บ๊ายบาย UCL! ผี ไม่ดีพอบุกแพ้ ไลป์ซิก 3-2 ร่วงบิ๊กเอียร์

เริ่มต้นกันที่การจัดทีมก่อนเลย แม้ว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา กุนซือโลกสวยของ แมนฯ ยู เนี่ย จะออกมาพูดก่อนเกมว่าจะบ้าหรอ ให้มาเล่นเกมรับเน้นเอา 1 แต้มแล้วผ่านเข้ารอบ ไม่เอาๆ นี่มันไม่ใช่วิสัยของ แมนฯ ยู เลยนะ ยังไงก็ต้องจัดหนักชุดใหญ่ใส่เต็ม เอา 3 แต้มไว้ก่อน 

  แต่ครับแต่ พี่น้องเอ้ยยย พอสุดท้าย โซลชา ส่ง 11 ตัวจริงลงมา แม่งใส่หลังเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 3 ตัว ไอสัส!! แล้วมาบอกว่า DNA ผีแดงคือเกมบุกไม่มีหรอกเล่นเพื่อเสมอ แต่คือมึงจัดทีมมาก็ชัดแล้ว ใช้ แฮร์รี่ แม็คไกวร์, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ กับ ลุค ชอว์ ที่เพิ่งหายเจ็บเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ขนาบข้างด้วย อารอน วาน-บิสซาก้า กับ อเล็กซ์ เตลลิส กองกลางไม่มี เฟร็ด เพราะติดโทษแบนก็วาง สก็อตต์ แม็คโทมิเนย์ จับคู่กับ เนมานย่า มาติช บรูโน่ แฟร์นันเดส ทำเกมให้คู่กองหน้า มาร์คัส แรชฟอร์ด กับ เมสัน กรีนวู้ด ขณะที่ทางฝั่งเจ้าถิ่น ก็จัดมาเต็มเท่าที่จะจัดได้เหมือนกัน ไม่มี ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ที่ติดโทษแน แต่ก็มี อิบราฮิมา โกนาเต้ เป็นเซ็นเตอร์ตัวหลัก ขนาบข้างด้วยแบ็กอย่าง อังเคลินโญ่ ที่ก่อนหน้านี้มีประเด็นกับแฟนผีเรื่องปากดีบอกว่า แมนฯ ยู 3 วันดี 4 วันไข้ ไม่ได้เก่งกาจอะไร ส่วนตัวรุกก็มี เอมิล ฟอร์สเบิร์ก, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และ ดานี่ โอลโม่ เป็นต้น เปิดฉากเริ่มเกมมาได้แค่ 2 นาที ไลป์ซิก เจ้าถิ่นก็ชิงขึ้นนำซะแล้ว จากจังหวะที่ มาร์เซล ซาบิตเซอร์ โผล่ขึ้นมาทางขวาแล้วเปิดบอลข้ามมาให้ อังเคลินโญ่ ซัดเข้าประตูไปไม่มีเหลือ บอลพุ่งเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ไลป์ซิก ขึ้นนำอย่างรวดเร็ว และกุมความได้เปรียบเอาไว้ได้ก่อน หลังจากโดนนำ แมนฯ ยูไนเต็ด ทีมขวัญใจมหาชน ก็ยังดูเหมือนตั้งตัวไม่ติด สะเปะสะปะไปมาจนกระทั่งนาทีที่ 13 ก็มาโดน ไลป์ซิก ทิ้งห่างออกไปเป็น 2-0 ซะอย่างงั้น จากจังหวะที่ อังเคลินโญ่ เติมเกมรุกขึ้นมาแล้วเปิดบอลไปเสาไกลให้ อมาดู ไฮดาร่า สอดมาแปด้วยขวาผ่านมือ ดาบิด เด เคอา เข้าประตูไป ส่งผลให้เจ้าถิ่นขึ้นนำ 2-0 ตังแต่ยังไม่ถึงครึ่งทางของครึ่งแรกเลย หลังจากโดน 2-0 ผีแดง ก็พยายามเปิดเกมรุกบุกเข้าใส่เจ้าถิ่นอย่างหนัก แต่มันก็ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันสักเท่าไหร่ พลางโดนสวนกลับ เกือบโดน 3-0 ซะด้วย ยังดีที่รอดมาได้ แล้วก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้ เริ่มครึ่งหลังมา โซลชา นี่รีบแก้เกมเลยนะ ส่ง ดอนนี่ ฟาน เด เบค ลงเล่นแทน อเล็กซ์ เตลลิส พลางขยับกลับมาเล่นแผน หลัง 4 รวมแบ็ก แต่มันก็ยังไม่ได้ทำให้อะไรดีขึ้น ครึ่หลัง แมนฯ ยู ก็ยังเล่นตื้อๆ ตันๆ อยู่เหมือนเดิม มีดีสุดได้ลุ้นสุดก็จังหวะที่ บรูโน่ แฟร์นันเดส ซัดฟรีคิกไปชนคาน แล้วเมื่อทำไม่ได้ ตีไข่แตกไม่สำเร็จ มันก็โดนสิค้าบ กลายเป็น ไลป์ซิก มาได้ประตูหนีห่างเป็น 3-0 พูลสวัสดิ์จาก จัสติน ไคล์เวิร์ต ในนาทีที่ 69 เรียกได้ว่าแทบจะดับความหวังแฟนผีไปเลย แต่ครับแต่ นี่มนเป็นเกมเยือนในยุคโซลชานะเว้ย ผีแดงไม่มียอมง่ายๆ อยู่ๆ ก็มาได้จุดโทษปลุกความหวังซะอย่างงั้น ในนาทีที่ 79 อิบราฮิมา โกนาเต้ ไปเบียด เมสัน กรีนวู้ด ร่วงลงไปในเขตโทษ ผู้ตัดสิน ไม่ลังเลชี้เป็นจุดโทษทันที แล้วก็เป็น บรูโน่ แฟร์นันเดส ที่สังหารเข้าไปไม่เหลือ ผีแดงไล่มาห่างๆ 3-1 แต่มันยังไม่หมดหวังหนะสิครับเพราะอีกแค่ไม่กี่อึดจ แมนฯ ยู ก็มากู้สถานการณ์จากที่ตามหลัง 3 เม็ดให้ได้มีหวังอีกครั้ง เพราะ ปอล ป็อกบา ที่ล่าสุดนี่ มิโน่ ไรโอล่า เอเย่นต์ส่วนตัวพูดชัดเจนแล้วว่า รอย้ายออกจากทีม ก็มาโขกให้ ผีแดง ไล่มาเป็น 3-2 พร้อมกับเหลือเวลาอีก 8 นาทีเต็ม ไม่รวมทดเวลาบาดเจ็บ ถ้า โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ทำได้อีก นี่ก็คงไม่แปลกถ้าผู้คนจะเรียกว่า โอเล่ ไทม์ เหมือน เฟอร์กี้ ไทม์ แต่ท้ายที่สุดมันก็ทำไม่ได้ไง ผีแดง แพ้ไป 3-2 ประตู ตกรอบแบ่งกลุ่มศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซะอย่างงั้น ทำได้ดีสุดแค่ลงไปเล่นในถ้วย ยูโรปา ลีก   

ชิน ชินพัฒน์