอม แกมีข่าวจะถูกไล่ออกแล้วอยู่ๆ ทีมก็กลับมาฟอร์มดีแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยซะอย่างงั้น หากจำกันได้ช่วงมีนาคมปีที่แล้ว ก็ร่อแร่จะตกรอบถ้วยนี้อยู่ๆ ก็บุกชนะ เปแอสเช 3-1 พลิกผ่านเข้ารอบ แชมเปี้ยนส์ ลีก หน้าตาเฉย จากนั้นก็เป็นช่วงต้นฤดูกาลที่แล้ว ที่ผ่านไป 9 เกมแรกเพิ่งเก็บได้แค่ 10 คะแนน มีข่าวจะโดนปลดปุ๊ป พี่แกก็จัดให้บุกไปชนะ นอริช 3-1
ต้นปี 2020 ก็มีแมตซ์เซฟเก้าอี้คือบุกชนะ เชลซี ถึงสแตมฟอร์ด บริดจ์ 2-0 แล้วก็นี่แหละสดๆ ร้อนๆ เปิดหัวฤดูกาลนี้ แพ้ พาเลซ ชนะ ไบร์ทตัน แบบหืดจับ แล้วก็มาแพ้ สเปอร์ส เละเทะคาบ้าน 6-1 ใกล้เต็มทีกับการโดนไล่ออก แต่ก็บุกถล่ม นิวคาสเซิ่ล ได้ 4-1 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และล่าสุดก็คือเกมนี้นี่เอง นั่นทำให้เก้าอี้ของเขากลับมาแข็งแรงอีกครั้งเรียบร้อยแล้ว
แถมชัยชนะเกมนี้ยังเป็นการชนะเกมเยือน 10 นัดติดรวมทุกถ้วยทุกรายการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสรอีกด้วย ขนาดตอน เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน คุมยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แถมนัดนี้ต้องให้เครดิตน้าแกด้วยที่กล้าเปลี่ยนแผน ส่ง ป็อกบา ลงมาแทน เตลลิส พลางเปลี่ยนระบบจาก 5-3-2 เป็น 4-3-1-2 ซึ่งทำให้รูปเกมดูดีชึ้นชัดเจน จนเป็นที่มาของชัยชนะ
ชิน ชินพัฒน์
