นับเป็นความรู้สึกที่ช็อก และ เซอร์ไพรส์ มากเหมือนกัน ที่จู่ๆ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ประกาศปลด โธมัส ทูเคิ่ล พ้นตำแหน่งกุนซือ แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย เพราะก่อนหน้าแค่ 1 คืน เขาเพิ่งพาทัพ เปแอสเช ไล่ถล่ม สตารส์บูร์ก 4-0
แต่เชื่อเถอะว่า มันเป็นสิ่งที่บอร์ดบริหาร ปารีส ไตร่ตรองมาแล้ว ถึงการปลดครั้งนี้ ว่ากันว่าได้ทาบทามว่าที่กุนซือคนใหม่อย่าง เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ มานานถึง 1 สัปดาห์ สาเหตุใดทำไม เปแอสเช ถึงตัดสินใจปลด ทูเคิ่ล ทั้งๆที่มีดีกรีพาทีมประสบความสำเร็จ ไปติดตามและวิเคราะห์ร่วมกัน
- ผลงานไม่เป็นไปตามเป้า
จะว่าไป โธมัส ทูเคิ่ล คือกุนซือที่พา ปารีส แซงต์-แชร์กแมง เข้าใกล้ฝั่งฝันกับคำว่าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก มากที่สุด แต่น่าเสียดายที่ไปแพ้ให้กับ บาเยิร์น มิวนิค รอบชิงชนะเลิศ ซึ่งต่อให้ขยับไปเฉียดคำว่า "ใกล้" แต่จุดหมายก็ไม่สำเร็จลุล่วงอยู่ดี
แต่พอลากยาวมาถึงซีซั่นนี้ ผลงานกลับไม่เป็นแบบนั้น จริงอยู่ที่ ทูเคิ่ล สามารถพา ปารีส ตีตั๋วเข้ารอบ ยูซีแอล ได้เหมือนเดิม แต่กระนั้นเป็นการเข้ารอบแบบกระท่อนกระแท่นเหมือนกัน เพราะช่วง 3 นัดแรก แพ้ไปถึง 2 นัด ให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ไลป์ซิก ก่อนจะล้างแค้นได้ใน 3 นัดสุดท้าย
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่เพียงแค่ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เพราะฟอร์มบนเวที ลีก เอิง ฝรั่งเศส ก็ออกทะเลไปหลายนัด โดย 17 นัดที่ผ่านมา "เปแอสเช" แพ้ไป 4 เกม ตอนนี้รั้งอยู่อันดับ 3 ตามหลัง โอลิมปิก ลียง จ่าฝูงแค่ 1 แต้ม กระนั้นทีมอย่าง ปารีส ที่มีสตาร์เต็มที่ มันเป็นที่ที่ไม่ควรอยู่เท่าไหร่ แน่นอนว่า ทูเคิ่ล ต้องรับผิดชอบ
- ขาดสตาร์เหมือนขาดใจ
หากจำกันได้ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ที่นักเตะ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง โดนเชื้อ โควิด-19 เล่นงานอยู่ถึง 6-7 คน อาทิ เนย์มาร์ และ คีเลี่ยน เอ็มบัปเป้ ซึ่งนับเป็นสตาร์ดังล้วนๆ นั่นจึงเป็นการวัดฝีมือของ ทูเคิ่ล ไปในตัวด้วยว่า เมื่อไม่มีเหล่าซุปตาร์คอยเป็น "เดอะ แบก" กุนซือชาวเยอรมัน จะแสดงอิทธิฤทธิ์ให้เห็นได้ดีแค่ไหน
ปรากฏว่า ช่วงนั้น ปารีส พ่ายแพ้ถึง 2 เกม ให้กับ ล็องส์ และ โอลิมปิก มาร์กเซย ด้วยสกอร์ 0-1 นับเป็นอะไรที่ดูไม่จืดเลยสำหรับผลงานของ ทูเคิ่ล จริงอยู่ที่การขาดบรรดานักเตะตัวหลักถึง 6-7 คน มันย่อมส่งผลต่อฟอร์มการเล่นอยู่แล้ว
แต่มันก็เหมือนเป็นตัวประเมินของ บอร์ดบริหาร ปารีส ว่า ทูเคิ่ล จะได้ไปต่อหรือไม่ ยิ่งฤดูกาลนี้ ความพ่ายแพ้ที่เกิดขึ้น แทบจะเป็นการเจอกับทีมใหญ่ทั้งหมด เพราะนอกจาก 2 เกมที่กล่าวไปแล้ว ขุนพล "เปแอสเช" ยังแพ้ทั้ง โมนาโก 2-3 และ พ่ายต่อ โอลิมปิก ลียง 0-1 ซึ่งนี่อาจเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ชะตาขาดในที่สุด
- บารมีไม่ถึง
ประทานโทษ ไม่ได้เป็นการดูถูกในฝีมือ หรือ โปรไฟล์ของ ทูเคิ่ล แต่อย่างใด เพราะก็สามารถพา ปารีส ทำภารกิจสำเร็จ ด้วยการคว้าแชมป์ลีก เอิง ฝรั่งเศส 2 สมัย ซึ่งเป็น ทริปเปิ้ลแชมป์ ได้ด้วย เมื่อซีซั่นก่อน อย่างไรก็ตามผู้คนมักเย้ยหยันว่า นั่นคือของตาย ไม่ได้แชมป์อะไรเลยในประเทศซิแปลก !
เรื่องผลงานได้วิเคราะห์ไปแล้วในข้อแรกว่ามีส่วนที่ทำให้ ทูเคิ่ล ถูกเด้งพ้นกุนซือ แต่ก็มีอีกหนึ่งอย่างที่ไม่สามารถตัดออกไปได้เลย คือเรื่องของ "บารมี" การดึงดูดนักเตะระดับซูเปอร์สตาร์อาจยังทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องอำนาจเงินที่ นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร พร้อมเปย์ให้มากกว่า
อีกเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือถ้าคุณหลับตา แล้วนึกถึง ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คุณจะนึกถึงพวก เนย์มาร์ เอ็มบัปเป้ เป็นลำดับแรก เผลอๆชื่อของ ทูเคิ่ล ไม่ได้แวบมาด้วยซ้ำ ซึ่งมันก็เชื่อมโยงไปถึงบารมี ด้วย เพราะถ้า เปแอสเช ต้องการความสำเร็จถ้วย แชมเปี้ยนส์ ลีก นอกจากนักเตะแล้ว บางทีกุนซืออาจต้องมีโปรไฟล์ที่ใหญ่กว่านี้ .. แต่มันก็ไม่ได้ความว่าโค้ชเบอร์ใหญ่มาจะสำเร็จ เพียงแต่อาจเป็นมุมมองของบอร์ดบริหารมากกว่า
- หักหน้าบอร์ดบริหาร
อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง ไม่ค่อยพอใจในตัว โธมัส ทูเคิ่ล ก็เป็นเพราะการไม่ให้ความเคารพต่อบอร์ดบริหาร โดยเฉพาะเรื่องของการให้สัมภาษณ์ ไม่ว่า เปแอสเช จะกำลังเจอกับปัญหาอะไร จะภายนอกหรือภายใน เราจะสังเกตเห็นได้ว่า โธมัส ทูเคิ่ล แทบจะไม่ถ่อมตัวเลยสักนิด อาทิเช่น เรื่องเสริมทัพช่วงตลาดซัมเมอร์ปี 2020 เจ้าตัวก็เล่นเฉ่งยับเลย เพราะสโมสรไม่สามารถซื้อใครมาได้เลยนอกจากการเซ็นขาด เมาโร อิคาร์ดี้ ไหนจะมีเรื่องอนาคตของตัวเอง หลังจบเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศที่แพ้ บาเยิร์น มิวนิค เมื่อซีซั่นก่อน ที่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจของบอร์ดบริหาร ตัวของ ทูเคิ่ล ก็พูดออกมาหมดเปลือกซึ่งมันส่งผลให้ภาพลักษณ์ของสโมสรเสียหาย รวมถึงเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย
